3 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากสายฝอ
ถ้าหากเราให้ทุกคนลองนึกถึงความงามรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากสาวๆ ชาวไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าคำตอบของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นความงามแบบสายฝอ
โดยสิ่งที่ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของเทรนด์ความงามแบบนี้ได้แก่ริมฝีปากอันแสนจะอวบอิ่มที่เราสามารถปรับลุคของตัวเองในส่วนดังกล่าวได้จากทั้งการใช้ลิปสติกไปจนถึงการใช้วิธีที่ให้ผลยาวนานกว่าอย่างการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ
และเพื่อเป็นการบอกต่อรายละเอียดที่หลายคนอยากทราบเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากอย่างการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอกันให้มากขึ้น วันนี้เราจึงได้ลองไปรวบรวม 3 สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาให้ทุกคนได้ลองไปอ่านเพิ่มเติมตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
ฟิลเลอร์คืออะไร?
จริงๆ แล้วฟิลเลอร์คือการฉีดกรดไฮยาลูโรนิกเข้าสู่ผิวหนัง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว กรดดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ทั้งริมฝีปากแลดูเอวบอิ่มมากขึ้น และช่วยให้เราสามารถปรับรูปทรงของริมฝีปากได้ตามต้องการโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกายตามมา
3 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
คำตอบของเราในส่วนนี้คือเจ็บแค่ช่วงก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่แพทย์จำเป็นจะต้องฉีดยาชา (ในปัจจุบันมีตัวเลือกอย่างยาชาแบบทา รวมไปถึงฟิลเลอร์ที่มียาชาผสมอยู่ไหนตัว) และหลังฉีดเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งถ้าถามความเจ็บดังกล่าวนั้นอยู่ในระดับไหน เราต้องขอบอกเลยว่าเป็นความเจ็บที่รู้สึกได้เล็กน้อยอีกทั้งยังเจ็บไม่นาน แถมเรายังสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้ด้วยการประคบน้ำแข็ง
ฟิลเลอร์มี 3 ประเภท
ในปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ทั้งฟิลเลอร์ปากสายฝอหรือฟิลเลอร์ปากสายเกามีทั้งหมด 3 แบบ ประกอบไปด้วยฟิลเลอร์แบบชั่วคราว, แบบกึ่งถาวร และแบบถาวร โดยฟิลเตอร์แบบแรกจะมีอายุการใช้งานน้อยที่สุดราวๆ 4-6 เดือนในขณะที่ฟิลเลอร์แบบที่สองจะมีอายุสูงสุดประมาณ 1 ปี ส่วนข้อแตกต่างข้ออื่นๆ ของฟิลเลอร์ทั้ง 3 ประเถทนี้ได้แก่การสลายตัวของฟิลเลอร์ที่สองแบบแรกจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์แบบถาวรที่มักจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของผลข้างเคียงเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ
สิ่งที่ควรทำในกรณีมีแผนจะฉีดฟิลเลอร์
ถึงแม้การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอในปัจจุบันจะมีความปลอดภัยสูง และเป็นแนวทางการเสริมความอวบอิ่มให้กับฝากที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการฉีดเลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในการช่วยลดความเสี่ยงรวมไปถึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังการฉีดเป็นไปตามต้องการคือการปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ทั้งในช่วงก่อน เช่น การงดยาบางชนิด, การงดแอลกอฮอล์ และหลังฉีด อาทิ หลีกเลี่ยงการปะทะกับแสงแดดจ้าไปจนถึงการออกกำลังกายหนักๆ อย่างเคร่งครัด
