BEST Express มั่นใจก้าวสู่ “ผู้นำด้านจัดส่งสินค้า” ด้วยระบบแฟรนไชส์

คาดหมายว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในเมืองไทยปี 2565 จะมีมูลค่าสูงกว่า 50,000 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตแบบก้าวกระโดดคือตลาดออนไลน์ที่เฟื่องฟูอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการลงทุนในธุรกิจรับส่งสินค้าและพัสดุเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่พร้อมสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มุ่งเป้าพร้อมขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ที่จะเข้าถึงความต้องการของผู้ลงทุนได้ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ลงทุนควรเลือกแฟรนไชส์ด้านการจัดส่งสินค้าและพัสดุที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์เพื่อตอบโจทย์การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น

BEST Express เดินหน้าขยายสาขา “ใช้ระบบแฟรนไชส์ 100%”

ผู้นำด้านจัดส่งสินค้า

BEST Express ผู้ให้บริการรับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ 100% เจ้าเดียวในประเทศไทย มอบสิทธิ์ในการบริหารจัดการพื้นที่กับเจ้าของแฟรนไชส์ขนส่งอย่างเต็มที่ ทำให้สามารถขยายสาขาแฟรนไชส์ได้อย่างรวดเร็วผสมผสานกับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในทุก ๆ กลุ่ม เช่น

  • บริการ “BEST Tracking Alert” บริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติผ่าน LINE Official Account การันตีโดย 3 รางวัลคุณภาพจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและนิตยสาร Business+
  • บริการ “BEST Big Parcel” ส่งพัสดุขนานใหญ่ได้ปริมาตรสูงสุดถึง 300 กิโลกรัม และสามารถใช้บริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ฟรี!แบบไม่มีขั้นต่ำ
  • บริการ BEST Cross Border ส่งพัสดุข้ามประเทศ ไทย-มาเลเซีย และ ไทย-จีน รวมถึงการจับมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชรายใหญ่จากจีน เป็นต้น

ปัจจุบัน BEST Express มีศูนย์บริการสาขากว่า 1,100 สาขา ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ และยังมีเครือข่ายเบสท์ขยายครอบคลุม 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยไทย เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา และในอนาคตอันใกล้ BEST Express มีแผนจะขยายธุรกิจขนส่งด่วนให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจขนส่ง

ทิศทางการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ “BEST Express”

ผู้นำด้านจัดส่งสินค้า

ด้วยวิสัยทัศน์ในการบริหาร และการมองตลาดที่ยาวไกล ทำให้ BEST Express มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงมาก ถ้าลองย้อนไปดูตั้งแต่ปี 2019 จะพบว่า BEST Express มีสาขาแฟรนไชส์รวมเพียง 212 แห่ง มาถึงปี 2020 ที่อัตราการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้นรวดเร็ว มีจำนวนการขนส่งพัสดุเติบโตกว่า 380% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

และมาถึงในปี 2021 อัตราการขนส่งพัสดุก็ยังโตต่อเนื่องกว่า 200 % ทำให้อัตราการขยายสาขาเพิ่มจำนวนอย่างมากจนปัจจุบันมีกว่า 1,100 สาขา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยแบ่งรูปแบบแฟรนไชส์ออกเป็น 3 ประเภท คือ แฟรนไชส์หลัก (First-Franchise) แฟรนไชส์รอง (Sub- Franchise) และ BEST Family (หน้าร้านรับพัสดุ)

5 จุดเด่นของ “BEST Express” ที่ทำให้คนสนใจต้องการลงทุน

ผู้นำด้านจัดส่งสินค้า

1.มีบริษัทระดับโลกเข้าร่วมลงทุน

การมีบริษัทชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจ เช่น Alibaba และ Foxconn ทำให้ BEST Express กลายเป็นบริษัทขนส่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนไทยที่คิดจะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์กับ BEST Express

2.ระบบการจัดการที่มีคุณภาพ

BEST Express มีการพัฒนาระบบการจัดการแฟรนไชส์ ปรับปรุงระบบการรับและขนส่งพัสดุลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก ตอบโจทย์ความต้องการผู้ลงทุนที่ต้องการกำไรได้อย่างดี

ผู้นำด้านจัดส่งสินค้า

3.ได้ % กำไรทั้งจากขารับและขากระจาย

รูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ขนาดใหญ่สุดจะได้สิทธิดูแลพื้นที่ระยะยาวและจะได้ส่วนแบ่งจากพัสดุขารับประมาณ 30% – 45% และขาส่งราว ๆ 18% – 38%โดยอัตราส่วนแบ่งจะขึ้นอยู่กับพื้นที่รับผิดชอบ, จำนวนพัสดุในแต่ละวัน, ความแตกต่างของพัสดุ เป็นต้น

4.มีบริการจัดส่งพัสดุสินค้าที่หลากหลาย

จุดเด่นของ BEST Express คือ งานบริการที่หลากหลาย บริการ Bulky Parcel ที่สามารถขนส่งพัสดุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 300 กิโลกรัมได้ หรือบริการ BEST Cross Border ที่ลูกค้าสามารถส่งพัสดุไปยังประเทศจีน, มาเลเซีย และกัมพูชา รวมมีแผนเพิ่มงานบริการที่จะขยายไปยังประเทศเวียดนาม, สิงคโปร์, ลาว จนถึงในทวีปยุโรปและอเมริกาอีกด้วย

14

ภาพจาก แฟรนไชส์ เบสท์ เอ็กซ์เพรส

5.โอกาสเติบโตทางธุรกิจที่ดีในระยะยาว

กระแสของตลาดออนไลน์ที่นับวันจะยิ่งเติบโตมากขึ้น การลงทุนในธุรกิจจัดส่งสินค้าและพัสดุนับวันจะยิ่งเฟื่องฟู ซึ่ง BEST Express มีประสบการณ์ในงานด้านนี้อย่างดี และมีทีมงานคุณภาพคอยสนับสนุนและดูแลผู้ลงทุนทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยมีหลายสาขาที่ประสบความสำเร็จ เช่นสาขาที่พิษณุโลกที่สามารถขยาย Drop Point ได้มากกว่า 20 แห่ง และมีการเติบโตทางธุรกิจที่รวดเร็วอย่างมาก หรือBEST Express สาขาเทพารักษ์ที่เริ่มต้นลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์รอง (Sub- Franchise) และใช้เวลาเพียง 1 ปีสามารถเลื่อนขึ้นมาลงทุนแบบแฟรนไชส์หลัก (First-Franchise) ได้ และมีโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้ได้มากขึ้นด้วย

ลำปางที่สามารถคืนทุนได้ตั้งแต่เดือนที่ 2 มียอดส่งพัสดุเติบโต 600% ในเวลาแค่ 5 เดือน หรือ BEST Express สาขาสุรินทร์ที่ สามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรกและมีต่อเดือนเป็นเลข 6 หลักขึ้นไป

โปรโมชั่นพิเศษ! ลงทุนวันนี้พร้อมลดค่าแฟรนไชส์กว่า 50%

สำหรับคนที่กำลังมองหาโอกาสและช่องทางในการลงทุน ตอนนี้ BEST Express จัดหนักจัดเต็ม โปรโมชั่นสุดพิเศษ ลงทุนวันนี้ พร้อมลดค่าแฟรนไชส์กว่า 50% โดยสิทธิที่แฟรนไชส์หลักจะได้รับคือเปอร์เซ็นต์รายได้ทั้งขารับและขาส่ง , อิสระในการบริหารแฟรนไชส์อย่างเต็มที่ , การสนับสนุนด้านระบบการจัดการและการทำงานของเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงมีการจัดฝึกอบรมให้แฟรนไชส์อย่างต่อเนื่องด้วย

โดยการลงทุนแฟรนไชส์กับ BEST Express เฉลี่ยแล้วมีระยะเวลาการคืนทุนโดยประมาณอยู่ที่ 3 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับทักษะหลายด้าน เช่น ประสบการณ์บริหารงานและการจัดการ การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ การเอาตัวรอดทันต่อกระแสตลาดอีคอมเมิร์ช และการทุ่มเทให้เวลากับการทำธุรกิจ

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ BEST Express สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.best-logistics.co.th
หรือโทร. 094-6857600 , 098-8166263 , 063-3537056

13

 

 

เบสท์ เอ็กซ์เพรส

 

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3N1n90H

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต