ซื้อบ้านมือสองยังไง ไม่ให้โดนหลอก โดนโกง
การซื้อบ้านมือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบประมาณ แต่ก็มาพร้อมหลายเรื่องที่ต้องเช็คให้รอบคอบ ทั้งเรื่องสภาพบ้าน เอกสารสิทธิ หรือแม้แต่การทำประกันอัคคีภัยบ้านที่จำเป็นกับทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสอง วันนี้เราจะมาแนะนำ 7 ข้อควรรู้สำคัญที่จะช่วยให้คุณซื้อบ้านมือสองได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนหลอก
7 ข้อควรรู้ก่อนซื้อบ้านมือสอง ไม่ให้โดนหลอก
ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
1. สอบถามเหตุผลในการขายบ้าน
การรู้เหตุผลที่แท้จริงในการขายบ้านจะช่วยประเมินความน่าเชื่อถือของการซื้อขาย ควรสังเกตท่าทางและน้ำเสียงของผู้ขายขณะให้ข้อมูล หากรู้สึกว่ามีพิรุธหรือให้ข้อมูลคลุมเครือ ควรสอบถามเพิ่มเติมหรือหาข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น เพื่อนบ้าน นิติบุคคลหมู่บ้าน หรือคนในชุมชน เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล โดยเฉพาะประเด็นเรื่องปัญหาภายในบ้าน ความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน หรือประวัติการเกิดเหตุร้ายในบ้าน
2. ตรวจเช็คสภาพบ้าน
การตรวจสอบสภาพบ้านต้องทำอย่างละเอียดทุกจุด ทั้งโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา และสุขาภิบาล ควรจ้างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบโดยเฉพาะ เพราะบางปัญหาอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น รอยร้าวที่ซ่อนอยู่ใต้วัสดุตกแต่ง ปัญหาการรั่วซึม หรือระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน การลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบจะช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมในระยะยาว และป้องกันปัญหาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
3. ตรวจเช็คประวัติบ้าน
การตรวจสอบประวัติบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของความเป็นมา แต่รวมถึงประวัติการซ่อมแซม การต่อเติม และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่าง ๆ ควรขอดูเอกสารการซ่อมแซม ใบอนุญาตต่อเติม และภาพถ่ายก่อน-หลังการปรับปรุง นอกจากนี้ ควรสอบถามประวัติการเกิดภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนป้องกันในอนาคต
4. ตรวจสอบเอกสารสิทธิ หรือโฉนดที่ดิน
เอกสารสิทธิเป็นหัวใจสำคัญในการซื้อขายบ้าน ต้องตรวจสอบความถูกต้องของโฉนดที่ดินที่กรมที่ดิน ดูว่ามีภาระผูกพันหรือการจำนองไว้กับสถาบันการเงินหรือไม่ ตรวจสอบชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่าตรงกับผู้ขายหรือไม่ และหากมีการโอนกรรมสิทธิ์หลายทอด ควรตรวจสอบความถูกต้องของการโอนแต่ละครั้งด้วย เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องในภายหลัง
5. เปรียบเทียบราคาบ้านในทำเลเดียวกัน
ราคาบ้านมือสองควรสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับบ้านในละแวกเดียวกัน ควรสำรวจราคาตลาดของบ้านที่มีขนาดและลักษณะใกล้เคียงกันในย่านเดียวกัน อย่างน้อย 3-5 หลัง เพื่อเป็นข้อมูลในการต่อรองราคา นอกจากนี้ ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคา เช่น อายุบ้าน การต่อเติม ทำเลที่ตั้ง และสภาพแวดล้อมโดยรอบ
6. ทำสัญญาจะซื้อจะขาย
สัญญาจะซื้อจะขายต้องระบุรายละเอียดให้ครบถ้วนและชัดเจน ทั้งราคาซื้อขาย เงื่อนไขการชำระเงิน กำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์ และข้อตกลงพิเศษต่าง ๆ ควรให้ทนายความตรวจสอบสัญญาก่อนลงนาม และเก็บหลักฐานการชำระเงินมัดจำทุกครั้ง หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงใด ๆ ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามรับทราบทั้งสองฝ่าย
7. นัดโอนบ้าน
วันโอนกรรมสิทธิ์เป็นขั้นตอนสุดท้ายและสำคัญที่สุด ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ทั้งบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรนัดทำที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น และตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระให้ถูกต้อง รวมถึงค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังจากโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเปลี่ยนชื่อผู้รับผิดชอบค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
สรุปบทความ
การซื้อบ้านมือสองต้องอาศัยความรอบคอบและระมัดระวังเป็นพิเศษ การตรวจสอบข้อมูลทุกด้านอย่างละเอียด ทั้งสภาพบ้าน เอกสารสิทธิ และประวัติการซื้อขาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกหลอกลวง แม้จะดูเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากและใช้เวลา แต่ก็คุ้มค่ากับการได้บ้านที่ตรงตามความต้องการและไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง