Macy’s ประกาศปิดสาขา 30 แห่งต้อนรับปี 2020
เป็นข่าวที่ได้ยินกันอย่างต่อเนื่องกับการปิดร้านค้าปลีกต่างๆโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่การขยายตัวอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ ส่งผลรุนแรงต่อธุรกิจค้าปลีกมากมาย โดยเฉพาะในปี 2019 ที่มีสถิติว่าร้านค้าปลีกในสหรัฐปิดตัวไปแล้วกว่า12,000 แห่ง มากกว่าปี 2018 ที่มีร้านค้าปิดตัว 5,864 แห่ง
และในปี 2020 นี่ก็คาดว่านะมีร้านค้าปลีกอีกไม่ต่ำกว่า 1,700 แห่งจะทยอยปิดกิจการ โดยหนึ่งในนั้นคือห้าง ห้าง Macy’s ที่ www.ThaiSMEsCenter.com ได้ยินข่าวเรื่องการปิดสาขาต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง
และต้อนรับปี 2020 นี้ Macy’s ก็ประกาศปิดอีก 30 สาขา ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจกับหนึ่งในธุรกิจห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ที่สะท้อนให้ธุรกิจในเมืองไทยได้เห็นเป็นกรณีศึกษา
ภาพจาก bit.ly/2QDLbop
ห้าง Macy’s เดิมชื่อ R. H. Macy & Co.ดำเนินกิจการห้างสรรพสินค้าภายใต้บริษัท Macy’s, Inc. โดยดำเนินกิจการ 2 ห้างประกอบด้วยเมซีส์และห้างบลูมมิงเดลส์ (Bloomingdale’s) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1858 ที่นครนิวยอร์ก ปัจจุบันสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ้ มีสาขารวมกว่า 880 แห่งใน 45 รัฐ
ถือเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อันดับที่ 15 ของสหรัฐโดยวัดจากยอดขาย โดยสินค้าที่เป็นไฮไลท์ของ Macy’s เน้นเสื้อผ้าบุรุษและสตรี, รองเท้า, อุปกรณ์ที่นอน, เครื่องประดับ-อัญมณี, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องตกแต่งบ้าน และผลิตภัณฑ์ความงามทุกรูปแบบ
ภาพจาก AP Photo/Gene J. Puskar
จุดเริ่มต้นของการปิดสาขา Macy’s เริ่มตั้งแต่ปี 2015 ที่ประกาศปิดสาขา 14 แห่ง และให้พนักงานกว่า 1,300 ตำแหน่งถูกเลิกจ้าง รวมถึงการวางแผนปิดสาขาต่างๆอีกหลายแห่งด้วย ซึ่งเหตุผลในการปิดสาขาของ Macy’s คือ
- หมดสัญญาเช่า หรือ ทำเลเดิมๆที่เคยรุ่ง กลับฟุบและมีทำเลใหม่ๆที่ดีกว่า
- ผลตอบแทนจากการค้าปลีก ไม่คุ้มค่า ทั้งจากเงินลงทุนเอง และ ทำเลเดิมๆ โดยเลือกหันไปทำกิจการอื่นๆ หรือปล่อยให้เช่าต่อ หรือ พัฒนาไปเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้ผลตอบแทนดีกว่า
ภาพจาก AP Photo/Bebeto Matthews
หลังจากปิด 14 สาขาในปี 2015 ปีต่อมา 2016 Macy’s มีแผนจะปิดสาขาเพิ่มอีก 100 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือหมดสัญญาเช่าพื้นที่ด้วยและเลือกไม่ต่อสัญญา
ซึ่งก็เป็นไปตามแผนของ Macy’s ที่ต้องการลดขนาดและลดรายจ่ายและหันไปสู่ธุรกิจอื่นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจากการปิดสาขาของ Macy’s ต่างได้รับสิทธชดเชยตามกฏหมายอย่างเป็นธรรม
และในปี 2020 นี้ก็เช่นกัน ประกาศจาก Macy’s ว่าจะมีการปิดสาขาเพิ่มอีก 30 แห่งซึ่งกระจายอยู่ในรัฐต่างๆ เช่นที่ แคลิฟอเนีย , ฟลอริด้า (ประมาณ 4 สาขา) , จอร์เจีย (ประมาณ 2 สาขา) , อิลินอยส์ (ประมาณ 2 สาขา) , นิวยอร์ค (ประมาณ 2 สาขา) , โอไฮโอ้ (ประมาณ 3 สาขา) , วอชิงตัน (ประมาณ 3 สาขา) เป็นต้น
ภาพจาก AP Photo/Gene J. Puskar
แต่ใช่ว่า Macy’s จ้องแต่จะปิดสาขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในการลดขนาดธุรกิจและลดรายจ่าย Macy’s ก็มีแผนการฟื้นฟูกิจการตั้งแต่แนวทางการบริหาร,ยุทธวิธีและการย้ายสถานที่บางแห่งเพื่อให้มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นหลังจากยอดจำหน่ายของห้างลดลง รวมทั้งการจะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 30 แห่งภายใน 2-3 ปีข้างหน้าอาทิเช่นบางแห่งอาจให้มีการเช่าดำเนินกิจการต่อหรือขายกิจการ เป็นต้น
ซึ่งไม่ใช่แค่ Macy’s เพียงอย่างเดียวที่มีการปิดสาขาต่างๆ หากดูในปี 2019 ที่ผ่านมา ร้านค้าปลีก Payless ShoeSource ได้ยื่นฟ้องล้มละลายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
และกล่าวว่ามีแผนจะปิดสาขาทั้งหมด 2,500 แห่งเพื่อการชำระบัญชีค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือห้างค้าปลีกที่คนส่วนใหญ่รู้จักอย่าง Walmart ในปีที่ผ่านมาก็ประกาศปิดไป 12 สาขาใน 9 รัฐ และยังมีอีกหลายสาขาที่ประกาศพร้อมจะปิดตัวลง
ภาพจาก bit.ly/2uyQqx9
ในปี 2020 นี้ต้องมาติดตามกันดูว่าผลกระทบจากอีคอมเมิร์ชที่รุนแรงนี้จะส่งผลให้ห้างค้าปลีกในสหรัฐ ปิดกิจการหรือล้มละลายได้อีกมากแค่ไหน
สำหรับในเมืองไทยเองแม้จะไม่รุนแรงเท่าต่างประเทศแต่ก็ประมาทไม่ได้ซึ่งต้องหาวิธีรับมือและปรับตัวเพื่อไม่ให้สูญพันธ์ การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่กฏธรรมชาติแต่มันคือกฏการอยู่รอดของธุรกิจในยุคนี้ด้วย
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/35vDXqz
เลือกแฟรนไชส์น่าสนใจสำหรับลงทุน คลิ๊ก https://bit.ly/37KAHZZ , https://bit.ly/36BrQtI
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงข้อมูลจาก https://bit.ly/2QFA1iW