8 วิธีต้ม “ไข่มุก” ขั้นเทพ! พื้นฐานร้านชานมไข่มุก
“ ไข่มุก ” คือพื้นฐานของร้านชานมไข่มุกและเป็นจุดขายที่หลายคนเอามาใช้ทำการตลาดไม่ว่าจะไข่มุกบุฟเฟ่ต์ ไข่มุกตักไม่อั้น รวมถึงมีการใช้ไข่มุกหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ “เม็ดไข่มุก” เหล่านี้จำเป็นต้องทำวันต่อวัน
เพราะไข่มุกต้มมาสดๆใหม่ๆจะรสชาติอร่อยถ้าค้างคืนทิ้งไว้แล้วเอามาใช้รสชาติจะหดหายไปเกินครึ่ง ประมาณการว่าชานมไข่มุก 1 แก้วจะมีปริมาณการใช้ไข่มุกประมาณ 2-3 กรัม ยิ่งขายได้มาก ไข่มุกที่ใช้ก็ยิ่งมาก การคำนวณปริมาณไข่มุกให้เพียงพอต่อการขาย 1 วันจึงสำคัญมาก
ภาพจาก bit.ly/2NgKnEC
www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าปัจจุบันในตลาดก็มีไข่มุกแห้งบรรจุถุงหลากหลายยี่ห้อ บางยี่ห้อต้มสุกได้เร็ว บางยี่ห้อต้มสุกได้ช้า บางยี่ห้อเวลาต้มจะมีกลิ่นคาราเมลหอมๆออกมา บางยี่ห้อก็เหนียวนุ่ม
การจะเลือกใช้ยี่ห้อไหนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนเองเป็นสำคัญราคาขายไข่มุกเหล่านี้มีตั้งแต่ 35 บาท (ขนาดเล็ก) และขนาดใหญ่ (บรรจุ 1 กิโลกรัม) ราคาประมาณ 100 บาท
ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหนอย่างไรสิ่งที่ต้องเรียนรู้ต่อมาคือ “วิธีการต้มไข่มุก” ที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ความจริงมีจุดแตกต่างกันในแต่ละวิธี ใครที่อยากเปิดร้านชานมไข่มุกต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไว้
1.วิธีต้ม “ไข่มุก” ให้หนึบเด้ง
ภาพจาก bit.ly/30gaCPp
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ไข่มุก ยี่ห้อใดก็ได้ตามที่ต้องการ
- น้ำเปล่า
- หม้อต้มและเตาแก๊ส
- ทัพพี (สำหรับใช้คน)
- น้ำตาลทรายแดง
วิธีทำ
- นำน้ำเปล่าใส่ในหม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟ เมื่อน้ำเริ่มร้อนแล้วให้ใส่ไข่มุกลงไป
- เบาไฟลงให้ใช้แค่ไฟอ่อนคอยคนเรื่อย ๆ จนครบเวลา 35 นาที เมื่อครบเวลาแล้วให้ปิดไฟ แล้วพักไข่มุกทิ้งไว้ในหม้ออีก 30 นาที
- เมื่อพักไข่มุกเสร็จแล้ว นำไข่มุกไปล้างให้สะอาด 1 – 2 น้ำ และนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงเพื่อไม่ให้ไข่มุกจับตัวเป็นก้อน
เคล็ดลับ : ใช้ทัพพีในการคนแบบเบามือเพื่อไม่ให้ไข่มุกแตก และการคนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดกันและติดก้นหม้อได้
ต้นทุน-กำไร : ไข่มุก 1 ถุงขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม ใช้ใส่ในชานมไข่มุกได้ประมาณ 30-40 แก้ว ราคาซื้อประมาณ 100 บาท ชานมไข่มุกราคาขายแก้วละประมาณ 25 บาทถ้าขายได้ 30 แก้วมีรายได้ 750 แต่รายได้ตรงนี้หักลบต้นทุนอื่นๆ เช่นค่าแก๊ส ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ เรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปรของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
2.วิธีต้มไข่มุกคาราเมลนมสด
ภาพจาก facebook.com/Pangaiyathailand
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ไข่มุก
- น้ำตาลทรายแดง
- น้ำตาลอ้อย
- แบะแซ
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลอ้อย
- ใบเตย
- นมข้นจืด
วิธีทำ
- เริ่มจากการทำน้ำคาราเมลคือต้มน้ำให้เดือด ใส่ใบเตยประมาณ 2 ใบ ลดใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลอ้อย คนจนละลาย ใส่แบะแซลงไป
- การต้มไข่มุกใช้วิธีต้มแบบธรรมดาแต่เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ใบเตยลงไปขณะต้มด้วย
- เตรียมแก้วสำหรับใส่เครื่องดื่ม ใส่น้ำแข็ง และนมจืด ตักไข่มุกราดบนน้ำแข็งตามชอบ ราดด้วยน้ำคาราเมล เสิร์ฟได้
เคล็ดลับ : การใส่ใบเตยลงไปในการต้มจะทำให้มีกลิ่นหอมและต้องเคี่ยวน้ำตาลให้ละลายก่อนใส่แบะแซ ทิ้งคาราเมลให้เย็นจะเหนียวขึ้น
ต้นทุน-กำไร : ไข่มุก 1 ถุงขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม ใช้ใส่ในชานมไข่มุกได้ประมาณ 30-40 แก้ว ราคาซื้อประมาณ 100 บาท ชานมไข่มุกราคาขายแก้วละประมาณ 25 บาทถ้าขายได้ 30 แก้วมีรายได้ 750 แต่รายได้ตรงนี้หักลบต้นทุนอื่นๆ เช่นค่าแก๊ส ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ เรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปรของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
3.วิธีต้มไข่มุกเม็ดเล็ก
ภาพจาก bit.ly/2KWvXa9
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ไข่มุกเม็ดเล็ก
- น้ำเปล่า
- หม้อต้ม+เตาแก๊ส
- ทัพพี
- น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้ง
วิธีทำ
- ต้มน้ำประมาณ 2 ลิตรให้เดือด ระหว่างรอน้ำเดือดให้เตรียมชามใส่น้ำ ละลายน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายพักไว้
- พอน้ำเดือดให้ลดไฟลงใส่ไข่มุกลงไปและเร่งไฟขึ้นคนต่อเนื่องพักนึงปิดฝาต้มต่อ 5 นาที ระหว่างนั้นเปิดฝาคนเป็นช่วงๆ
- เมื่อครบเวลาให้ปิดไฟ ตั้งทิ้งไว้บนเตาไฟอีกประมาณ 5 นาที (เม็ดใหญ่ประมาณ 10 นาที)
- อบเสร็จแล้วเทออกล้างในน้ำเย็นหรือน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งจนไข่มุกไม่ร้อน
- เทใส่ชามที่ละลายน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายไว้คนให้ทั่วเก็บไว้ทานได้ 24ชม.โดยไม่ต้องแช่เย็น
- หากไข่มุกเกาะกันระหว่างที่วางไว้ในชามให้ใส่น้ำผึ้งหรือน้ำเปล่านิดเดียวแค่พอให้คนไข่มุกได้กระจายตัว
เคล็ดลับ : ควรใช้ให้หมดหลังจากต้มเสร็จภายใน 12 ชม.จะยังได้ความหนึบอยู่ ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามคืน
ต้นทุน-กำไร : ไข่มุก 1 ถุงขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม ใช้ใส่ในชานมไข่มุกได้ประมาณ 30-40 แก้ว ราคาซื้อประมาณ 100 บาท ชานมไข่มุกราคาขายแก้วละประมาณ 25 บาทถ้าขายได้ 30 แก้วมีรายได้ 750 แต่รายได้ตรงนี้หักลบต้นทุนอื่นๆ เช่นค่าแก๊ส ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ เรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปรของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
4.วิธีต้มไข่มุกไต้หวัน
ภาพจาก bit.ly/2KN12N6
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ไข่มุกไต้หวัน
- น้ำเปล่า
- หม้อต้ม+เตาแก๊ส
- ทัพพี
- น้ำผึ้ง
- ตะแกรง
- น้ำเย็น
วิธีทำ
- ต้มน้ำให้เดือดจัด หลังจากที่น้ำเดือดแล้ว ค่อยๆ ใส่ไข่มุกลงไปช้าๆ ห้ามเทลงพรวดเดียว เพราะไม่เช่นนั้นไข่มุกจะติดกันเป็นก้อน
- ใช้เวลาในการต้มประมาณ 30 นาที ในขณะที่ต้มไข่มุกให้ปิดฝาหม้อตลอดเวลาคอยสังเกตุดู ไข่มุกจะค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากก้นหม้อ ตามแรงเดือดของน้ำ
- เมื่อไข่มุกเริ่มลอยขึ้นมาจับเวลาประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยลดไฟเป็นระดับกลาง
- พอปรับไฟปานกลางแล้ว ใช้เวลาในการต้มไข่มุกต่อไปอีก 20 นาที ต้องคอยคนทุกๆ 4-5 นาที
- เมื่อต้มครบ 30 นาทีแล้ว ให้ปิดไฟทันที และนำฝาหม้อมาปิด เพื่ออบไข่มุกอีกประมาณ 30 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำไข่มุกลงตะแกรงที่เป็นรูๆ เพื่อกรองน้ำออกให้หมด
- นำไข่มุกที่อยู่ในตะแกรง เทลงในน้ำเย็น (น้ำเปล่าผสมน้ำแข็ง) เพื่อน็อกเย็น แล้วใช้พายไม้คนๆ ให้ทั่วประมาณ 3 นาที แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
- นำไข่มุกมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วราดด้วย น้ำเชื่อม 50 ml แล้วราดด้วยน้ำผึ้ง อีก 40 ml ให้พอหอม เพื่อให้ไข่มุกไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 10 นาที ไข่มุกจะขึ้นเงางาม
เคล็ดลับ : ถ้าไม่ปรับไฟในขณะต้มจากแรงสุดมาเป็นระดับกลาง ไข่มุกจะสุกไม่เท่ากัน ลักษณะคือ ข้างนอกเละ แต่ข้างในจะแข็ง เป็นไตๆ ไม่อร่อย
ต้นทุน-กำไร : ไข่มุก 1 ถุงขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม ใช้ใส่ในชานมไข่มุกได้ประมาณ 30-40 แก้ว ราคาซื้อประมาณ 100 บาท ชานมไข่มุกราคาขายแก้วละประมาณ 25 บาทถ้าขายได้ 30 แก้วมีรายได้ 750 แต่รายได้ตรงนี้หักลบต้นทุนอื่นๆ เช่นค่าแก๊ส ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ เรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปรของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
5.วิธีทำ “ไข่มุก” ด้วยตัวเอง
ภาพจาก Food MThai
สิ่งที่ต้องเตรียม
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทรายแดง
- แป้งมันสำปะหลัง
- หม้อต้ม+เตาแก๊ส
- ทัพพี
วิธีทำ
- เปิดไฟตั้งน้ำให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายแดง คนเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายแล้วปิดไฟ ใส่แป้งมันลงไป คนให้แป้งเข้ากับน้ำตาล แป้งจะเหนียว ๆ หนืด ๆ เทแป้งออกจากหม้อเตรียมนวดต่อ
- ก่อนจะนวดให้โรยแป้งนวลจะช่วยให้นวดง่ายขึ้น นวดจนแป้งเนียนสวยและไม่ติดมือ แบ่งแป้งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน แล้วตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั้นเป็นก้อนกลม
- วิธีต้มไข่มุกทำโดยต้มน้ำให้เดือดแล้วเทเม็ดมุกลงไปต้ม ให้คนตลอดเวลาจนไข่มุกลอยตัวขึ้นมา ลดไฟลง ใช้เวลาต้ม 30 นาที พอครบ 30 นาทีก็ปิดไฟและปิดฝาต้มต่ออีก 10 นาที นำไปล้างแล้วเทใส่ถ้วย เคล้ากับน้ำตาลทรายแดงและน้ำผึ้งก็กินได้
เคล็ดลับ : ไข่มุกที่ได้จากวิธีนี้จะเป็นสีทอง แต่หากดัดแปลงใช้วัตถุดิบอื่นมาผสมก็จะได้ไข่มุกที่มีสีหลากหลายตามต้องการ
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนเบื้องต้นไม่เกิน 100 บาท แต่ได้ไข่มุกสีทองจำนวนมาก กำไรขึ้นอยู่กับการขายชานมไข่มุกเป็นสำคัญ
6.วิธีต้มไข่มุกลาวา
ภาพจาก bit.ly/2KRZTUQ
สิ่งที่ต้องเตรียม
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทรายแดง
- แป้งมันสำปะหลัง
- หม้อต้ม+เตาแก๊ส
- ทัพพี
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายแดง ตั้งไฟ เปิดไฟแรง พอน้ำเดือดแล้วรอให้เดือดเต็มที่ 1-2 นาที แล้วให้ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปกวนทันที เพราะไม่เช่นนั้นแป้งจะสุกไม่เท่ากัน กวนจนแป้งเหนียวเข้ากันดี
- นำตัวแป้งไปนวดที่โต๊ะ นวดไปจนแป้งเนื้อเนียน จากนั้น แบ่งตัวแป้งออกเป็นก้อน ๆ เพื่อง่ายต่อการนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เวลาปั้นอาจจะใช้เวลานาน ให้หาพลาสติกหรือผ้ามาคลุมตัวแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของตัวแป้งแห้ง
- ปั้นตัวแป้งให้เป็นเม็ดกลม ๆ ตามขนาดที่เราต้องการ ใช้แป้งมันสัมปะหลังโรยบ้างเป็นบางครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวแป้งที่ปั้นติดกัน
- ตั้งหม้อใส่น้ำที่สะอาด รอจนน้ำเดือดแล้วใส่ตัวแป้งไข่มุกที่ปั้นเสร็จแล้วลงไป รอประมาณสัก 2-3 นาที แล้วค่อยคนเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไข่มุกติดก้นหม้อ พอน้ำเดือด ให้เบาไฟลง ต้มไข่มุกอีก 30 นาที แต่ทุก 10 นาที ให้หมั่นมากวนไข่มุก ป้องกันการติดก้นหม้อ
- ต้มครบ 30 นาที ปิดเตาแก๊ส เปิดฝาหม้อทิ้งไว้อีก 15 นาที จากนั้นนำตัวไข่มุกไปล้างน้ำเปล่าเพื่อขจัดเมือก แล้วนำมาใส่ในชามอ่างปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดงและน้ำผึ้ง
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนเบื้องต้นไม่เกิน 100 บาท แต่ได้ไข่มุกสีทองจำนวนมาก กำไรขึ้นอยู่กับการขายชานมไข่มุกเป็นสำคัญ
7.วิธีต้มไข่มุก “ไม่ให้เป็นไต”
ภาพจาก facebook.com/OrchidInductionCooker
สิ่งที่ต้องเตรียม
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทรายแดง
- แป้งมันสำปะหลัง
- หม้อต้ม+เตาแก๊ส
- ทัพพี
วิธีทำ
- ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นค่อยๆใส่ตัวไข่มุกลงไปใช้ตะกร้อมือหรือทัพพีคนไม่ให้ไข่มุกติดก้นหม้อ
- จับเวลาในการต้ม 35 นาที โดยเปิดฝาทิ้งไว้ ใช้ไฟแรงสม่ำเสมอเพื่อให้ไข่มุกสุกทั่วถึง
- ปิดเตาแก๊ส และปิดฝา (อบ) ต่ออีกประมาณ 20 นาที
- นำไข่มุกที่ต้มสุกแล้วใส่ภาชนะสำหรับล้าง ล้างให้สะอาดจนน้ำที่ไหลออกจากตะแกรงใสสะอาด
- เทใส่ภาชนะปรุงด้วยน้ำเชื่อมสำเร็จรูปหรือน้ำตาลทรายแดงที่ละลายไว้ ตัวไข่มุกจะดูดน้ำเชื่อมเข้าไปทำให้มีรสชาติหวานมากขึ้น อาจใช้น้ำผึ้งเข้ามาผสมร่วมด้วย
เคล็ดลับ : การใช้ไฟแรงในการต้มอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ไข่มุกสุกทั่วถึงและไม่แข็งเป็นก้อน (ไต)
ต้นทุน-กำไร : ไข่มุก 1 ถุงขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม ใช้ใส่ในชานมไข่มุกได้ประมาณ 30-40 แก้ว ราคาซื้อประมาณ 100 บาท ชานมไข่มุกราคาขายแก้วละประมาณ 25 บาทถ้าขายได้ 30 แก้วมีรายได้ 750 แต่รายได้ตรงนี้หักลบต้นทุนอื่นๆ เช่นค่าแก๊ส ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ เรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปรของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
8.วิธีอุ่นไข่มุก “หลังแช่เย็น”
ภาพจาก bit.ly/2HgLgtc
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ฟอยด์พลาสติกสำหรับคลุมอาหาร
- ไข่มุกต้ม
- น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้ง
- น้ำร้อนจัดๆ
วิธีทำ
- ไข่มุกที่ต้มสุกและเหลือจาการใช้งานสิ่งที่ควรทำคือตักใส่ภาชนะและเอาแผ่นฟอยด์พลาสติกมาคลุมไว้ เพื่อเตรียมนำเข้าตู้เย็น
- การแช่ไข่มุกในตู้เย็นจะทำให้ไข่มุกจับกันเป็นก้อน ดังนั้นเมื่อต้องการใช้งานให้นำมาเทใส่ในน้ำร้อนจัดๆ เพื่อให้ไข่มุกแตกตัวเป็นเม็ดๆ
- นำไปคลุกกับน้ำตาลทรายแดงที่ละลายไว้หรือผสมกับน้ำผึ้งเพื่อทำให้ไข่มุกมีความหวานเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เคล็ดลับ : ไข่มุกที่ใช้ไม่หมดไม่ควรตั้งทิ้งไว้นอกตู้เย็น อย่างน้อยการนำไปแช่ตู้เย็นก็จะทำให้เหลือความหนึบอยู่บ้างแม้รสชาติจะไม่อร่อยเหมือนไข่มุกต้มสุกใหม่ก็ตาม
ต้นทุน-กำไร : เป็นวิธีการเอาไข่มุกมาอุ่นใช้งานอีกครั้งต้นทุนกำไรไม่อาจประเมินได้
*** ทั้งนี้ราคาต้นทุน-กำไร เป็นการคาดคะเนเบื้องต้น ต้นทุนแท้จริงจะขึ้นอยู่กับความยากง่าย ปริมาณ และจำนวนวัตถุดิบ จึงไม่อาจจำเพาะเจาะจงราคาได้ชัดเจน รวมถึงต้องคำนวณเรื่องค่าเช่าพื้นที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่แท้จริงด้วย***
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3lNf4A4