6 เทคนิคกระตุ้นยอดขาย ร้านชานมไข่มุก (ฉบับใช้จริง!)

เปิดร้านชานมไข่มุกทำยังไงให้ขายดี? คำตอบคือต้องมีเทคนิคกระตุ้นยอดขาย เพราะในยุคที่คู่แข่งมาก ลำพังแค่สินค้าดียังไม่พอต้องสร้างความรู้สึกให้คน “อยากซื้อ” ร่วมด้วย คำว่า “กระตุ้นยอดขาย” จึงไม่ได้หมายถึงแค่การทำ “โปรโมชั่น” เท่านั้นแต่ยังมีอีกหลาย เทคนิคกระตุ้นยอดขาย ที่คนเปิดร้านชานมควรต้องศึกษาเพื่อนำไปใช้จริง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ร้านชานมควร “กระตุ้นยอดขาย” ตอนไหน?

ต้องเข้าใจก่อนว่าการกระตุ้นยอดขายคือเทคนิคการตลาดที่ควรนำมาใช้ในบางช่วงเวลา อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดี ถ้าเราเปิดร้านมาสักพักแล้วเห็นว่าตอนนี้ลูกค้าดูเงียบๆ อาจถึงเวลาที่ต้องมากระตุ้นยอดขาย ซึ่งเราก็ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายของการกระตุ้นยอดขายนี่เพื่ออะไร ปัญหาของเราคืออะไรเช่น

• มีจำนวนลูกค้าใหม่น้อยลง
• ลูกค้าซื้อสินค้าในปริมาณที่ลดลง
• ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อน้อยลง

เมื่อรู้ปัญหาก็นำมาซึ่งการระดมความคิดสร้างเทคนิคกระตุ้นยอดขายที่มุ่งแก้ปัญหาได้จริง (Make it happen) ยกตัวอย่างเช่น

Cross-selling – เป็นการขายสินค้าใหม่นอกเหนือจากเมนูเดิม ๆ ที่ลูกค้าซื้อตามปกติ เป็นช่องทางที่ร้านจะมียอดขายเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่น การขายชานมไข่มุก แต่อาจมีสินค้าเพิ่มเติมอย่างเบเกอรี่ร่วมด้วย จากเดิมที่ขายได้แค่เครื่องดื่มอย่างเดียวก็อาจมีรายได้เพิ่มจากการขายเมนูอื่นด้วย

Up-selling – เป็นการนำเสนอสินค้าขนาดที่เพิ่มขึ้นจากขนาดที่ลูกค้าสั่ง เพียงแค่เพิ่มเงินอีกเล็กน้อยก็จะได้คุ้มค่ากว่าเดิม เช่นการจัดเซ็ตเมนูเป็นเครื่องดื่ม 1 แก้ว ขนม 1 ชิ้น หรือเซตเครื่องดื่ม 1 แก้ว ขนม 2 ชิ้น ด้วยราคาที่ไม่ต่างกันมาก แต่ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่าเดิม เป็นต้น

6 เทคนิคกระตุ้นยอดขายร้านชานม ที่ใช้ได้ผลแน่

ถ้ายังมองไม่เห็นภาพจากที่อธิบายในเบื้องต้นไปโฟกัสกันตรงๆ โดยรวบรวมมาให้เห็นเป็นตัวอย่างกัน 6 เทคนิค ที่ใช้ได้จริงและกระตุ้นยอดขายได้แน่

1.การทำระบบสมาชิก (Loyalty Program)

วิธีนี้จะดึงลูกค้าใหม่หรือคนที่ไม่เคยเป็นลูกค้าให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำได้มากขึ้น รูปแบบที่เห็นมากคือการสะสมแต้มแลกของรางวัลเช่น 1 บาท = 1 แต้ม หรือ 20 บาท = 1 แต้ม บางร้านก็ใช้รูปแบบ ซื้อ 10 ครบ 10 ครั้งแถม1 แก้ว เป็นต้น

2. การแจกฟรีเฉพาะช่วงเวลา

การทำโปรโมชั่นฟรีเฉพาะช่วงเวลา ทางร้านสามารถกำหนดได้เอง เช่น ตั้งแต่ 14:00–16:00 น. ของวันศุกร์ปลายเดือน ซื้อ 1 แก้ว แถมฟรีอีก 1 แก้ววิธีนี้จะทำให้ได้ลูกค้าหน้าใหม่ค่อนข้างเยอะและเกิดการทดลองซื้อสินค้ามากขึ้น

3.ตอบแบบสอบถามรับของรางวัล

อาจใช้วิธีทำแบบสอบถามออนไลน์ เพราะลูกค้าสามารถเข้าไปตอบได้ง่ายทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก และธุรกิจเองยังสามารถเก็บข้อมูลแบบสอบถามต่าง ๆ ที่ลูกค้าตอบเข้ามาเป็นฐานข้อมูลดิจิทัลได้ทันทีด้วยเช่นกัน

4. ลดราคาเมนูออกใหม่ หรือเมนูทดลอง

เป็นวิธีกระตุ้นยอดขายที่ให้ลูกค้าได้ทดลองชิม เพื่อให้เกิดความชื่นชอบเช่น แวะซื้อเครื่องดื่มใหม่วันนี้ ลดราคา 50% ก็จะเพิ่มความสนใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น

5.เพิ่มปริมาณ ไม่เพิ่มราคา

การที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อส่วนหนึ่งต้องรู้สึกว่าคุ้มค่า ซึ่งสินค้าที่ได้ปริมาณเยอะขึ้น แต่ราคาไม่เพิ่มคือวิธีน่าสนใจ ทางร้านเองก็ต้องมีเทคนิคในการเพิ่มปริมาณที่ไม่กระทบต่อต้นทุนของร้านด้วย

6.ซื้อ 1 แถม 1

วิธีนี้นิยมใช้กันมากและก็มีอีกหลายแบบที่คล้ายกันเช่น ซื้อ 1 แก้วแก้วที่ 2 ลด 50% หรือ ซื้อ 2 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว เป็นต้น อะไรก็ตามที่มีคำว่าฟรี ดึงดูดลูกค้าได้อย่างมาก แต่วิธีกระตุ้นยอดขายแบบนี้แนะนำให้ใช้ในเวลาที่เหมาะสมและไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อมากเกินไป

กระตุ้นยอดขายแบบ “จัดหนัก” อัดทุกโปรโมชั่นใส่ซองมอบให้ลูกค้า

ภาพจาก facebook.com/MikuchaThailand

อีกรูปแบบที่น่าสนใจคือไม่จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งมากระตุ้นยอดขาย แต่เอาทุกโปรโมชั่นมารวมกันแล้วมอบเป็นสิทธิพิเศษให้ลูกค้า ยกตัวอย่างแบรนด์มิกุชาที่จัดเทคนิคกระตุ้นการขายด้วยการออกแบบซองน่ารักๆ มอบให้กับลูกค้า ด้านในมีบัตรสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเลือกนำไปใช้เช่น

• พรีเมี่ยมลด 10 บาท
• ลด 40% (1 แก้ว/สิทธิ์)
• ซื้อ 2 แถม 1
• ชานมไข่มุก 3 แก้ว 100 บาท
• เมนูซัมเมอร์ลด 10 บาท
• ซื้อครบ 2 แก้ว ลด 20 บาท
• แก้วที่ 2 ลด 50%

ลูกค้าไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สิทธิพิเศษจัดหนักมาให้ในซองแล้วเลือกใช้ได้ตามต้องการแบบนี้ สิ่งที่รู้สึกอย่างแรกคือ “คุ้มค่า” ที่สำคัญรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นคนพิเศษ เป็นคนที่แบรนด์ให้ความสนใจ และถ้าเรามีบัตรสิทธิพิเศษมากขนาดนี้เวลาเดินไปเจอร้านขายชานมอื่นๆเราจะเลือกซื้อไหม คำตอบก็คือไม่ เพราะแบรนด์อื่นไม่ได้ให้ส่วนลดพิเศษกับเรามากเท่านี้ นั่นคือโอกาสการขายที่มากขึ้นและโอกาสในการสร้างลูกค้าที่จะกลายเป็นBrand Loyaltyได้อย่างแท้จริงด้วย

การกระตุ้นยอดขายได้ผลแค่ไหน? ดูจากอะไรได้บ้าง?

เมื่อจัดหนักเทคนิคกระตุ้นยอดขายไปแล้ว ในฐานะเจ้าของร้านก็ต้องประมวลผลดด้วยว่าวิธีที่ทำลงไปนั่นได้ผลจริงไหม แก้ปัญหาที่เราต้องการในเบื้องต้นได้หรือเปล่า คุ้มค่ากับการลงทุนไหม สิ่งที่จะใช้ชี้วัดความสำเร็จเช่น

• ยอดขาย : ไม่จำเป็นต้องรอหลังจบโปรโมชั่น ก็ได้ และยอดขายนี่แหละคือสิ่งที่ดูง่ายที่สุดว่าโปรโมชั่นที่ทำประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
• กระแสในโซเชี่ยล : ทั้งการดไลก์ กดแชร์ การคอมเมนต์ หรือแม้กระทั่งจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ทำให้เรารู้ได้ว่าเทคนิคกระตุ้นยอดขายของเราสร้างกระแสได้มากน้อยแค่ไห
• จำนวนผู้ใช้คูปองหรือโค้ดส่วนลด : จะสามารถบอกข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ใช้ว่า มีคนใช้จ่ายกับเทคนิคกระตุ้นยอดขายของเราไปมากน้อยแค่ไหน อันไหนคือโปรโมชั่นที่คนชอบมากที่สุ
• ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) : สามารถวัดได้ง่ายๆ จากการ เปรียบเทียบต้นทุนของโปรโมชั่นกับรายได้ที่ได้จากการทำโปรโมชั่น จะช่วยวัดให้เห็นถึงประสิทธิภาพของโปรโมชั่นนั้นๆ ได้

วิธีกระตุ้นยอดขายแบบไหน อย่างไรก็ตาม เราต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและผลที่จะได้รับ อย่าลืมว่าการกระตุ้นยอดขายที่เน้นแต่การขายมากเกินไป อาจส่งผลเสียในแง่ต้นทุนที่มากขึ้น หรือเรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย หรือการเลือกกระตุ้นยอดขายที่ผิดวิธีอาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหายได้ด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

---

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

• เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
• ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
• มอบหมายงานและติดตามงาน
• อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

• ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
• ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
• การปฏิบัติงาน
• เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

• การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
• การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
• การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
• การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

• การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
• สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
• กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
• มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

• แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
• แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

• รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
• ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
• ปรับปรุงแก้ไข
• พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

• การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)