New Year’s Resolution เริ่มต้นปี 2568 แบบเป็นคนใหม่!

New Year’s Resolution คือการตั้งปณิธานสำหรับสิ่งที่ต้องการทำเมื่อเริ่มปีใหม่ เช่น อยากลดน้ำหนัก , อยากทำธุรกิจ , อยากมีเงินเก็บมากขึ้น เป็นต้น แต่ New Year’s Resolution ก็เป็นแค่ความคิดและปรากฏว่ามีถึง 80% ที่เป็นเหมือนไฟไหม้ฟาง คึกคักแค่วูบเดียว สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ

จากข้อมูลยังพบอีกว่า ผู้ตั้งปณิธานปีใหม่ 43% จะล้มเลิกภายในเดือนกุมภาพันธ์ และอีก 23% ที่ล้มเลิกตั้งแต่สัปดาห์แรก โดยที่สาเหตุหลักก็เป็นเพราะการตั้งปณิธานปีใหม่ ไม่ได้สอดคล้องกับสิ่งที่จะทำ ซึ่งถ้ามองหาเหตุผลว่าอะไรที่ทำให้ New Year’s Resolution ล้มเหลวก็มี 3 เหตุผลหลักๆคือ

  1. สิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองมาจากค่านิยมในสังคม หรือเป็นเทรนด์
  2. สิ่งที่อยากทำยังดูครุมเครือ และไม่ชัดเจน
  3. แผนที่คิดไว้เกินความเป็นจริง จนเข้าข่ายเป็น ‘ฝันลมๆ แล้งๆ’

แต่ก็ใช่ว่า New Year’s Resolution จะล้มเหลวไปทั้งหมด ยังมีข้อมูลอีกว่ามี 9% ของคนที่ทำได้สำเร็จ แต่กว่าจะสำเร็จได้ก็อาจต้องผิดหวัง ผิดพลาด แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ ปรับเปลี่ยนวิธีเพื่อไปสู่เป้าหมายจึงทำให้คนกลุ่มนี้สามารถทำ New Year’s Resolution ได้สำเร็จ

ถ้าไปดูว่าเรื่องไหนที่คนตั้งเป้าเป็น New Year’s Resolution มากที่สุด โดยกลุ่มคนอายุ 18-34 ปี มีการตั้ง New Year’s Resolution มากสุดถึง 38.5% เรื่องหลักๆ ก็เช่นการออกกำลังกายที่มากขึ้น การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การลดน้ำหนัก การเก็บออมเงิน เป็นต้น

อยากทำให้สำเร็จต้องใช้ ทฤษฏี 21-Day Habit Theory

New Year's Resolution เริ่มต้นปี

ใน 1 ปีทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 365 วัน หรือ8,760 ชั่วโมง คิดเป็นนาทีคือ 525,600 นาที แต่คนส่วนใหญ่กลับล้มเลิก New Year’s Resolution ภายใน 21 วัน ซึ่งบางคนอาจทำได้เกินกว่านั้นแต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย สอดคล้องกับทฤษฏี 21 วัน (21-Day Habit Theory) ที่กล่าวว่าการเปลี่ยนนิสัยโดยการทำพฤติกรรมบางอย่างซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน หากทำได้ พฤติกรรมนั้นจะกลายมาเป็นนิสัยใหม่ก็คือเป็นการสร้างนิสัยใหม่ขึ้นมาแทนนิสัยเดิม

แต่จนแล้วจนรอดคนส่วนใหญ่ก็ “ทิ้งนิสัยเดิม” หรือ “ความคุ้นชินแบบเดิมๆ” ของตัวเองไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายมีด้วยกันหลายเหตุผล ทั้งการตั้งเป้าหมายที่ไม่เคยคิดจะจริงจัง ,ไม่มีความพยายาม , มีความอยากแต่ไม่มีความอดทน เป็นต้น ยิ่งนิสัยคนไทย ที่รักสนุก รักสบาย ยังไงก็ได้ ไม่ค่อยจริงจังกับชีวิต ทำให้เป้าหมายกลายเป็นแค่ความคิด คือฮึกเฮิมแค่ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

7 วิธีพิชิต New Year’s Resolution ให้ได้!

สำหรับคนที่ใจสู้และอยากก้าวสู่ New Year’s Resolution ให้ได้จริงมีวิธีที่ควรทำดังนี้

1.จดบันทึกทุกการเปลี่ยนแปลง

เราควรจดบันทึกว่าตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพื่อให้เรารู้ปัญหาและหาวิธีแก้ไข เช่นถ้าอยากเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาทภายใน 1 ปี ต้องตั้งเป้าว่าจะเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ จะหาเงินมาเพิ่มอย่างไร และการบันทึกผลในแต่ละเดือนจะทำให้เรารู้ว่าเดือนที่ผ่านมาเรามีรายได้เท่าไหร่ ต้องการอีกเท่าไหร่ และควรพัฒนาวิธีหาเงินอย่างไรต่อไปได้

2.ให้รางวัลตัวเองสร้างแรงจูงใจ

ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเป้าหมายสุดท้ายในระหว่างทางที่เรากำลังไปถึงเป้าหมาย ก็ควรมีรางวัลให้กับตัวเองเล็กๆน้อยๆ เช่นซื้อของให้ตัวเองที่สามารถเก็บเงินได้ถึง 10,0000 เป็นต้น

New Year's Resolution เริ่มต้นปี

3.โฟกัสแต่เป้าหมายที่ต้องไปถึง

ควรเลือกเป้าหมายหลักที่จะทำจริงๆ เท่านั้นโฟกัสแต่เรื่องเดียวที่เราต้องการจะทำ เพื่อให้มีเวลาในการจัดสรรวิธีการที่ตรงประเด็นมากที่สุด

4.ควบคุมปัจจัยเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด

สาเหตุที่ทำให้เราไม่ถึงเป้าหมายส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ดังนั้นเราต้องพยายามควบคุมตัวแปรต่างๆ ให้น้อยที่สุด เช่นถ้าอยากเก็บเงิน 1 แสนใน 1 ปี ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องควบคุมคือการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหลาย

เทรนด์ตลาดครึ่งปีหลัง 2024

5.ทำตามเป้าหมายแบบขั้นบันได

ในระยะเวลา 1 ปีควรกำหนดให้ชัดเจนว่า 3 เดือนจากนี้เราควรอยู่ตรงไหน หรือ 6 เดือนต่อจากนี้ควรอยู่ตรงไหน และพยายามไปตามลำดับขั้นนั้น

6.บอกต่อเป้าหมายของเราให้คนอื่นรู้

การแชร์เป้าหมายของเราให้คนรอบตัวรู้ หรือบอกคนในครอบครัวให้รับทราบ มีข้อดีคือจะทำให้เรามีแรงกระตุ้นและเพื่อให้คนอื่นคอยกระตุ้นเตือนเราได้

7.ถ้ารู้ว่าหลุดจากเป้าหมาย ต้องรีบกลับสู่เส้นทางให้เร็วที่สุด

การที่หลุดจากสิ่งที่เราโฟกัสเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้สำคัญคือต้องกลับสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นให้เร็วที่สุด หากปล่อยให้หลุดจากเส้นทางไปเรื่อยๆ สุดท้าย เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ก็คงไปไม่ถึงเหมือนเดิม

การจะพิชิต New Year’s Resolution ไม่มีสูตรเด็ดเคล็ดลับตายตัว สำคัญที่สุดคือตัวเราเอง ถ้าไม่พยายาม ไม่ตั้งใจจริง สุดท้ายเป้าหมายตั้งใจก็เป็นได้แค่ความคิดที่ไม่อาจจับต้องให้เป็นจริงได้ และเมื่อวนมาถึงปีใหม่ก็ต้องมาตั้งใจกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด