4วิธีอ่านเกมธุรกิจ รู้แบบนี้ชนะเลิศ!
ปัญหาอย่างหนึ่งของ การทำธุรกิจ ต่อให้มีสินค้าที่ดี มีแผนการตลาดที่ชัดเจน แต่บางทีก็มาตกม้าตายตรงที่ไม่รู้ว่าคู่แข่งนั้นกำลังทำอะไร และกระแสผู้บริโภคที่เป็นปัจจัยหลักมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงฉับพลันแค่ไหน แค่2ปัญหานี้ถ้าหาวิธีรับมือไม่ได้ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จได้
www.ThaiSMEsCenter.com จึงมีเรื่องราวกลยุทธ์การอ่านเกมธุรกิจที่น่าจะช่วยให้ทิศทางการตลาดมีความมั่นคงมากขึ้น การอ่านเกมธุรกิจที่ดีนั้นทำให้เราคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจังหวะไหนควรทำอะไร แบบไหน เพื่อให้ธุรกิจสามารถคงอยู่ได้ในแถวหน้าชนิดที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีปัญหากับการลงทุนของเราทั้งนั้น
โดยสิ่งสำคัญจากนักการตลาดเปรียบเทียบการลงทุนในทุกธุรกิจออกเป็นฤดูกาล มีศัพท์เฉพาะที่เรียกกันว่า “ฤดูกาลในการทำธุรกิจ” ซึ่งสิ่งสำคัญคือ เราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าสินค้าหรือบริการนั้นเหมาะสมกับฤดูกาลธุรกิจแบบไหน เพื่อเลือกใช้คน กลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน ซึ่งฤดูกาลธุรกิจที่นักการตลาดกล่าวไว้มีดังนี้
1. Spring (ฤดูใบไม้ผลิ)
ภาพจาก goo.gl/gZ5wZy
หมายถึงการเกิดใหม่เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นหรืออยู่ในช่วงเติบโตหรือขาขึ้นก็ได้ธุรกิจลักษณะนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต้องใช้คนที่มีสัญชาตญาณสูงในการทำงาน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น เทสล่ามอเตอร์ (Tesla Motor) ก็คือเป็นธุรกิจรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ซึ่งตอนนี้ในโลก ยังไม่มีใครทำคนที่เหมาะกับธุรกิจประเภทนี้ คือ คนที่กล้าคิด กล้าทำ ชอบสิ่งใหม่ๆ ชอบงานที่ท้าทาย นั่นก็คือ พวกพลังงานแบบ Dynamo นั่นเอง
2.Summer (ฤดูร้อน)
ภาพจาก goo.gl/AoidLi
เป็นช่วงต่อของธุรกิจหลังจากเติบโตจะต้องมีการแข่งขันในตลาดที่ร้อนแรง มีนักขายที่ออกไปวิ่งหาลูกค้า คนเริ่มตื่นตัวกับตลาด ยกตัวอย่าง เช่น
ก่อนหน้านี้รถยนต์ไฮบริดเป็นสิ่งที่จับต้องยาก ดูเป็นสินค้านวัตกรรม แต่ปัจจุบันรถยนต์ไฮบริด ใครๆก็สามารถซื้อได้แล้วง่ายๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่
3.Fall (ฤดูใบไม้ร่วง)
ภาพจาก goo.gl/5WRT8E
ทางธุรกิจถือเป็นช่วงการแข่งขันเริ่มดุเดือดมีการเปรียบเทียบราคา ภาคธุรกิจเริ่มลดราคาสินค้า คนจะเริ่มหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจก่อนซื้อ ธุรกิจจะเริ่มช้าลง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ค่ายดังหลายๆค่าย ที่มีการแข่งขันทางด้านราคา หรือรถ Eco car เป็นต้น
4.Winter ฤดูหนาว
ภาพจาก goo.gl/PC4Nad
เป็นช่วงสุดท้ายของธุรกิจ ที่มีการตัดราคา มีการแข่งขันสูง ธุรกิจที่จะปรับตัวและอยู่ได้ในช่วงนี้ คือ ต้องปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีระบบเข้ามารองรับ
ซึ่งมักจะสะท้อนออกมาในมุมของต้นทุนที่ต่ำลง ถึงจะยืนหยัดในตลาดได้ ถ้าถามว่าธุรกิจใดบ้างที่เข้าสู่อันนี้แล้ว บอกเลยว่าเยอะมากๆ ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจสายการบิน Low Cost ธุรกิจธนาคาร และตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยเมื่อเข้าสู่ช่วง Winter แล้วไม่ปรับตัว คือ Kodak ที่ได้รับบทเรียนอันแสนเจ็บปวดไปแล้ว
การปรับเอาฤดูกาลธุรกิจมาใช้กับการตลาดสินค้า
ภาพจาก goo.gl/Bjcm1k
จากนี้ก็จะเป็นการอธิบายว่าแล้วเราจะเอาหลักการของฤดูกาลธุรกิจมาปรับใช้อย่างไรให้เกิดผลในที่นี้จะขอยกตัวอย่างธุรกิจมือถือเป็นตัวอย่างให้คนอ่านได้พอเข้าใจดังนี้
โดยปกติโทรศัพท์มือถือมักจะออกรุ่นใหม่ๆทุก1-2 ปี ด้วยเหตุนี้การเปิดตัว การเข้าสู่วงจรธุรกิจจึงวนเวียนไม่จบสิ้น ถ้าวิเคราะห์กันตามหลักการก็จะเข้าหลักของฤดูกาลธุรกิจได้ดังนี้
ภาพจาก goo.gl/KU2lsN
ช่วงที่ 1: ครึ่งปีแรกที่เปิดตัวสินค้า
คนที่ซื้อส่วนมาก ก็จะเป็นกลุ่มคนที่เป็น Dynamo คือ ชอบของใหม่ ชอบนวัตกรรม ดูตัวอย่าง IPhone จะเห็นผลทันทีกับ กลุ่มที่ซื้อเลยทันที ซึ่งส่วนมากมือถือเครื่องเดิมยังไม่ทันพังแต่ที่อยากซื้ออยากได้นั้นเพราะว่าพวกเขากลัวตกเทรนด์!
ช่วงที่ 2: ผ่านมาอีก 6 เดือน
ค่ายมือถือจะเริ่มออกโปรโมชั่นมากระตุ้นคนซื้อละ แต่โปรโมชั่น ก็ยังไม่ได้แรงมาก คนที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อจะเริ่มเห็น ดารา เซเลบ ใช้กันมากขึ้น เห็นโฆษณาบ่อยขึ้น พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อ กลุ่มนี้จะเป็นพวก Blaze Energy ตัดสินใจซื้อเพราะเห็นคนอื่นใช้แล้วโอเค ยิ่งมีคนดังๆมาโปรโมท กระตุ้นได้มากทีเดียว
ช่วงที่ 3: ครบ 1 ปี
เริ่มมีโปรโมชั่นหนักๆ ออกมาให้เห็น อย่างเช่นโน้ต 4 ที่ลดราคาลงมาเหลือประมาณ 16,000-17,000 บาท ราคาก็เริ่มถูกลงมากขึ้น และมีการเปรียบเทียบราคา คนที่เป็น Tempo Energy จะเริ่มแฮปปี้ เพราะว่าราคามันเริ่มถูก
ช่วงที่ 4: ประมาณ 1 ปีครึ่ง
เป็นช่วงสุดท้าย สินค้าเริ่มตกรุ่น เป็นช่วงรุ่นใหม่ออกมาสู่ตลาด กลุ่มคนที่เป็น Steel Energy จะตัดสินใจซื้อ เพราะเครื่องเก่าพังแล้วจริงๆ หรือบางคนก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนด้วยซ้ำ ถ้าไม่ถูกบังคับให้เปลี่ยน เหมือนสมัยก่อนที่มือถือฟีเจอร์โฟนต้องเปลี่ยนมาเป็นสมาร์ทโฟน คือถ้าหากฟีเจอร์โฟนมันไม่หายไป คนที่เป็น Steel Energy ก็อาจจะไม่อยากเปลี่ยนใหม่
ซึ่งคำว่าวงจรธุรกิจหรือฤดูกาลธุรกิจที่ว่านี้หากผู้ประกอบการเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็จะทำให้เราสามารถวางแผนการทำงาน วางแผนการตลาด รู้ว่าตอนไหนควรทำอะไร ไม่ว่าจะกิจกรรมพิเศษ
โปรโมชั่นร้อนแรง ศาสตร์นี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เราไม่ต้องไปกังวลกับคู่แข่งว่าจะมาไม้ไหน เขากำลังทำอะไร ขอให้เรารักษาระดับภายในฤดูกาลธุรกิจเหล่านี้ไว้และทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการนั้นรับรองได้ว่าธุรกิจที่เราลงทุนทำไปจะต้องมีกำไรให้ชื่นใจอย่างแน่นอน