6 เคล็ดลับเปิดร้านให้รวยด้วยฮวงจุ้ย

นอกจากทำเลที่ตั้งจะมีความสำคัญต่อ การเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ ฮวงจุ้ย เพราะมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้เช่นกัน

ใครที่กำลังจะเปิดร้านค้า ต้องไม่พลาด วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 6 เคล็ดลับ การเปิดร้านให้รวยด้วยฮวงจุ้ยมาฝากครับ

1.หน้าร้าน

6 เคล็ดลับ

หน้าร้านเป็นด่านหน้าที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าที่เดินผ่านเข้ามาใช้บริการในร้าน ดังนั้น ทิศทางและตำแหน่งของหน้าร้านตามหลักฮวงจุ้ย ต้องหันไปทางด้านทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะช่วยให้ร้านค้ามีความเจริญรุ่งเรืองและดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และหากร้านค้าติดถนนด้วยแล้วจะช่วยให้ค้าขายดี

2.ประตูร้าน

53

ประตูร้านค้าต้องสะอาดเรียบร้อยไม่มีสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออกใดๆ เพราะจะทำให้การค้าขายไม่ราบรื่น เวลาที่ลูกค้าเดินผ่านไปมาทำให้ไม่อยากเข้ามาใช้บริการในร้าน แต่ถ้าหน้าร้านตรงประตูมีการตกแต่งควรตกแต่งด้วยต้นไม้เลื้อยหรือดอกไม้มาวางไว้ใกล้ๆ เพราะจะช่วยให้กิจการค้าขายมีความรุ่งเรืองเจริญเติบโต

3.ป้ายร้าน

54

ป้ายชื่อร้านควรออกแบบตกแต่งให้สวยงาม โดดเด่น สะดุดตา เวลาที่ลูกค้าเดินผ่านไปมาจะได้มองเห็น ทำให้อยากเข้ามาใช้บริการในร้านของเรา การออกแบบตัวหนังสือบนป้ายต้องชัดเจน เพราะจะช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย

4.ไฟแสงสว่าง

51

เจ้าของร้านต้องให้ความสำคัญในเรื่องของแสงสว่างภายในร้านด้วยเช่นกัน เพราะตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ควรติดตั้งไฟเพิ่มความสว่างให้ทั่วถึง และไม่ควรสว่างมากจนเกินไป หรือมืดจนเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกค้ามองเห็นไม่ชัดเจน

5.การจัดวางสินค้า

55

การจัดชั้นวางสินค้าให้ถูกต้องและสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้าน เพราะจะช่วยให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าได้ชัดเจน ควรแบ่งแยกประเภทสินค้าให้เป็นสัดส่วน ให้หยิบง่าย หาง่าย ดังนั้น การจัดวางสินค้าตามหลักฮวงจุ้ยนั้นควรยึดหลัก “ซ้ายมังกร ขวาเสือ หลังเต่า หน้าหงส์” เมื่อหันหน้าออกจากร้าน ดังนี้

  • ตำแหน่งมังกรเขียว เป็นจุดไหลเวียนของพลังงานมากที่สุดในร้าน ควรวางสินค้าขายดี หรือสินค้าที่ต้องการขาย
  • ตำแหน่งเสือขาว กระแสการไหลเวียนของพลังงานค่อนข้างนิ่ง เหมาะสำหรับการวางสินค้าที่ขายได้น้อย
  • ตำแหน่งหงส์แดง มีกระแสพลังงานดี มองเห็นได้ง่าย ควรวางสินค้าประจำร้านหรือสินค้าที่โดดเด่นของร้าน
  • ตำแหน่งเต่าดำ ด้านในสุดของร้าน ควรวางสินค้าชิ้นใหญ่หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ไม่ใช่สินค้าหลักของร้าน

6.โต๊ะชำระเงิน

50

ตำแหน่งการตั้งโต๊ะคิดเงินที่ดีไม่ควรหันหลังให้ประตูทางเข้า ควรอยู่ในตำแหน่งที่พนักงานสามารถมองเห็นประตูหน้าร้านและคนที่เดินเข้าออกจากร้านได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เวลาที่ลูกค้าเดินเข้าไปในร้านก็จะเห็นโต๊ะชำระเงินทางด้านซ้ายหรือขวา ทางด้านหลังโต๊ะควรเป็นผนังทึบ เพื่อเสริมเรื่องความมั่นคง

นั่นคือ 6 เคล็ดลับ เปิดร้านให้รวยด้วยหลักฮวงจุ้ย น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะเปิดร้านทุกคนท่านครับ

SMEs Tips

  1. หน้าร้าน
  2. ประตูร้าน
  3. ป้ายร้าน
  4. ไฟแสงสว่าง
  5. การจัดวางสินค้า
  6. โต๊ะชำระเงิน

อ้างอิงจาก https://bit.ly/311SkGN

อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช