5 ข้อควรรู้ก่อนลุยเปิดตลาดการค้าในเมียนมา

เมียนมาได้ชื่อว่าเนื้อหอมที่สุดในอาเซียนเนื่องด้วย ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ยังคงมีอยู่มาก บวกกับประชากรเยอะเเละมีกำลังซื้อมาก และนับจากที่เมียนมาเปิดต้อนรับชาวต่างชาติมากขึ้นก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เศรษฐกิจของเมียนมาเริ่มพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากขึ้นโดยสิ่งที่ได้เปรียบของเมียนมาคือการมีต้นทุนทางธรรมชาติที่สูงดึงดูดนักลงทุนได้เป็นอย่างดี

และสิ่งสำคัญคือการที่เมียนมาหันมาใช้ระบบเศรษฐกิจเสรีและมีการจัดตั้งสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) โดยยึดนโยบายที่อนุญาติให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการผลิต และการจัดการ ส่งเสริมให้มีการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตามการลงทุนในเมียนมาเองก็ยังต้องมีปัจจัยที่นักลงทุนควรรู้ไว้ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com เก็บมาเป็นความรู้สำหรับคนที่สนใจอยากไปเปิดตลาดการลงทุนในประเทศเมียนมา

1.มีหลายเมืองที่เหมาะสมกับการลงทุน

ทรัพยากรธรรมชาติ

ภาพจาก goo.gl/3vs9p3 , goo.gl/z97FCz

แม้ว่าเมียนมาจะมีเมืองจำนวนมากแต่ทว่าศักยภาพของแต่ละเมืองในแต่ละภูมิภาคนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรก็ตามมี 4 หัวเมืองหลักๆที่นักธุรกิจต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนอย่างมาก

  • ย่างกุ้ง ธุรกิจที่น่าลงทุนได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ,การผลิตสินค้าเพื่ออุปโภค-บริโภค,ประมง, การท่องเที่ยวและการ บริการ เช่น ซูเปอร์มาเก็ต ,ร้านอาหาร ,อู่ซ่อมรถและสถาบันฝึกอบรมอาชีพรวมไปถึงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์, ไม้แปรรูป, ของชำร่วยและสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้
  • มัณทะเลย์ ธุรกิจที่ที่น่าลงทุนได้แก่ การท่องเที่ยว , อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ขนาดเล็กและหัตถกรรม
  • เมียวดี ธุรกิจที่น่าลงทุนได้แก่ การเกษตรและอัญมนี
  • หงสาวดี ธุรกิจที่น่าลงทุนได้แก่ โรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร อู่ซ่อมรถและร้านทำผม

2.ธุรกิจรีไซเคิลมีความน่าสนใจมาก

ธุรกิจจัดการขยะน่าสนใจลงทุนเนื่องจากยังมีสิ่งที่เมียนมายังจัดการเองได้ไม่ดีพอคือเรื่อง ขยะ หากทำธุรกิจรีไซเคิลขยะแล้วนำไปขายที่จีนได้จะทำเงินได้มหาศาล แต่อุปสรรคสำคัญคือต้องรู้จักคนในวงในอยู่บ้างเพื่อการประสานงานที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น

3.ธุรกิจแฟชั่นและสาธารณสุขก็มีความต้องการสูง

gg43

ภาพจาก goo.gl/WWo6Qu

ธุรกิจด้านแฟชั่นและสาธารณสุขนั้นน่าลงทุนเช่นกันโดยพบว่าเทรนด์การใส่กางเกงยีนส์ในหมู่วัยรุ่นเมียนมากำลังมาแรง และไลฟ์สไตล์เหลือตลาดอีกมาก คนเมียนมามีฐานะดีเเต่เป็น รวยเงียบ”คือไม่แสดงตัวใช้ของโอ้อวด นอกจากนี้ยังขาดแคลนสินค้าด้านสาธารณสุขซึ่งทางเมียนมายอมรับว่าสินค้าการแพทย์ของไทยอยู่ในระดับคุณภาพสูง

4.สิ่งสำคัญในการลงทุนคือไม่ควรตั้งราคาสินค้าสูงเกินไป

gg37

ภาพจาก goo.gl/VCZaY5

เนื่องจากว่ารายได้ของประชากรส่วนใหญ่ยังมีน้อยโดยถูกจัดให้มีรายได้ต่อหัวต่อคนเพียง 1,144 ดอลลาร์/ปีหรือเฉลี่ยค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 75 บาทต่อวันซึ่งถือว่าถูกมากการตั้งราคาสินค้าในพม่าไม่ควรให้สูงจนเกินไปคนที่เข้าไปทำธุรกิจพม่าหลายคนทำพลาดเพราะตั้งราคาสูงไป ดังนั้นควรลดราคาลงมาและไปเน้นการขายปริมาณให้มากแทนจะดีกว่าและควรฝึกคนพม่าที่ทำง่านให้เราให้เขาขายของเป็นแล้วธุรกิจของเราจะไปได้ดี

5.ราคาที่ดินในเมียนมายังสูงเกินไป

gg36

ภาพจาก goo.gl/vckkbp

ปัญหาที่ดินราคาแพงยังเป็นอุปสรรคสำคัญทั้งในการซื้อเพื่อปลูกสร้างหรือการหาอาคารให้เช่าโดยที่ดินในเมียนมายังคงมีราคาสูง โดยเฉพาะในเขตย่างกุ้ง ทำให้การหาออฟฟิศหรือสำนักงานให้เช่าได้ยากผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนจึงต้องวิเคราะห์เรื่องนี้ให้ละเอียดด้วย

นักธุรกิจจากประเทศไทยที่ได้เข้าไปเปิดตัวการลงทุนในเมียนมาแล้วเท่าที่เช็คได้ตอนนี้เห็นจะมี ปตท.ที่เป็นธุรกิจสาขาพลังงานเเละก๊าซธรรมชาติโดยเป็นโครงการร่วมกับTotal และ ปิโตรนาส ส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังไทยทุกวัน รวมทั้งมีโครงการที่กำลังสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมเพิ่มเติม โดยมีแผนจะลงทุน 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2558-2561

รวมถึงบริษัท บางจากปิโตรเลียม เข้าไปเปิดสถานีบริการน้ำมันบางจากในเมียนมาเเล้ว 1 แห่ง ที่จังหวัดเมียวดี และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันเป็น 5 แห่ง ภายในปี 2560

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทยอย่าง CP ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2539 โดยตั้งโรงงานในกรุงย่างกุ้ง และภาคเหนือตอนกลางของเมียนมา ปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนกว่า 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายละเอียดปลีกย่อยสำหรับคนที่สนใจเข้าไปเปิดธุรกิจการค้าในเมียนมานั้นหากต้องการเจาะตลาดที่ลึกซึ้งก็ควรไปสำรวจดูทิศทางของกฏหมายการลงทุนว่ามีอะไรที่ทำได้บ้างและอะไรที่ห้ามทำรวมถึงดูแนวทางความนิยมในตัวสินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการเพื่อการเปิดตลาดจะได้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างเต็มที่ในอนาคต

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด