5 ข้อดี๊ดี! ทำงานตั้งแต่เรียน เพื่อก้าวสู่นักธุรกิจในอนาคต
ในแต่ละปีมีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 450,000 คน แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่ต่างมุ่งที่จะหางานทำด้วยปัจจัยรอบด้านทำให้เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานนั้นสูงมากโดยเฉพาะกับคนที่จบระดับปริญญาตรี หนทางที่ดีที่สุดในยุคนี้ลำพังการเรียนแต่ภาคทฤษฏีอย่างเดียวไม่เป็นผลดีต่ออนาคต
www.ThaiSMEsCenter.com แนะนำว่าเราควรฝึกภาคปฏิบัติ นั้นคือลงมือหางานทำในระหว่างที่เรียน โดยอาจจะเลือกในสิ่งที่ตัวเองถนัดและสนใจ ซึ่งข้อดีของการ ทำงานตั้งแต่เรียน นั้นมีประโยชน์มหาศาล เพราะบริษัทยุคใหม่ต้องการคนที่เก่งและทำงานได้จริงมากกว่าคนที่มีแต่ความรู้หรือบางทีหากเราไม่คิดจะสมัครงานประสบการณ์ทำงานในระหว่างเรียนก็สามารถเอามาต่อยอดสร้างธุรกิจตัวเองได้
1.ความชำนาญสำคัญกว่าความรู้
คนจะประสบความสำเร็จยุคนี้ภาคปฏิบัติสำคัญกว่าทฤษฏีนักธุรกิจระดับโลกหลายคนก็เริ่มต้นมาจากการลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจระหว่างเรียนอย่างเช่น Steve Jobs ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple ใครจะรู้ว่าคนยิ่งใหญ่ระดับนี้เรียนมหาวิทยาลัยได้เทอมเดียวก็ไปทำงานให้กับ บริษัท อาตาริ ก่อนที่จะควบรวมเป็น บริษัท แอปเปิ้ล
แน่นอนว่า Steve Jobs ไม่ได้ดูถูกทฤษฏีแต่เขาคิดว่าปฏิบัตินั้นคือการรู้จักเอาความรู้มาต่อยอดหากไม่รีบฝึกฝนให้ชำนาญก็ไม่มีหนทางต่อสู้กับคู่แข่งจำนวนมากดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นลงมือก่อนแม้ความรู้และประสบการณ์จะยังไม่มากแต่ก็ค่อยๆสะสมให้มากขึ้นจนถึงวันหนึ่งที่ทุกอย่างพร้อมก็จะเป็นความลงตัวที่เพอร์เฟคที่สุด
2.ได้ประสบการณ์ที่มีค่า
ยิ่งทำงานยิ่งเจอปัญหายิ่งเจอปัญหายิ่งต้องรู้จักแก้ปัญหายิ่งแก้ปัญหายิ่งมีประสบการณ์ยิ่งมีประสบการณ์ก็ยิ่งอยู่เหนือคู่แข่งได้มากขึ้น นี่คือข้อเท็จจริงและความแตกต่างของคนที่ประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน คนเรียนเก่งแต่แก้ปัญหาไม่เป็นมีให้เห็นเยอะแยะ
ตัวอย่างของคนที่ใช้แนวทางนี้แล้วประสบความสำเร็จ เช่น ลอว์เรนซ์ แลร์รี เพจ ผู้ที่เริ่มตำนานของ Google อันโด่งดัง ในสมัยเรียนแลร์รี่ และเพื่อนของเขา เซอร์เกย์ บริน ซึ่งก่อตั้งโปรเจคนาม Blackrub ขึ้นมาในปี 1996 ระหว่างการศึกษาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เริ่มต้นจากการใช้เซิฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยในการทำงาน ก่อนที่พวกเขาจะออกมาและตั้งบริษัท Google ของตัวเองขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าหากเขามุ่งแต่จะเรียนไม่สนใจปฏิบัติ อาจไม่มี Google อย่างเช่นทุกวันนี้ก็ได้
3.ได้เจอกับสิ่งใหม่ที่ไม่เคยคิด
การทำธุรกิจจะแข็งแกร่งได้ยิ่งขึ้นหากมีการต่อยอด นักธุรกิจระดับโลกหลายคนไม่หยุดอยู่กับปัจจุบันแต่พยายามอัพเดทตัวเองให้เหนือคู่แข่งเสมอ นั้นเพราะสิ่งที่เรียนรู้ในระหว่างทำงานว่าอะไรคือสิ่งใหม่ที่เอามาต่อยอดได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดและคิดไม่เป็นเลยหากเราไม่ลงมือทำงานก่อน
ตัวอย่างที่ดีคือเคนเนธ แลงกอน เศรษฐีพันล้านด้านการลงทุนที่ครั้งหนึ่งเขาศึกษาในคณะเศรษฐศาสตร์และเริ่มทำงานในวอลสตรีท จึงทำให้เขาเริ่มรู้จักคนมากมาย ซึ่งก็ทำให้เขามองเห็นช่องทางในการลงทุนต่างๆ เป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมลงทุนกับ เบอร์นารด์ มาร์คัส เพื่อก่อตั้งชื่อ Home Depot ซึ่งประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมาก
4.ฝึกวินัยและความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
คนที่ประสบความสำเร็จนั้นความพยายามต้องมากกว่าความรู้ ถ้าคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงไปดูตัวอย่างของ อิงวาร์ คัมพราด ผู้ก่อตั้ง IKEA ที่คนทั้งโลกรู้จักกันดี ช่วงวัยเด็กและวัยเรียนของ อิงวาร์ คัมพราด ไม่ได้สวยหรูนักเขาต้องออกมาขายของอย่างไม้ขีดไฟ และสินค้าอื่นๆตามแต่จะหามาได้
ข้อดีของการที่เขาได้ทำงานตั้งแต่ยังเล็กคือทำให้ตัวเขามีวินัยและมีความแข็งแกร่งทนต่อแรงกดดันต่างๆ นานาที่จะเจอได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากคิดจะทำธุรกิจเราต้องพบเจอแต่หากไม่เคยฝึกฝนหรือเคยเจอมาก่อนส่วนใหญ่มักเกิดอาการท้อแท้และสุดท้ายก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้
5.มีเงินใช้สอยได้ในระหว่างเรียน
เป็นข้อดีที่จับต้องและเห็นผลได้มากที่สุด เพราะทำงานก็ต้องได้เงิน แต่นั้นคือผลพลอยได้สิ่งที่สำคัญกว่าคือประสบการณ์และการพัฒนาความคิดตัวเอง แต่การได้เงินจากการทำงานถ้าเราไม่เอามาจับจ่ายใช้สอยก็อาจจะเลือกสะสมเป็นเงินทุนเอาไว้ในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจที่ตัวเองต้องการได้ในอนาคต
จะเห็นว่าการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมีข้อดีมากกว่าที่คิด ซึ่งอาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ผลดีจะเกิดในระยะยาวดีกว่าการเรียนที่เอาแต่สนุกมาเรียนเพื่อมาเล่นมาเจอเพื่อน ทำงานแบบขอให้เสร็จๆไปที ตกเย็นก็เที่ยวเล่นปาร์ตี้ ชีวิตไม่มีแก่นสารสุดท้ายพอจบไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเดินทางไหน เพราะไม่เคยสะสมประสบการณ์ในระหว่างเรียนเอาไว้เลย
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S