8 ปัจจัยใช้พิจารณาเลือกทำเลไม่ให้เป็นจุดบอด
พื้นที่ แต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นในห้างสรรพสินค้าหรือนอกห้าง มีทั้งจุดดีและจุดบอด หากเลือกจุดดีก็ดีไป แต่ถ้าเลือกทำเลที่เป็นจุดบอดของพื้นที่นั้นๆ ธุรกิจอาจไปไม่รอด หากถามว่าแล้วเราจะเลือกทำเลเปิดร้านอย่างไรที่ไม่เป็นจุดบอดของพื้นที่
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 8 ปัจจัยใช้พิจารณา เลือกทำเลไม่ให้เป็นจุดบอด มาเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการทุกท่านครับ
1.ถนนรอบๆ โครงการ
พื้นที่เป้าหมายจะต้องพิจารณาเส้นทางเดินรถ โดยพื้นที่ด้านหน้าโครงการที่อยู่ติดถนนสาธารณะและถนนผ่ากลาง มักเป็นพื้นที่ที่ดีกว่าพื้นที่ด้านหลังโครงการ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่ารถจะวิ่งเส้นใดเป็นหลักเพราะจะมีแนวโน้มดีที่สุด
2.จุดศูนย์กลางของพื้นที่
จุดศูนย์กลางของพื้นที่ในการเปิดร้าน เช่น ลานจัดกิจกรรมต่างๆ ร้านค้าแบรนด์เนม ร้านสะดวกซื้อ ร้านของฝาก จุดนั่งพักลูกค้า จุดพักรถ ตู้เอทีเอ็ม ไม่ว่าจะเป็นในห้างสรรพสินค้า หรือนอกห้าง ซึ่งพื้นที่บริเวณโดยรอบหรือใกล้เคียงจุดศูนย์กลางมักเป็นพื้นที่ที่ดี เนื่องจากเป็นจุดที่มีความหนาแน่นและสัญจรของลูกค้าจำนวนมาก
3.ทางเข้า-ออกหลักของพื้นที่
ตำแหน่งที่ตั้งร้านควรอยู่ในเส้นทางคนเดินผ่านมากๆ และต้องพิจารณาทางเข้า-ออกต่างๆ เช่น ที่จอดรถ ป้ายรถโดยสาร บันไดเลื่อน หรือจุดที่ดึงดูดให้คนเดินผ่านจำนวนมาก ทางเข้า-ออกที่ดีควรเป็นด้านหน้าของพื้นที่นั้นๆ
4.ตำแหน่งที่จอดรถ
กรณีมีลานจอดรถหลายแห่ง ควรพิจารณาให้ดีว่า ลานจอดรถใดเป็นลานจอดรถหลักที่ลูกค้าใช้มากที่สุด และทางเข้าจากที่จอดรถจะมีความสำคัญน้อยกว่าทางเข้าด้านหน้าพื้นที่ แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าลูกค้าของเราเป็นกลุ่มใด
5.สิ่งสำคัญอื่นๆ ในพื้นที่
หากเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน พื้นที่รอบบริเวณบันไดเลื่อนจะดีกว่าพื้นที่บริเวณลิฟท์ เพราะการเคลื่อนตัวของบันได้เลื่อน ทำให้คนเห็นร้านค้ารอบด้านมากกว่าลิฟท์ สิ่งสำคัญต้องดูว่าหลังจากที่คนขึ้นหรือลงบันไดเลื่อน คนจะเดินเลี้ยวซ้ายหรือขวามากกว่ากัน ซึ่งอาจต้องดูจุดดึงดูดของคนในพื้นที่นั้นด้วย
6.ร้านที่อยู่โดยรอบ
ควรเลือกเปิดร้านในพื้นที่ที่เป็นธุรกิจประเภทเดียวกัน เช่น ร้านข้าวมันไก่ ร้านก๋วยเตี๋ยว ไก่ย่าง+ส้มตำ ลูกชิ้นทอด ฯลฯ แต่ไม่ใช่ธุรกิจเหมือนกัน เช่น ข้าวมันไก่เหมือนกัน หรือเลือกพื้นที่ที่มีการจัดกลุ่มสินค้าและบริการไว้ชัดเจน เพราะจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น โดยลูกค้าจะชอบเดินดูสินค้าที่อยู่ในโซนเดียวกันเป็นหลัก
7.เส้นทางเดินของคน
ร้านค้าที่ตั้งในพื้นที่บริเวณเส้นทางเดินของคนจะมีโอกาสขายได้มากกว่าเส้นทางที่คนไม่เดิน มุมอับ เช่น ถ้าเป็นพื้นที่ในปั้มน้ำมันก็ต้องเลือกที่เปิดร้านใกล้ตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ ทางเดินไปห้องน้ำ ฯลฯ หากเป็นแหล่งชุมชนหรือที่พักอาศัยก็ต้องเลือกทำเลบริเวณทางเข้า-ออกพื้นที่ เรียกได้ว่าทำเลดีควรอยู่บริเวณคนสัญจรผ่านสะดวก
8.การสามารถมองเห็น
พื้นที่บริเวณหัวมุมที่สามารถมองเห็นได้จากหลายด้าน โดยเฉพาะพื้นที่ในย่านช้อปปิ้ง (ที่ไม่ใช่ในห้าง) โดยมีการสัญจรผ่านถนนทั้ง 2 ด้านของร้านจะเป็นพื้นที่ที่ดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น หากในปั้มก็ต้องอยู่ด้านหน้า
นั่นคือ 8 ปัจจัยใช้พิจารณา ในการเลือกทำเลที่ตั้งเปิดร้าน เพื่อไม่ให้พื้นที่มีจุดบอดใดๆ แต่สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจ นอกจากทำเลดีแล้ว ผลิตภัณฑ์และบริการก็ต้องดีด้วย
SMEs Tips
- ถนนรอบๆ โครงการ
- จุดศูนย์กลางของพื้นที่
- ทางเข้า-ออกหลักของพื้นที่
- ตำแหน่งที่จอดรถ
- สิ่งสำคัญอื่นๆ ในพื้นที่
- ร้านที่อยู่โดยรอบ
- เส้นทางเดินของคน
- การสามารถมองเห็น
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3oYnb0T
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)