5 ธุรกิจเสือนอนกิน ปี65 รวยง่าย รวยไว ไม่เหนื่อย
ในปี 2564 เราเคยพูดถึงธุรกิจเสือนอนกิน ซึ่งหมายถึงธุรกิจที่มีความต้องการของลูกค้าจำนวนมาก และมีโอกาสสร้างรายได้สูง ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจร้านสะดวกซัก , ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ , ขายของออนไลน์ , บริการสินเชื่อ เป็นต้น
ซึ่งในปี 2565 นี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เทรนด์สังคมที่เปลี่ยนไป ประกอบกับปัจจัยภายนอกหลายอย่าง ธุรกิจเสือนอนกิน ในปีนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยมี ธุรกิจเสือนอนกิน ไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันได้
1.ธุรกิจร้านสะดวกซัก
เป็นธุรกิจที่มาแรงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และในปี 2565 นี้ก็ยังน่าสนใจและดูท่าว่าจะเติบโตได้มากยิ่งขึ้น เพราะจากตัวเลขในปีที่ผ่านมา พบว่า ร้านสะดวกซักเติบโตมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ แต่จำนวนร้านยังเป็นหลักพัน เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อ ถือว่ายังไม่มาก ฉะนั้น ร้านสะดวกซักยังไปได้อีกมาก ในปัจจุบันมีการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ให้เลือกเพื่อเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น แพคเกจการลงทุนมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนต้นๆ ไปจนถึงหลักล้าน
สิ่งสำคัญในการลงทุนคือการพัฒนารูปแบบบริการให้สอดคล้องกับความต้องการ ไม่ใช่แค่ร้านที่สะดวกซัก แต่หากเพิ่มบริการเสริมเช่น มีมุมทานกาแฟ มีบริการล้างรถ มีมุมนั่งพักผ่อน จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ดีการเลือกทำเลในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
2.ธุรกิจสุขภาพ และความงาม
ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ปี 2562 ส่งผลอย่างมากให้คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงเรื่องสุขภาพของตัวเอง ดันธุรกิจนี้ให้เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นเทรนด์รักสุขภาพมาแรงมาก ก่อให้เกิดสินค้าในรูปแบบต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น รวมกับกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ที่ทำให้มีนักธุรกิจหน้าใหม่เกิดขึ้นได้ง่าย
แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าและกลยุทธ์ด้านการตลาดเป็นสำคัญด้วย และหากไปดูตัวเลขที่สะท้อนว่าธุรกิจด้านสุขภาพและความงามเติบโตแค่ไหน ลองโฟกัสไปที่จังหวัดท่องเที่ยวโดยธุรกิจสปา ถือว่าเติบโตได้น่าสนใจการเติบโตสูงมาก ราว 17% ต่อปี และคาดว่าจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2568 มีมูลค่าการตลาดราว150.5 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ในกลุ่มธุรกิจเครื่องมือแพทย์ก็มีการเติบโตมากขึ้นเช่นกัน จากปีละ 68 รายในปี 2561 เพิ่มเป็นปีละกว่า 114 รายในปี 2563 และมากขึ้นในปี 2564 ที่ผ่านมา รวมถึงธุรกิจเวชภัณฑ์ยาและขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ ที่มีการเติบโตการจัดตั้งธุรกิจใหม่จากปีละ 945 รายในปี 2561 มาเป็นปีละ 1,158 รายในปี 2563 และในปี 2564 ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกันด้วย
3.ธุรกิจเพื่อคนสูงวัย
จากการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยชัดเจน ทำให้ธุรกิจนี้มีความต้องการของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น มีหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การดูแลผู้สูงอายุ , ธุรกิจเพื่อช่วยฟื้นฟูบำบัดร่างกายผู้สูงอายุที่หันมาใส่ใจสุขภาพ (Health & Wellness) , ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในปี 2564 ที่ผ่านมาว่ามีการจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 52 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 79.31% ภาพรวมปัจจุบันมีกิจการทั้งหมดประมาณ 493 ราย มูลค่าทุนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1,615.93 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของต่างชาติในนิติบุคคลไทยที่ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ มีมูลค่าการลงทุน 159.29 ล้านบาท คิดเป็น 9.86% ของการลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลางเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 65.93% รองลงมาคือภาคเหนือและภาคตะวันออก คิดเป็น 14.20% และ 7.72%
4.ธุรกิจแพลตฟอร์ม
เราต้องยอมรับว่ากระแสของเทคโนโลยีดันให้ธุรกิจแพลตฟอร์มเป็นการลงทุนที่รอให้ลูกค้าเข้ามาหามากขึ้น เหมือนเป็นธุรกิจเสือนอนกิน แต่ก็ต้องมีคุณภาพควบคู่ด้วย ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น การจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงจุด เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง
5.ธุรกิจร้านสารพัดบริการ
จากมูลค่าการตลาดในปี 2561 อยู่ที่ 3.05 ล้านล้านบาท แต่จากการแพร่ระบาดโควิด 19 ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา คือปัจจัยบวกที่ดันให้ตลาดออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลดีมาถึงธุรกิจร้านสารพัดบริการเองที่ส่วนใหญ่มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพิ่มบริการที่หลากหลายทั้งการชำระบิล และไปรษณีย์เอกชน ที่ดึงเอาค่ายขนส่งยักษ์ใหญ่มาเป็นพันธมิตร ทำให้มีการเติบโตในธุรกิจนี้สูงและมีการแข่งขันอย่างดุเดือด
คาดว่าในปี 2565 มูลค่าการตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 22% มูลค่าประมาณ 66,000 ล้านบาท ซึ่งหากไปดูในส่วนของธุรกิจจะพบว่ามีผู้เล่นในตลาดนี้จำนวนมาก ทั้งที่เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ที่หันมาจับธุรกิจนี้ หรือแพลตฟอร์มธุรกิจเดิมที่ขยายฐานธุรกิจตัวเองให้มีความหลากหลายมากขึ้น ล้วนแต่เป็นสัญญาณที่ดี และบอกให้เรารู้ว่าร้านสารพัดบริการ หากเลือกลงทุนได้อย่างถูกต้อง ในทำเลที่เหมาะสม และมีการดำเนินธุรกิจอย่างมีระบบระเบียบ จะสามารถสร้างรายได้แบบเสือนอนกินให้เราได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ไม่ต่างจากเสือนอนกิน เพราะเป็นธุรกิจที่มีความต้องการของลูกค้าจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจด้าน fintech , ประกันชีวิต , เดลิเวอรี่ เป็นต้น
แต่สิ่งสำคัญในการลงทุนใดๆ ก็ตาม ควรมีการวางแผนและบริหารจัดการที่ดี เนื่องด้วยสถานการณ์ภาพรวมที่ยังไม่ชัดเจนในหลายๆ อย่างทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงผลกระทบจากค่าครองชีพ และต้นทุนค่าบริหารจัดการต่างๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เรื่องของการตลาดจึงเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจควรศึกษาและเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3vhpfEi , https://bit.ly/3BMRgVm , https://bit.ly/3vvYcp5 , https://bit.ly/35sLCeU , https://bit.ly/3M1jws4
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3tDH3XG