6 เทรนด์ผู้บริโภคยุคดิจิตอล ปี 2017 ที่นักการตลาดต้องรู้
ปัจจุบัน โลก Online กับโลก Offline ไม่ได้มีเส้นแบ่งกั้นอีกต่อไป เพราะพฤติกรรมของคนในสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วิธีการทำการตลาดต่างๆ ก็ต้องปรับตัวตามเทรนด์ของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ดังนั้น นักการตลาดจำเป็นต้องรู้จักวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิตอล เช่น เทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม และพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณไปดูเทรนด์ผู้บริโภค ยุคดิจิตอล ในปี 2017 ที่มาแรง เหมาะสำหรับนักการตลาด ที่จะใช้โอกาสของเทรนด์เหล่านี้ ในการสร้างยอดขาย สร้างแบรนด์ และเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด
1. Augmented Reality (AR)
ภาพจาก goo.gl/NFqLDq
ทุกคนยังคงจำปรากฏการณ์ Pokémon Go ได้หรือไม่ ที่สามารถสร้างความประหลาดใจให้เกิดขึ้นทั่วโลก สามารถสร้างรายได้กว่า 10 ล้านเหรียญต่อวัน และผลักดันให้ราคาหุ้นของ Nintendo พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเกมนี้จะอยู่ได้ไม่นาน และจำนวนคนเล่นก็น้อยลงไป แต่สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้ารายละเอียดน่าสนใจ ผู้ใช้ก็พร้อมแล้วสำหรับเทคโนโลยี AR (ภาพเสมือนจริง) และเชื่อว่ากระแสที่เกิดขึ้นจะทำให้หลายๆ แบรนด์กล้าที่จะลองเสี่ยงกับการโฆษณา
2. Live Video Streaming
ภาพจาก goo.gl/4rTCl6
เราได้เห็นแล้วว่าในปี 2016 Live Video Streaming คือ หนึ่งในช่องทางที่กำลังมาแรงด้วย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และ สมาร์ทโฟนในมือ การติดตามสถานการณ์สด
เริ่มขึ้นตั้งแต่การเปิดตัวสินค้าระดับโลกของ Apple ทั้ง iPhone และ Mac Pro จนถึงการจัดกิจกรรมง่ายๆ สามารถทำ Live ได้ทั้งหมด แต่ในปี 2017 เรื่องการ Live Video Streaming จะเข้มข้นขึ้น ทุกแบรนด์จะหันมาให้ความสนใจใน Live Video Streaming มากขึ้น
3. Data Analysis
ภาพจาก goo.gl/ZEC7Gr
ข้อมูลกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักการตลาด เพราะเราอยากรู้ว่า ใครซื้ออะไร ที่ไหน เมื่อไร และข้อความใดที่มีผลต่อการตัดสินใจมากที่สุด
ซึ่งถ้านักการตลาดมีข้อมูลอย่างเดียวก็ไม่ช่วยอะไร ยังต้องการการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถคาดเดาอนาคต ดังนั้น ห้ามพลาดเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลโดยเด็ดขาด โดยผู้บริโภคจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เองด้วย
4. Target Niche
ภาพจาก goo.gl/Ws4IoO
เมื่อโลก Online กลายเป็นรูปแบบการตลาดที่ทุกแบรนด์พุ่งเข้าหา ขณะที่จำนวนผู้บริโภคมีอยู่เท่าเดิม จึงเกิดการแย่งชิง “พื้นที่” ออนไลน์ เหมือนกับที่เคยแย่งชิงพื้นที่ในโฆษณาทีวี แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ Online สามารถเจาะผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มได้
บอกเลยว่า Mass นั้นยังได้ผลกับบางสินค้าและบริการ แต่ Niche ใช้งบน้อยกว่าและได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า เรียกได้ว่า สินค้าแต่ละแบรนด์ต้องเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ตรงจุด เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ และใช้เวลาสั้น
5. Immersive Experience
ภาพจาก goo.gl/SWWmgk
ในส่วนนี้จะเป็นลักษณะการทำการตลาดที่เน้นประสบการณ์ที่ดี ผู้บริโภคจะชอบร้านค้าที่บรรยากาศดี มีสไตล์ เป็นเอกลักษณ์ เข้าใช้บริการแล้วรู้สึกดี ยกฐานะให้กับเขาได้
ซึ่งต่อไปหัวใจสำคัญที่แบรนด์ต่างๆ ต้องให้ความสำคัญ คือ การมอบประสบการณ์ที่มีอยู่ในร้าน เพื่อสร้างความพึงพอใจในระยะยาว หรือการสร้างประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวโน้มและทิศทางเดียวกัน และนี่คือกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกันกับลูกค้า
6. Content is King
ภาพจาก goo.gl/fkLZqC
แม้จะมีเทคโนโลยีมากมายให้เลือกใช้ แต่สุดท้ายสิ่งที่ต้องใส่ใจและสำคัญเสมอคือ คอนเทนต์ หรือ เนื้อหา ไม่ว่าการทำตลาดนั้นจะ Online หรือ Offline คอนเทนต์ก็คือหัวใจสำคัญ
ถ้าอยากให้ผู้บริโภคสนใจ เช่น ใน Facebook การหยุดดู อ่าน กดไปอ่านต่อที่เว็บ กด Like และ Share ต่อ สิ่งต่างๆ เหบ่านี้จะเกิดขึ้น นักการตลาดต้องใส่ใจกับทุกคำ ทุกประโยค แม้ว่าผู้บริโภคอาจจะอ่าน หรือจะมองแค่ผ่านไปก็ตาม แต่ คอนเทนต์ต้องชวนให้ติดตาม และชวนให้อยากรู้
ทั้งหมดถือเป็นตัวอย่างเทรนด์ผู้บริโภคยุคดิจิตอล ในปี 2017 ที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจต่างๆ จะต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของผู้บริโภค แม้ว่าบางเทรนด์อาจดูยาก
สำหรับธุรกิจ SMEs จะเกาะกระแส แต่สิ่งที่น่าสนใจในการติดตามเทรนด์ดังกล่าว คือ การได้มองการเปลี่ยนแปลง แล้วนำมาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบใหม่ๆ ไม่ว่าวิธีการนั้นจะยากหรือง่ายอย่างไร โอกาสก็จะเป็นของผู้ที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงเสมอครับ