6 ทำเลค้าขายดี ปี62 เปิดร้านรับรองรวย!
คำว่าทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ได้ยินได้ฟังกันมานานแม้จะบ่นว่าเบื่อแต่ความจริงก็คือความจริง ต่อให้มีสินค้าดีเลิศเลอ หรือเชื่อมั่นว่าพลังโซเชี่ยลของตัวเองดีไม่แพ้ใคร แต่ธุรกิจที่เลือกจับทำเลเด่นๆโดนๆ ยังไงก็เติบโตได้ดีกว่า
เดี๋ยวนี้คอมมูนิตี้มอลล์ทั้งหลายเขามีพัฒนาการที่ออกแบบโครงการให้สวยดึงดูด และมีแคมเปญกระตุ้นการขาย ที่สำคัญเขาเลือกทำเลเจ๋งๆ ไว้ให้เราเป็นที่เรียบร้อย www.ThaiSMEsCenter.com จัดมาให้ดู 6 ทำเลค้าขายยุค 2019 ที่ใครได้เปิดร้านรับรองธุรกิจสดใสกำไรเพิ่มขึ้นแน่
1.อมอรินี รามอินทรา
แค่เป็นคอมมินิตี้มอลล์อย่างเดียวถือว่ายังไม่พอ สิ่งที่จะดึงดูดลูกค้าได้อย่างแรกคือ “บรรยากาศ” เดี๋ยวนี้เราจึงเห็นการก่อสร้างที่เน้นความสวยงามใช้ดึงดูดสายตาที่สำคัญสถานที่สวยๆ ใครก็อยากแช๊ะและแชร์ เท่ากับเป็นการตลาดที่ดีในตัวแบบไม่ต้องลงทุน ซึ่งงานนี้ อมอรินี รามอินทรามีในสิ่งที่พูดมาครบถ้วน นี่คือคอมมูนิตี้มอลล์ที่จำลองสถานที่ให้เหมือนกับอยู่บนเกาะซานโตรินี่
ความสวยของพื้นที่ให้10เต็มเท่านั้นยังไม่พอนี่คือพื้นที่ซึ่งมีประชากรอาศัยหนาแน่นบนทำเลถนนรามอินทรา กม.12 บริเวณปากทางเข้าถนนสวนสยาม สำหรับพ่อค้าแม่ค้าแล้วอย่าได้ลังเลใจเพราะการเปิดร้านใน อมอรินี มีแต่ได้กับได้ ที่นี่เขาเปิดรับสินค้า Lifestyle ทุกประเภท รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม แบบ take a way การได้เปิดร้านค้าในอมอรินี
ที่บอกว่าขายดีแน่มีเหตุผลน่าสนใจ 2 ประการคือ การจัดพื้นที่ให้ลูกค้าได้เดินเลือกสินค้าได้ง่ายอยากได้อะไรก็ไปตามโซนที่จัดไว้ เลือกง่าย ได้สินค้ามีคุณภาพ แถมทำเลยังเป็นทั้งย่านเศรษฐกิจและแหล่งสถานที่เที่ยว (สวนสยาม)
ปริมาณผู้คนจึงมากเป็นพิเศษและค่าเช่าพื้นที่ ก็เริ่มต้นเพียงแค่ 400 บาท/วัน บนพื้นที่ตั้งแต่ 2×2 เมตร ต้นทุนค่าเช่าไม่แพง การส่งเสริมการตลาดดี เป็นแหล่งรวมผู้คนจำนวนมาก บรรยากาศพื้นที่ก็สุดยอด เปิดร้านค้าที่นี่รับรองขายได้ขายดีเหมือนที่บอกแน่
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-5181668
2.เออร์เบิน สแควร์
ที่ไหนเป็นยังไม่รู้แต่ในย่านประชาชื่น เออร์เบิน สแควร์ คือเบอร์หนึ่งของคอมมูนิตี้มอลล์ในย่านนี้ จุดเด่นมีมากมาย ตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลางกว้างมาก และยังจัดเป็นสวนสวย มีลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่
จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของคนในพื้นที่ และด้วยพื้นที่โครงการกว่า 3.5 ไร่ และยังติดถนนถึง 3 ด้าน จะมาจากทางไหนก็ถึง เออร์เบิน สแควร์ได้ไม่ยาก และที่เด็ดยิ่งกว่าคือห่างจาก มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตแค่ 200 เมตร เฉพาะในธุรกิจบัณฑิตก็มีนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 10,000 คนที่พร้อมเป็นฐานลูกค้าสำคัญในเออร์เบิน สแควร์
การเปิดร้านในเออร์เบิน สแควร์จึงเต็มไปด้วยข้อได้เปรียบชนิดที่หาที่เปรียบไม่ได้ ตอกย้ำความเป็นทำเลมีคุณภาพด้วยการที่แบรนด์สินค้าใหญ่มากมายเลือกมาเปิดร้านค้าที่นี่ไม่ว่าจะเป็น Mini BigC , ร้านอาหารญี่ปุ่น , Fresh Me , Vesper Coffee
รวมถึงบรรดาธนาคาร ธุรกิจสุขภาพความงามและสถาบันการศึกษาต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าสามารถเลือกได้ทั้งแบบเช่าระยะยาว หรือจะเลือกเช่าเป็นรายเดือน ราคาเริ่มต้นของค่าเช่าอยู่ที่ 3,000 บาท/เดือน
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-5892121, 086-3407752, 081-1008868
3.ศูนย์การค้า เฟิร์ส อเวนิว
การจับทำเลในการก่อสร้างไลฟ์สไตล์มอลคือคีเวิร์ดสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าจ้องมอง และศูนย์การค้า เฟิร์ส อเวนิว ถือว่าตีโจทย์แตกละเอียดกับพื้นที่ติดถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนสำหรับนักเดินทางที่ปริมาณรถจุดนี้มีเป็นจำนวนมาก การมีจุดแวะพักที่ตอบโจทย์คนเดินทางจึงเป็นทางเลือกที่สุดยอดสำหรับการเปิดร้าน ผสมผสานกับเจ้าของโครงการที่เปิดพื้นที่ค้าขายกว่า 6,800 ตร.ม. รองรับร้านค้าได้มากกว่า 64 ยูนิต
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเปิดร้านค้าที่เฟิร์ส อเวนิวแล้วจะขายดีมีกำไรลองมาดูข้อมูลสำคัญเรื่องค่าเช่าที่แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ตั้งแต่ห้องขนาด 12-30 ตร.ม. ราคาตารางเมตรละ 600 บาท ต้องการพื้นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นห้องขนาด 101-121 ตร.ม. ราคาต่อตารางเมตรก็ถูกลงเหลือแค่ 300 บาท/ตร.ม.
แต่ถ้าบอกว่าเป็นร้านค้าเล็กๆ อยากได้แค่คีออสธรรมดา เขาก็มีให้เลือกบนพื้นที่ 6 ตร.ม. ราคาเพียง 12,000 บาท/ เดือน เมื่อพิจารณาค่าเช่ากับปริมาณลูกค้าทีอยู่ในพื้นที่และจำนวนคนที่เดินทางซึ่งมีจำนวนมาก ไม่ว่าจะขายอาหาร เครื่องดื่ม ธุรกิจบริการ เสื้อผ้า ต่างก็เป็นคำตอบที่ดีที่ทำให้ขายดีมีกำไรได้
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 092-3724036, 063-2399971
4.บิวตี้ แมกซ์ สโตร์
สำหรับใครที่คิดจะเปิดร้านเครื่องสำอางหรือสินค้าสุขภาพต่างๆ ลำพังการมีสินค้าที่ดีมีประโยชน์ต่อลูกค้า บางทีก็ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างกำไร ต่อให้พยายามโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางโซเชี่ยลต่างๆ ของตัวเอง
แต่บางครั้งการเติบโตก็ยังไม่ดีพอ ด้วยเหตุผลว่าคนส่วนใหญ่มักต้องการความมั่นใจและจะเลือกสินค้าจากแหล่งที่เป็นศูนย์รวมด้วยมองว่าเป็นการคัดสรรคุณภาพมาในระดับหนึ่ง ซึ่งบิวตี้ แมกซ์ สโตร์ได้จับจุดความต้องการนี้รวบรวมเอาร้านค้านวัตกรรมความงามสินค้าสุขภาพ มารวมไว้ในรูปแบบของ BEAUTY MAX STORE บิวตี้ เชน สโตร์ ที่ใหญ่และทันสมัยระดับโลก
โดยมีคอนเซปต์สำคัญคือ DUTY FREE & FASHION และมีกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภค คือ กลุ่มนักศึกษา และวัยทำงาน จนถึงกลุ่มเป้าหมาย ตลาดกลางถึงตลาดล่าง ปัจจุบันขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่งเช่นอิมพีเรียลเวิร์ล , ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต , ยูเนี่ยนมอลล์ สินค้าที่ได้ร่วมกับทำเลบิวตี้ แมกซ์ สโตร์ ถือเป็นการยกระดับสินค้าตัวเองให้ดูมีมาตรฐานมากขึ้น ในยุคที่ลูกค้าคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้สินค้าเป็นอันดับแรก การเลือกขายสินค้าร่วมกับบิวตี้ แมกซ์ สโตร์ จึงเพิ่มรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-036-0292
ณธนภาคย์ กาศโอสถ โทร. 063-481-3666
คุณศยามล แจ่มศรี โทร. 082-599-1605
5.น้ำพุพลาซ่า มหาชัย
ทำเลคอมมูนิตี้มอลล์ส่วนใหญ่จะกระโดดไปอยู่ชานเมือง เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่เริ่มกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในย่านมหาชัย เป็นที่รู้กันดีว่าเดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นมากและมีแนวโน้มจะพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต
จุดเด่นของพื้นที่แถบนี้คือมีกำลังซื้อมหาศาลจากการอยู่ใกล้ทั้งสถานศึกษา ,โรงงาน , ธนาคาร , หน่วยงานราชการ รวมถึงบรรดาหมู่บ้านจัดสรรที่ผุดขึ้นมาใหม่ราวกับดอกเห็ด น้ำพุพลาซ่าซึ่งอยู่ใจกลางพื้นที่เหล่านี้ จึงได้รับผลดีกลายเป็นแหล่งรวมของคนในพื้นที่ และยังเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าได้จับจองทำเลค้าขายในราคาสบายๆ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจที่เปิดร้านได้เป็นอย่างดี
การจัดโซนของน้ำพุพลาซ่าแบ่งเป็น 6 ชั้น จำแนกสินค้าต่างๆไว้ชัดเจนง่ายต่อการเลือกซื้อของลูกค้า นอกจากนี้น้ำพุพลาซ่ายังจัดหนักจัดกิจกรรมและแคมเปญกระตุ้นการซื้อให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นับเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีสีสันตลอดทั้งปี ซึ่งตามเทศกาลไม่ว่าจะปีใหม่ , วันเด็ก , วาเลนไทน์ , คริสมาสตร์ ไม่น่าแปลกใจที่จะดึงดูดลูกค้าทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงให้มาใช้บริการและที่สำคัญน้ำพุพลาซ่ามีแผนในการพัฒนาธุรกิจตัวเองให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 086-1699996, 081-5718176
6.ดับเบิลยู ดิสทริค
ต้องยอมรับว่าวิถีคนเมืองมักเลือกความสะดวกสบายเป็นอันดับแรก ทำให้เราเห็นโครงการมากมายที่ผุดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งดับเบิลยู ดิสทริค ก็จับจุดความต้องการนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ เจ้าของโครงการคือ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างโครงการ ดับเบิลยู ดิสทริค บนเนื้อที่ 12 ไร่ ติดถนนสุขุมวิทในย่านพระโขนง
ที่นับว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างเขตเมืองด้านในและเขตเมืองรอบนอก การออกแบบโครงการบนพื้นที่ใช้สอยกว่า 10,000 ตร.ม. แบ่งเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารชั้นนำ สถานที่สังสรรค์ ร้านค้า แหล่งรวมแฟชั่นและความงาม พร้อมด้วยลานกิจกรรมต่างๆ และ Hi Hip Hostel ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการได้เป็นอย่างดี
สำหรับการเปิดร้านในดับเบิลยู ดิสทริคที่รองรับร้านค้าได้กว่า 250 ร้านค้า ค่าเช่าเริ่มต้นห้องละ 15,000 บาท พ่อค้าแม่ค้าสามารถเปิดกิจการได้ทันทีหลังตกแต่งร้านตัวเองเสร็จเรียบร้อย ด้วยศักยภาพด้านทำเลที่มีทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน และความอลังการของโครงการ
อันเป็นการยกระดับสินค้าและธุรกิจที่เข้าร่วมในโครงการได้เป็นอย่างดี การันตีความหนาแน่นของผู้คนในพื้นที่ที่สัญจรไปมาไม่ต่ำกว่าวันละ 100,000 คน เป็นทางเลือกนในการเปิดร้านที่เห็นกำไรได้อย่างรวดเร็ว
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 081-765-7666, 086-566-2929
ทั้งนี้การค้ายุคใหม่ของพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย จะสนใจแต่เรื่องการพัฒนาสินค้าอย่างเดียวคงไม่ได้ แม้เรื่องคุณภาพสินค้าจะเป็นสิ่งสำคัญแต่สิ่งสำคัญกว่าคือการนำสินค้าไปสู่สายตาลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ลำพังจะพึ่งพาช่องทางโซเชี่ยลอย่างเดียวก็คงไม่พอ ทำเลค้าขายที่ดีย่อมนำมาซึ่งลูกค้าจำนวนมาก คอมมูนิตี้มอลล์เหล่านี้ได้ลงทุนจับทำเลทองมาให้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกลงทุนกับคอมมูนิตี้มอลล์ไหนเพื่อเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหรือคนสนใจหาพื้นที่เช่าทำเลเด่นๆโดนใจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S