7 เทคนิค Start Up นำเสนอธุรกิจให้เข้าตานักลงทุน
การเป็น Start Up นั้นไม่ง่าย นอกจากจะมี Product ที่สุดยอดแล้ว ยังต้องขายของเป็น เพราะลูกค้าคนแรกที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาต่อยอด Startup ให้ประสบความสำเร็จก็คือ “นักลงทุน” นั่นเอง
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะมาบอกเคล็ดลับในการนำเสนอธุรกิจ ให้เข้าตานักลงทุน เพื่อนำเงินมาต่อยอดธุรกิจ มาดูกันว่า วิธีการนำเสนอมีหลักการนำเสนออย่างไรบ้าง ให้นักลงทุนร่วมลงทุนในธุรกิจกับคุณ
1.บอกส่วนแบ่งตลาดหรือกำไรให้ชัดเจน
นักลงทุนอาจจะชอบวิสับทัศน์ของคุณมาก แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจลงทุนกับคุณ เพราะนักลงทุนต้องการทำกำไรด้วย ดังนั้น การบอกตัวเลขที่แสดงถึงผลกำไรที่ชัดเจน คือ วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักลงทุน
2.บอกแนวโน้มและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
นักลงทุนต้องอยากเห็นตลาดที่ยั่งยืนและมั่นคง คุณจึงต้องแสดงให้เห็นคุณค่าของธุรกิจและคุณค่านั้นจะเติบโตต่อไปได้อย่างไรบ้าง อธิบายว่าธุรกิจของคุณจะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับคนแต่ละกลุ่มได้อย่างไร
และแบรนด์ของคุณมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากแค่ไหน ทั้งในแง่ของตลาดและรายได้ที่จะหลั่งไหลเข้ามา เพราะนักลงทุนเองก็จะมองหาโอกาสที่จะให้เงินทำงานแทนพวกเขา ดังนั้น Startup จึงควรแสดงให้เห็นว่าการเลือกลงทุนกับคุณจะตอบโจทย์ทางการเงินของพวกเขา
3.นำเสนอ Business Model ให้ชัดเจน
Business Model เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเรียกความสนใจจากนักลงทุน พูดง่ายๆ คือ ต้องแสดงให้เห็นวิธีทำเงินของธุรกิจได้อย่างชัดเจน เช่น มีรายได้มาจากไหนบ้าง ใครคือลูกค้าบ้าง จะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร เน้น B2B หรือ B2C ฯลฯ
เจ้าของธุรกิจต้องมีขอบเขตที่ชัดเจนและมีรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนักลงทุนไม่ได้มองหาธุรกิจที่แน่นอนตายตัว แต่พวกเขามองหาธุรกิจที่จะมีความเติบโต และมีแผนการที่ชัดเจนว่าจะเติบโตได้อย่างไร
4.ธุรกิจของคุณตอบโจทย์อะไรได้บ้าง
ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมองเห็น “ปัญหา” ที่อยากจะแก้ไขด้วยสินค้าและบริการของธุรกิจ โดยปัญหานี้ควรจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมากในระดับหนึ่ง ส่วนปัญหาเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบกับคนน้อยมากๆ นั้น
อาจจะมีโอกาสทำเงินได้น้อยหรืออาจจะเจริญเติบโตได้ยากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ขนาดของกลุ่มเป้าหมายนั้น ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณระบุให้เห็นถึงปัญหาได้ชัดเจนแค่ไหน และสินค้าหรือบริการของคุณสามารถแก้ปัญหานั้นได้มากน้อยเพียงใด
5.ธุรกิจมีความโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
อย่างแรกเลยคือคุณต้องเป็น “เจ้าของ” ธุรกิจของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งมันหมายถึงการแสดงให้นักลงทุนเห็นว่า คุณมีสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในธุรกิจนั้นๆ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ ต่างก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่สักเท่าไรนักสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
นั่นคือ ความแตกต่างอย่างแรกที่ควรจะมี ประการที่ 2 คือ ความแตกต่างในแง่ของนวัตกรรม ซึ่งจะอยู่ในสินค้าและบริการที่มาจากธุรกิจของคุณ ถ้าเป็นไปได้ก็จับเอาสินค้าและบริการอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันมาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ เลยว่าสิ่งที่คุณขายนั้นต่างจากพวกเขาอย่างไร
6.แสดงให้เห็นว่าคุณมีทีมที่พร้อมทั้งกายและใจ
ทีมงานคือหัวใจ นอกจากจะต้องเก่งแล้ว จะต้องเป็นคนที่มี passion มีความคิดดีต่อบริษัท ต้องมีเหตุผล และ ไม่ใช้อารมณ์ต่อกัน หากมีคนที่คิดในแง่ลบอยู่ตลอดเวลา
ควรต้องรีบแก้ไขหรือให้เขาออกไปให้เร็วที่สุด เพราะแม้ว่านักลงทุนสนใจผลกำไรและโอกาสทางธุรกิจ แต่พวกเขาก็ต้องพิจารณาด้วยว่า ใครบ้างที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น
7.แสดงให้เห็นว่าลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์ของคุณ
การมีลูกค้าที่ซื้อหรือใช้บริการซ้ำๆ จะบ่งชี้ถึงความสำเร็จของธุรกิจได้ในระดับหนึ่ง การเชื่อมโยงกับลูกค้าในลักษณะเครือข่ายถือเป็นสัญญาณที่ดีในสายตานักลงทุน ดังนั้น ต้องแน่ใจว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และแสดงให้นักลงทุนเห็นว่า บรรดาลูกค้าของคุณ มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ของคุณมากแค่ไหน
เชื่อหรือไม่ว่า คนทำธุรกิจ Startup นอกจากจะต้องพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีแล้ว สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้และมีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจอย่างมาก ก็คือ ต้องรู้จักนักลงทุน ว่านักลงทุนมองหาอะไรจากธุรกิจของคุณ
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก็คือการศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ซึ่งจะเปรียบเทียบง่ายๆ มันก็เหมือนกับคาถาเรียกเงินนั่นแหละ ยิ่งมีข้อมูลที่เตะตานักลงทุนเท่าไร คุณก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
SMEs Tips
- บอกส่วนแบ่งตลาดหรือกำไรให้ชัดเจน
- บอกแนวโน้มและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
- นำเสนอ Business Model ให้ชัดเจน
- ธุรกิจของคุณตอบโจทย์อะไรได้บ้าง
- ธุรกิจมีความโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
- แสดงให้เห็นว่าคุณมีทีมที่พร้อมทั้งกายและใจ
- แสดงให้เห็นว่าลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์ของคุณ
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3jcecq3