3 วิธียกระดับร้านกาแฟสู่ยุค4.0!
กาแฟเป็นเครื่องดื่มหมายเลขหนึ่งของคนทั้งโลกกระแสฮอตฮิตนี้ไม่ได้มีแค่ในเมืองไทยต่างประเทศ ธุรกิจร้านกาแฟ ถือว่าเติบโตและทำกำไรได้ดีทุกยุคสมัย ร้านกาแฟรายใหญ่ในประเทศไทยอย่าง STARBUCKS เมื่อปีที่ผ่านมาก็สร้างยอดขายได้เกินกว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนยอดรวมของทุกสาขาทั่วโลกนั้นเกินกว่า 100,000 ล้านบาท หรือจะเป็น Café Amazon
ที่มีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 1,800 แห่ง ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยยอดขายแต่ละสาขามากกว่า 300 แก้ว/วัน นั้นก็ทำให้เรามองเห็นทิศทางการแข่งขันของธุรกิจนี้ที่ปี 2561 จะต้องมีมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการค้ายุคใหม่นั้นต้องผนวกเรื่องยุค 4.0 เข้าร่วม
ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงมีแนวคิดง่ายๆกับ3วิธียกระดับร้านกาแฟสู่ยุค4.0 ในหมวดธุรกิจใหญ่ๆน่าจะเริ่มปรับตัวเรื่องนี้กันไปแล้วแต่ในฐานะธุรกิจขนาดกลางและเล็กควรปรับตัวเรื่องนี้อย่างไรเพื่อให้ก้าวตามกระแสโลกยุคใหม่ได้ทัน
เปิดร้านกาแฟยุคใหม่ควรเริ่มจากอะไรก่อนดี
หากเราเป็นเจ้าของร้านกาแฟมือใหม่สิ่งที่เราต้องสนใจนอกจากการแต่งร้านและเมนูที่สร้างสรรค์ สิ่งที่เราต้องทำอันดับต่อมาคือการสร้างแบรนด์ตัวเองให้ทุกคนรู้จักโดยเฉพาะในรัศมี 1-3 กิโลเมตรจากร้าน ซึ่งก็มีหลายวิธีที่สร้างแรงดึงดูดน่าสนใจได้เช่น
- แนะนำร้านผ่านทาง Facebook Page จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้นดีกว่าการแจกใบปลิวอย่างเดียว
- อย่าลืมการให้ช่องทางการติดต่อสั่งสินค้าไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์และLine
- เพิ่มบริการจัดส่งให้ถึงที่แบบที่ไม่ไกลเกินไปนักโดยส่วนใหญ่จะส่งตามออฟฟิศที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบ
- จัดโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้ายิ่งร้านเล็กยิ่งต้องทำเช่นบัตรสะสมซื้อครบ10แถมฟรี 1 ครั้งเป็นต้น
- หากเป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่เงินลงทุนมากก็อาจมีมุมนั่งสบายพร้อม Wi-Fi ให้เล่น
- อย่าลืมขออีเมลล์ลูกค้าเพื่อที่เราจะได้นำเสนอสินค้าใหม่ๆ และอัพเดทโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้ทราบเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ดีในหลักเบื้องต้นการทำร้านกาแฟก็จะมีเทคนิคประมาณนี้แต่ในยุคที่โลกออนไลน์กำลังมาแรงและคำว่า 4.0 ก็เป็นตัวแปรสำคัญต่อไปนี้คือวิธีทำตลาดร้านกาแฟที่จะเปลี่ยนร้านธรรมดาของเราให้เข้าสู่ยุค 4.0 ได้เต็มขั้น
1.นอกจาก Page ยังควรมีเว็บไซต์ของร้านด้วย
ร้านค้ายุคใหม่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟสิ่งที่ควรมีนอกจากเบอร์โทร Line เฟสบุ๊ค ก็ควรจะมีเว็บไซต์ของตัวเองด้วยเพื่อให้คนสามารถเข้ามาดูข้อมูลของร้านและติดตามข่าวอัพเดทได้ต่อเนื่องและการมีเว็บไซต์ก็เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านได้มากขึ้น
และต้องไม่ลืมคอนเทนต์สนุกๆที่บรรจุภายในเว็บไซต์เช่นเกมส์แจกของรางวัล หรือข้อมูลดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน ซึ่งการมีเว็บไซต์ที่ดีนอกจากจะรักษาลูกค้าเก่าไว้ได้ยังเป็นการดึงลูกค้ารายใหม่ๆให้เข้ามาหาเราได้อีกด้วย
2.ให้ความสำคัญกับ SEO
คนยุคนี้อยากรู้อะไรก็เข้าไปหาใน Google จากข้อมูลการสืบค้นแค่คำว่า “กาแฟ” พบว่าเกินกว่า 10,000 ครั้ง/เดือน หรือถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกาแฟทั้งหมดพบว่าต่อเดือนมีการค้นหาเกินกว่า 1,000,000 ครั้ง
จุดนี้จึงเป็นโอกาสของร้านกาแฟยุคใหม่ที่ต้องใส่ใจในการทำ SEO ให้มากขึ้น ด้วยการลงทุนสร้างคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของทางร้านให้ติดผลการค้นด้วย SEO โดยใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์
และสินค้าบริการ (ร้านกาแฟ+สถานที่ตั้ง+เมนูยอดนิยม ฯลฯ) รวมถึงไม่ลืมที่จะยืนยันตัวตนธุรกิจของคุณกับทาง Google เพื่อปักหมุดบน Google Map ให้หน้าร้านค้นพบได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. ใช้ Direct Mail ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Direct Mail พูดให้เข้าใจได้ง่าย ก็คือการส่งจดหมายธุรกิจถึงกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า ซึ่งเราพบว่าร้านกาแฟหรือธุรกิจส่วนใหญ่มักใช้แค่แฟนเพจเป็นหลักแต่ชื่อลูกค้าที่อยู่ในอีเมลล์กลับไม่ถูกนำมาใช้อย่างเกิดประโยชน์
โดยเฉพาะร้านกาแฟระดับกลางที่ต้องการเติบโตเรื่องนี้สำคัญมากเพราะการส่งอีเมลล์ที่ระบุชื่อผู้รับนั้นตามสถิติมีโอกาสที่จะถูกเปิดอ่านเกินกว่า 50% นั้นหมายถึงโอกาสในการรับรู้แบรนด์ของลูกค้าก็จะมากขึ้นโอกาสที่จะมาใช้บริการที่ร้านก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้ง 3 เทคนิคที่ว่านี้เป็นการเชื่อมโยงร้านกาแฟให้เข้าสู่ยุค 4.0 ได้เต็มตัวมากขึ้น ยังไม่รวมการใช้เครื่องมือในช่องทางอื่นๆ ที่เป็นความสามารถด้านการตลาดเฉพาะบุคคลแต่ในเบื้องต้นหากทำทั้ง 3 ข้อนี้ได้ร้านกาแฟยุค 4.0 ก็จะอยู่ในมือของเราเรียกว่าไม่ตกเทรนด์คนยุคนี้เลยทีเดียว
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S