CP ALL กินรวบ? ร้านกาแฟในเครือ CP ทำไมต้องมีถึง 12 แบรนด์
ถ้าพูดถึงตลาดเครื่องดื่มในเมืองไทยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะตอบไปในทางเดียวกันว่า “ธุรกิจกาแฟ” เมื่อมาดูข้อมูลตลาดกาแฟในไทยยิ่งได้คำตอบเลย ย้อนไปปี 2566 ตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟในบ้าน 33,000 ล้านบาท กาแฟนอกบ้าน 27,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
ข้อมูลจาก Statista คาดการณ์ว่าในปี 2568 ตลาดกาแฟในไทยจะมีมูลค่ามากกว่า 119,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟในบ้านมูลค่ากว่า 25,357 ล้านบาท กาแฟนอกบ้านมูลค่ากว่า 93,555 ล้านบาท มาดูในส่วนการดื่มกาแฟของคนไทยกันบ้าง พบว่าการดื่มกาแฟของคนไทยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2567 คนไทยดื่มกาแฟเพิ่มเป็น 300 แก้ว/คน/ปี จากเดิมดื่มเพียง 150-200 แก้ว/คน/ปี
จากมูลค่าการเติบโตของตลาดกาแฟในไทย และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยหันมาดื่มกาแฟมากขึ้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นแบรนด์กาแฟต่างๆ ทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้อย่างต่อเนื่องหนึ่งในผู้เล่นที่กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดกาแฟในไทยอยู่ตอนนี้ ก็คือ CP
สงสัยหรือไม่ว่า ทำไม CP ALL ต้องทำร้านกาแฟถึง 12 แบรนด์ ทำไมไม่ทำแบรนด์เดียวแล้วขยายไปทั่วไทยเหมือน OR ทำ คาเฟ่ อเมซอน, PT ทำกาแฟพันธุ์ไทย หรือบางจาก ทำอินทนิล ก่อนอื่นมาดูกันว่าร้านกาแฟ 12 แบรนด์ในเครือ CP มีแบรนด์อะไรบ้าง แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไร
สตาร์คอฟฟี่, เบลลินี่ เบค & บรู, ทรูคอฟฟี่, จังเกิลคาเฟ่, อาราบิเทีย คาเฟ่, ออล คาเฟ่, คัดสรร เบเกอรี่, ออล ซีเล็ค, ทรูคอฟฟี่ โก, เชสเตอร์ คอฟฟี่, ออล คาเฟ่ โกลด์ และ บีนนี่ คอฟฟี่
1. True Coffee

เป็นร้านกาแฟที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นคอมมูนิตี้มากกว่าร้านกาแฟ เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ ในร้านมีบริการทั้งเครื่องดื่ม อาหาร เบเกอรี่ และการบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ชูคอนเซ็ปต์ Roastery & Bakery Café ผสมผสานกับนวัตกรรมอัจฉริยะของทรู 5G ปัจจุบันมีจำนวน 123 สาขา มีขายแฟรนไชส์ให้ผู้สนใจ ลงทุนเริ่มต้น 2-3.5 ล้านบาท
2. True Coffee GO

ร้านกาแฟที่ถูกออกแบบและวางคอนเซ็ปต์ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบของผู้บริโภคชาวไทย เป็นร้านแบบคีออส เน้นบริการแบบ Grab & Go เพียงเปิดแอปฯ True Coffee GO ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ทำเลเปิดร้านหลักๆ จะอยู่ตามตึกออฟฟิศใจกลางเมือง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่มีคนพลุกพล่าน ปัจจุบันมีจำนวน 100 สาขา
3. All Café
แบรนด์ร้านกาแฟหลักของซีพีออลล์ เปิดขายใน 7-Eleven ที่มีอยู่มากกว่า 14,000 สาขา แต่สาขาที่มี All Cafe จะมีอยู่ราวๆ 7,000-8,000 สาขาเท่านั้น อย่าลืมว่าสาขาในปั๊ม ปตท. ไม่มี All Cafe เพราะมีคาเฟ่อเมซอนเปิดให้บริการอยู่แล้ว
4. All Cafe Gold
แบรนด์ร้านกาแฟที่แตกไลน์มาจาก All Cafe จับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม เน้นขายใน 7-Eleven ที่มีสาขาตามแหล่งท่องเที่ยว เช่น พังงา กระบี่ สงขลา ภูเก็ต รวมถึงสำนักงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ ที่มีชาวต่างชาติ นอกจากจะมีกาแฟ ชา และเครื่องดื่มต่างๆ ในร้านยังมีโชว์อบเบเกอรี่สด พร้อมอาหารตามสั่งหลากหลายเมนูที่ปรุงสดใหม่ทุกวัน
5. All SELECT

แบรนด์ร้านกาแฟใน 7-Eleven เปิดตัวเมื่อช่วงปลางปี 2567 เป็นร้านกาแฟที่ยกระดับมาจาก All Cafe ใช้พื้นที่เดียวกับ All Cafe แต่รูปแบบร้านแบบพรีเมี่ยม ทั้งการตกแต่งโทนน้ำเงิน ดำ และฟ้า ติดป้ายโลโก้ขนาดใหญ่ที่หน้าเคาน์เตอร์ ใช้สโลแกน All SELECT – Specialty Moments ต่างจาก All Cafe ที่ใช้สีน้ำตาล แดง และส้ม กับสโลแกน Relax Anytime สาขาที่มี All SELECT พนักงานจะใช้ประโยคต้อนรับแทน All Cafe เป็น All SELECT ด้วย ปัจจุบันมี 500 สาขา
6. KUDSAN Bakery & Coffee

แบรนด์ร้านกาแฟของซีพีออลล์ ชูคอนเซ็ปต์ให้เป็น “ไลฟ์สไตล์คาเฟ” สาขาส่วนใหญ่จะใน 7-Eleven เหมือน All Café แต่ต้องเป็นร้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในร้านเน้นขายเบเกอรี่ ขนมปังอบสดใหม่ กาแฟคั่วบดสด และเครื่องดื่มต่างๆ ส่วนกาแฟเป็นกาแฟสดใช้เมล็ดกาแฟผสม ใช้เครื่องชงกาแฟแบบทำมือ ปัจจุบันมีจำนวน 400 สาขา
จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 แบรนด์ All Café, All Cafe Gold, All SELECT และ KUDSAN Bakery & Coffee มีช่องทางจำหน่ายที่สะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย คือ 7-Eleven ทำให้ CP ประหยัดต้นทุนเรื่องทำเลเปิดร้าน ส่งผลให้ขายกาแฟถูกลงได้
7. Jungle Café
เป็นร้านกาแฟรูปแบบ Convenience Store จับกลุ่มลูกค้าระดับคาเฟ่อเมซอน เปิดในโลตัส โก เฟรช มีให้เลือกหลายเมนู มีพระเอกเป็นกาแฟสดพรีเมียม คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ราคาไม่แพงมาก ผสมผสานกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูสุดฮิตชานมไต้หวันแท้ ปัจจุบันมีจำนวน 1,800 สาขา
8. ARABITIA
ร้านกาแฟสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก เปิดอยู่ตามโลตัสกว่า 158 สาขา ทั้งร้านคาเฟ่เต็มรูปแบบ ร้านขนาดเล็ก ใช้วัตถุดิบระดับซูเปอร์พรีเมียม ทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารพร้อมทาน ร้านกาแฟ ARABITIA ยังมีบริการจัดเลี้ยงโอกาสต่างๆ อาทิ ชุดอาหารว่าง ชุดอาหารกลางวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและหน่วยงานต่างๆ อีกด้วย
9. Chester’s Coffee
อีกหนึ่งแบรนด์ร้านกาแฟในเครือ CP เป็นแบรนด์ที่มาเสริม Ecosystem ให้ร้านอาหารในเครือ CP เช่น ร้าน Chester’s ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั่วไป และเป็นลูกค้าประจำของร้าน Chester’s ปัจจุบันมีราวๆ 8 สาขา
10. Star Coffee

เป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ภายใต้บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชนส์ อาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 5,000 สาขาในไทย มีแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย ได้แก่ ไก่ย่างห้าดาว, ไก่ทอดห้าดาว โดยในกลุ่มเครื่องดื่มนั้น Star Coffee เป็น Chain ร้านเครื่องดื่มแบรนด์แรกของบริษัทฯ ปัจจุบันมี 250 สาขาทั่วประเทศ
11. Bellinee’s Bake & Brew
ร้านเบเกอรี่และกาแฟระดับพรีเมี่ยมในบรรยากาศอบอุ่นสไตล์อิตาลี เป็นแบรนด์แฟรนไชส์ร้านกาแฟที่ทางซีพีออลล์นำเข้ามาเปิดตลาดในไทย โมเดลร้านแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู ร้านเบเกอรี่เฮ้าส์ระดับพรีเมี่ยม มีมุมถ่ายรูปให้กับลูกค้า และ เบลลินี่ แกรบ แอนด์ โก ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น กระทัดรัด เหมาะกับ Take Away
Bellinee’s Bake & Brew มีเมนูทั้งคาวและหวาน อาทิ ครัวซองต์นำเข้าจากฝรั่งเศส เบเกอรี่ พิซซ่า อบร้อนๆ จากเตา และเค้กหลากหลายสไตล์ รวมทั้งเครื่องดื่มมากมาย มีกาแฟคั่วสูตรพรีเมี่ยมจากอิตาลี เมนูข้าว หรือ สปาเก็ตตี้ มีให้เลือกเพียบ ปัจจุบันมีจำนวน 105 สาขา และยังขายแฟรนไชส์ให้ผู้สนใจอีกด้วย งบลงทุนเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท
12. Beanie Coffee
แบรนด์ร้านกาแฟน้องใหม่อันดับ 13 ในเครือ CP หลังจากที่แบรนด์แฟรนไชส์ “กาแฟมวลชล” ได้ปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นการโยกรวมกับ Bellinee’s Bake & Brew
Beanie Coffee เปิดตัวเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 ในรูปแบบ Specialty Cloud Café ผลงานจากทีม “เถ้าแก่” ของเครือซีพี เสิร์ฟกาแฟสุดพิเศษ ด้วยเมล็ดกาแฟหลายสายพันธุ์ คัดสรรอย่างพิถีพิถัน สาขาแรก ซ. วิภาวดีรังสิต 62 (ศรีรับสุข)
มีข่าวว่าแบรนด์ร้านกาแฟน้องใหม่ Beanie Coffee เตรียมขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่อยากเปิดร้านกาแฟด้วยนะ
ทำไม CP ต้องทำร้านกาแฟ 12 แบรนด์
การที่เครือ CP แตกแบรนด์ร้านกาแฟทั้งขายแฟรนไชส์และบริหารเองรวมถึง 12 แบรนด์ มีหลายเหตุผล โดยหลักๆ จะเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟและเบเกอรี่ให้ได้มากที่สุด
จะเห็นว่าแบรนด์กาแฟเครือ CP จะจับกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ทุกระดับรายได้ เริ่มตั้งแต่กาแฟราคาประหยัด อาจสูงกว่ารถเข็นหน่อยก็ All Café ราคากลางๆ KUDSAN Bakery, Jungle Café, Star Coffee ราคาระดับพรีเมียม Bellinee’s Bake & Brew ขณะเดียวกัน CP ก็ยังจับกลุ่มลูกค้าที่ชอบบรรยากาศ ทำงานไปด้วย ดื่มกาแฟไปด้วย ก็มี True Coffee ไว้รองรับ
ถึงแม้ว่าบางแบรนด์จะดูแล็กๆ แต่เมื่อนำสาขาของแต่ละแบรนด์มารวมกันจะพบว่ามีจำนวนมากกว่า 10,000 สาขาเลยทีเดียว มากกว่ากาแฟดังหลายๆ แบรนด์รวมกันอย่าง คาเฟ่ อเมซอน, สตาร์บัคส์, กาแฟพันธุ์ไทย, อินทนิล และอื่นๆ
อีกหนึ่งเหตุผลที่เครือ CP ทำร้านกาแฟหลายแบรนด์ คือ เครือซีพีมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในหลายๆ ด้าน หลายคนถ้าออกจากซีพีสามารถก้าวขึ้นมาเป็น “เถ้าแก่” ได้เลย ดังนั้น CP จึงต้องใช้บุคลากรเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กร ด้วยการแตกไลน์ธุรกิจหลากหลายให้ครอบคลุม หลังจากนั้นเอาคนเหล่านี้ไปบริหาร หนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจกาแฟ
อย่างแบรนด์กาแฟน้องใหม่เครือ CP ล่าสุด Beanie Coffee ก็เกิดขึ้นจากทีม “เถ้าแก่” ของเครือ CP เช่นกัน
เหตุผลสุดท้าย เครือ CP มีระบบซัพพลายเชนที่ครอบคลุม ตั้งแต่เมล็ดกาแฟ โรงคั่ว ไปจนถึงซัพพลายเครื่องชงกาแฟ โดยมีบริษัทในเครืออย่าง “รีเทลลิงค์” คอยดูแลเรื่องการซัพพอร์ตเครื่องชงกาแฟ ดังนั้น การรุกตลาดกาแฟของเครือ CP จึงเป็นในรูปแบบ Brand Portfolio Strategy ทำให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ตลาด และกินรวบทุกกลุ่มลูกค้า
แหล่งข้อมูล
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)