101 เคล็ดลับ! จัดการเวลา
เวลาเป็นสิ่งที่ทุกๆคนมีเท่ากัน คนที่จัดการเวลาได้ดีกว่าย่อมทำงานได้ดีกว่า และได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า หากใครคิดว่าตัวเองยังจัดการเวลาได้ไม่ดีพอ วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีเทคนิค 101 ข้อในการจัดการเวลากัน
1. หายใจให้ช้าลง มีคำกล่าวว่า “เต่าหายใจเพียง 4 ครั้งต่อนาที ช้างหายใจประมาณ 8 ครั้งทุกๆนาทีและคนหายใจประมาณ 12 ถึง 15 ครั้งทุกๆนาที” การหายใจให้ช้าลงจะทำให้สุขภาพดีขึ้น ทำให้เรามีอายุยืนยาวขึ้น มีเวลาจัดการอะไรๆมากขึ้น
2. ตรวจสอบงานซ้ำอีกครั้งเมื่อทำเสร็จ ตรวจสอบงานของคุณอีกครั้งเพื่อไม่ให้คุณใช้เวลากลับไปแก้ไขข้อผิดพลาด
3. ปิดทีวี การศึกษาพบว่าเราใช้เวลา 8 ปี 10 เดือน ของชีวิตในการดูทีวี เราควรใช้เวลาเหล่านี้มาทำงานที่มีประโยชน์เสียดีกว่า
4. ทำงานที่ใหญ่และสำคัญก่อน “Mark Twain เคยกล่าวไว้ว่าถ้าสิ่งแรกที่คุณทำในแต่ละเช้าคือการกินกบ คุณสามารถผ่านไปได้ตลอดทั้งวันด้วยความพึงพอใจในการรู้ว่านั่นอาจเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับคุณในวันนี้” Brian Tracy เขียน “กบ” ในที่นี้หมายถึงงานใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด
5. จัดตารางเวลา 2.5 ชั่วโมง หลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาคือเวลาทองที่คุณควรใช้ทำงานที่ใหญ่และสำคัญก่อน คุณควรจัดตารางเวลาโดยอิงตามพลังงานในแต่ละช่วงเวลาต่อวันของคุณ
6. ตื่นให้เช้า หากคุณต้องการเวลาเพิ่มขึ้นก็ขอเพียงแค่ให้คุณตื่นให้เช้ากว่าเดิมเพื่อคุณจะได้มีเวลาในการจัดตารางเวลาของสิ่งที่คุณต้องทำในแต่ละวัน
7. เขียนบันทึกประจำวันในแต่ละวัน เมื่อคุณเขียนบันทึกประจำวันทุกวันจนครบ 1 หรือ 2 เดือนเมื่อคุณเอามาดูคุณจะพบว่าคุณเสียเวลากับอะไรไปมากที่สุด ใช้เวลานั้นในการทำงาน
8. ใช้เวลารออย่างคุ้มค่า ถ้าหากคุณต้องรออะไรสักอย่างเช่น การรอเข้าพบแพทย์ คุณอาจจะใช้เวลาที่คุณรอนี้โดยการอ่านหนังสือ หรือทำสิ่งต่างๆ
9. เขียนรายการที่คุณต้องทำ ถ้าคุณมีสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันให้คุณเขียนมันออกมาจากหัวของคุณ อย่าเก็บไว้ในหัว จงเขียนมันออกมาเพื่อที่จะได้จัดการมันได้อย่างง่ายดาย
10. ทำ 2 เท่าในเวลาเท่าเดิม ตัวอย่างเช่นการเตรียมอาหาร คุณควรเตรียมเป็น 2 เท่าโดยเก็บไว้กินอีกมื้อเพื่อคุณจะได้ไม่เสียเวลาเตรียมมันอีก
11. ละทิ้งกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เขียนสิ่งที่กวนใจคุณออกมาพร้อมกับสิ่งที่คุณต้องทำ พอเขียนเสร็จให้คุณมองว่าสิ่งไหนทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้มีรายได้เข้ากระเป๋าคุณ ตัดสิ่งนั้นออกเสีย ไม่ต้องทำสิ่งนั้น
12. ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เวลาที่คุณใช้ลังเลว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี เป็นเวลาที่เสียเปล่าคุณควรตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเมื่อต้องตัดสินใจอะไร
13. ตัดรายการสิ่งที่ต้องทำบางอย่างออก เมื่อเขียนสิ่งที่ต้องทำแล้ว อะไรที่ไม่สำคัญไม่จำเป็นต้องทำให้คุณตัดข้อนั้นออก
14. การทำความสะอาดคือแค่กำจัดสิ่งสกปรก คุณไม่จะเป็นต้องทำความสะอาดเนี๊ยบทุกสิ่งคุณเพียงแค่ทำความสะอาดให้ของสะอาด
15. กำหนดวันทำความสะอาด คุณไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดทุกวันเพียงแค่คุณกำหนดวันทำความสะอาดไว้สักวัน วันอื่นๆที่เหลือคุณจะได้สามารถจัดการงานที่เร่งด่วนได้
16. จัดกลุ่มงานที่คล้ายกัน จัดงานที่คล้ายๆกันเป็นกลุ่มเดียวกัน แล้วเลือกวันมาทำงานที่คล้ายกันกลุ่มนั้น
17. ทำสิ่งที่ประหยัดเวลา หากคุณต้องนัดพบลูกค้า ลองนัดพบลูกค้าในมื้อกลางวัน ทานมื้อกลางวันกับลูกค้าของคุณก็เป็นการประหยัดเวลาได้ส่วนหนึ่ง
18. เรียนรู้แป้นพิมพ์ลัด ผู้ใช้ออนไลน์ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปีใช้เวลาเฉลี่ย 1,979 นาทีออนไลน์ต่อเดือน ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรเรียนรู้แป้นพิมพ์ลัดเพื่อให้คุณประหยัดเวลาในการเรียกดูออนไลน์ ต่อไปนี้คือบางส่วนของแฮงค์ปฏิทินของ Office 365, เคล็ดลับ Yahoo Calendar และ Google Calendar hacks เพื่อช่วยในการดำเนินการ
19. พยายามเขียนอีเมลให้สั้นลง เมื่อคุณต้องส่งอีเมล พยายามเขียนมันให้สั้น เช่นเขียนให้จบภายใน 5 ประโยค
20. รู้จักแบ่งงานให้ผู้อื่น แทนที่คุณจะทำงานทุกอย่างคนเดียวคุณควรรู้จักแบ่งงานให้ผู้อื่น เพื่อที่คุณจะได้จัดการงานที่สำคัญ
21. จัดการงานซ้ำด้วยเทคโนโลยี ถ้ามีงานที่คุณต้องทำซ้ำ ลองใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการงานที่ต้องทำซ้ำเหล่านั้น
22. กำหนดเวลาให้น้อยลง กำหนดเวลาทำงานของแต่ละงานให้น้อยลง คุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณใช้เวลาทำงานบางอย่างมากเกินไป ลองเขียนงานที่ต้องทำออกมาแล้วกำหนดเวลาของแต่ละงานซะ
23. ทำงานสี่ชั่วโมงต่อวัน การศึกษาได้พบว่าคุณควรทำงานเพียงสี่ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ใช้เวลาสี่ชั่วโมงมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดของคุณเมื่อคุณมีประสิทธิผลมากที่สุด ส่วนที่เหลือพักผ่อนฝึกทักษะและทำภารกิจที่ท้าทาย
24. หยุดทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เวลาทำงานคุณควรมุ่งเน้นไปที่การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว คุณไม่ควรทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน
25. อยู่กับปัจจุบัน เลิกรู้สึกผิดกับช่วงเวลาในอดีต ให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่าอดีตหรืออนาคต
26. “เทคนิค Pomodoro.” เทคนิค “Pomodoro Technique” คือเทคนิคที่คุณใช้ที่จับเวลาและตั้งเวลาพักสั้น ๆ โดยปกติจะใช้เวลาห้านาทีหลังจาก 25 นาทีในการทำงานที่มุ่งเน้น
27. อย่าลืมงานหรือวันสำคัญ Jerry Seinfeld จะใช้ปฏิทินผนังและเครื่องหมายสีแดงเพื่อเน้นความสำคัญ
28. กฎ 2 นาทีของ David Allen ใช้เวลาสองนาทีในการดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ – ทำในตอนนี้ – เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
29. แบ่งเวลาเป็นช่วงช่วงละ 5 นาที แบ่งเวลาในแต่ละวันของคุณเป็นช่วงๆ ช่วงละ 5 นาที เพื่อที่คุณจะได้จัดเวลาตัวเองได้ อย่าลืมจัดเวลาพักให้กับตัวคุณเอง
30. Jay Shirley เรื่อง “Must, Should Want Method” นี่เป็นแบบฝึกหัดง่ายๆจาก Jay Shirley ทุกเช้าเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการตอบคำถาม 3 ข้อคุณต้องทำอย่างไรเพื่อสร้างผลกระทบมากที่สุดในวันนี้? คุณควรทำอย่างไรเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้น? คุณต้องการทำอะไรเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ? ทำให้วันของคุณเริ่มต้นด้วยเท้าขวาขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพและความสุขของคุณ
31. The Eisenhower Matrix จัดกลุ่มงานของคุณตามกลุ่มดังต่อไปนี้
- เร่งด่วนและสำคัญ (งานที่คุณจะทำทันที)
- สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน (งานที่คุณจะทำในภายหลัง)
- เร่งด่วน แต่ไม่สำคัญ (งานที่คุณมอบหมายให้คนอื่น)
- ไม่เร่งด่วนและไม่สำคัญ (งานที่คุณจะกำจัด)
การจัดกลุ่มแบบนี้สามารถใช้สำหรับแผนการแบบกว้าง (‘ฉันควรใช้เวลาของฉันในแต่ละสัปดาห์อย่างไร?’) และแผนการทำงานที่มีขนาดเล็กลงทุกวัน (‘ฉันควรทำอย่างไรในวันนี้?)
32. วางแผนวันทำงานล่วงหน้า ถ้าคุณวางแผนล่วงหน้าและจัดระเบียบงานของคุณจากนั้นทำตามแผนแบบไม่หยุดชะงัก จะทำให้คุณทำงานได้อย่างดีขึ้น
33. ปฏิบัติตามจังหวะของ ultradian ได้รับการยอมรับจากนักจิตวิทยาสรีรวิทยา Peretz Lavie จังหวะของ ultradi เป็นจังหวะที่ร่างกายไหลผ่านทุกๆ 90-120 นาที อาจมีความซับซ้อน แต่ความคิดก็คือคุณควรให้ความสนใจเมื่อระดับพลังงานของคุณสูงที่สุด แต่ให้พักผ่อนเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อย
34. ทำงานใหญ่ก่อน ในแต่ละวันคุณควรทำงานใหญ่ก่อนแล้วค่อยทำงานเล็กๆ เสมือนการวางหินก้อนใหญ่ลงในขวดโหลก่อน แล้วจึงเทกรวดเทหินก้อนเล็กๆ ทรายละเอียดตามลงไปจะทำให้ขวดโหลเต็มพอดี
35. ไม่ประชุมงานวันพุธ บริษัท เช่น Facebook และ Asana มีกฎที่ไม่มีการจัดประชุมในวันพุธ บริษัท อื่น ๆ มีกฎนี้สำหรับวันอื่น ๆ ในสัปดาห์ แต่แนวคิดก็เหมือนกัน ในทางตรงกันข้ามกับการเสียเวลาในการประชุมคุณสามารถมุ่งความสนใจไปที่งานแต่ละอย่างที่สำคัญ
36. เขียนรายการสิ่งที่ทำไปแล้ว นอกจากจะเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำแล้วการเขียนรายการสิ่งที่ทำไปแล้วจะเป็นการให้กำลังใจตัวคุณเอง
37. เช็คอินวันอาทิตย์ มีผู้ประกอบการบางรายและซีอีโอคนหนึ่งซึ่งจะเช็คอินกับทีมของพวกเขาในวันอาทิตย์ วิธีนี้ทุกอย่างพร้อมที่จะทำในเช้าวันจันทร์
38. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงาน คุณอาจชอบทำงานในที่เงียบๆ มีต้นไม้ประดับประดา สร้างสภาพแวดล้อมที่จะเหมาะแก่การทำงานของคุณ คุณอาจนำต้นไม้มาตกแต่งโต๊ะ หรือทาสีห้องทำงานของคุณใหม่ เป็นต้น
39. ปิดการแจ้งเตือน ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดสำหรับอีเมล, Facebook, Twitter และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ เมื่อกำลังทำงาน
40. วางแผนเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน วางแผนงานของคุณให้มีเวลายืดหยุ่นไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แผนงานของคุณจะได้ยังใช้งานได้
41. กำหนดจิตของคุณ หากคุณตั้งใจจะทำงานอะไรสักอย่างสัก 1 ชั่วโมง คุณควรตั้งใจให้งานเสร็จภายใน 40 นาที การเลื่อนเส้นตายมาจะทำให้คุณกระตือรือร้นมากขึ้น
42. ทำรายการของงานที่รอได้ นอกเหนือจากการทำรายการของงานที่ต้องทำ งานที่สำคัญแล้วคุณควรทำรายการของงานที่รอได้ ไว้ทำตามรายการเมื่อคุณมีเวลาว่าง
43. เขียนรายการสิ่งที่ขัดขวางงานของคุณ เขียนนิสัยที่ไม่ดี หรือรายการสิ่งต่างๆที่ทำลายเวลาทำงานของคุณ ปรับเปลี่ยนให้มันเป็นนิสัยที่ดี
44. ใช้คลื่นสมอง คลื่นสมองไม่ได้เป็นการพัฒนาใหม่ ในความเป็นจริงเป็นวิทยาศาสตร์อายุ 100 ปีที่ใช้โทนเสียงพิเศษและเสียงที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบคลื่นสมองของแต่ละบุคคล นี้ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยเปลี่ยนสถานะของบุคคล
45. Focus @ Will เป็นแอปพลิเคชันที่ไม่เพียงแต่ช่วยขจัดความรบกวนเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
46. ใช้ตัวจัดการรหัสผ่าน ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยจดจำรหัสผ่านต่างๆของคุณ เพื่อที่คุณจะได้ไม่เสียเวลาในการนึกรหัสผ่าน
47. ดูแลสายตาของคุณ ความยาวคลื่นสีน้ำเงินจากหลอดฟลูออเรสเซนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถทำให้ดวงตาของคุณอ่อนล้าและเร่งการเกิดริ้วรอยได้ เพื่อต่อสู้กับจุดเริ่มต้นนี้โดยเพื่อดูแลดวงตาของคุณทำตามขั้นตอนเล็กๆ 2 อย่างเช่นกระพริบตาและลดแสงก่อนนอน คุณอาจต้องการพิจารณาเลนส์ที่การป้องกันแสงสีฟ้า
48. ฟังอย่างตั้งใจ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการสนทนา คุณควรฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจเพื่อไม่ต้องให้อีกฝ่ายพูดซ้ำ และเพื่อป้องกันความผิดพลาด
49. พักให้เต็มที่ในเวลาพัก เพื่อขจัดความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวันคุณควรตั้งเวลาเลิกงานอย่างรวดเร็วเพื่อให้คุณมีเวลาพักได้อย่างเต็มที่ พร้อมรับงานในวันใหม่
50. หาเวลาออกกำลังกายบ้าง การออกกำลังกายจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งและช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
51. ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานดีอย่างเต็มที่
52. ดื่มกาแฟอย่างชาญฉลาด การดื่มกาแฟทุกวันไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อร่างกายนักคุณควรดื่มกาปฟสักวันละแก้วก่อนเริ่มงานจากนั้นดื่มน้ำเปล่าตลอดทั้งวัน
53. นอนวันละ 7-9 ชั่วโมง การนอนหลับวันละ 7 ถึง 9 ชั่วโมงช่วยเพิ่มความสนใจ ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจและสุขภาพ นอกจากนี้ยังลดความเครียดและอารมณ์ที่ไม่ดี
54. อย่าดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนจะทำให้คุณนอนหลับได้ไม่สบายนัก ดังนั้นอย่าดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน
55. หยุดและดมกลิ่นมะนาว การวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอพบว่าการดมกลิ่นมะนาวช่วยเพิ่มอารมณ์ของคนและเพิ่มระดับ norepinephrine ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่เชื่อมโยงกับการตัดสินใจและแรงจูงใจ
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่านักเรียนที่ใช้สบู่ทำความสะอาดที่มีกลิ่นหอมของมะนาวมีแนวโน้มที่จะทำความสะอาดตัวเองมากขึ้น ในขณะที่การศึกษาในประเทศญี่ปุ่นกลิ่นมะนาวช่วยเพิ่มความถูกต้องในการพิมพ์และทำให้ข้อผิดพลาดน้อยลง 54 เปอร์เซ็นต์
56. มีสมาธิตลอดเวลา อย่างที่กล่าวมาทั้งหมด คุณควรหายใจให้ช้าลงเพื่อทำสมาธิ และเพื่อให้มีสมาธิตลอดเวลาคุณควรขจัดสิ่งกวนใจของคุณ
57. จัดเตรียมท่าทางการทำงาน ทำงานในท่าที่รู้สึกพร้อมและทำให้คุณสบายจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนที่ช่วยลดความเครียดได้
58. งีบหลับระหว่างวัน การงีบหลับระหว่างวันจะช่วยเพิ่มพลังงานให้คุณทั้งยังช่วยเพิ่มความจำความตื่นตัว และความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้
59. ตั้งอุณหภูมิห้องทำงานให้เหมาะสม เพื่อให้ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ทำให้ทำงานไม่ได้ ควรตั้งอุณหภูมิในห้องทำงานให้เหมาะสม อุณหภูมิประมาณระหว่าง70º-72ºF (21-22ºC) มักเหมาะอย่างยิ่ง
60. อาบแดดบ้าง แสงธรรมชาติช่วยเพิ่มระดับพลังงานช่วยให้คุณสามารถโฟกัสลดความเครียดและช่วยในการนอนหลับที่ดียิ่งขึ้น
61. ยิ้ม! ตามผลการศึกษาการยิ้มจะช่วยให้คุณคลายเครียด เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีความสุข มีสมาธิจัดการงานได้ดีขึ้น
62. พาสุนัขไปทำงาน การศึกษาพบว่าเรา “คนเราจะกลายเป็นคนที่ไว้วางใจผ่อนคลายและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนหลังจากมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัข” นอกจากนี้การเล่นกับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณจะช่วยลดความเครียด นี่ไม่ใช่ปัญหาถ้าคุณทำงานจากที่บ้าน แต่ถ้าคุณไม่สามารถนำสุนัขไปทำงานได้ การดูภาพของสัตว์อาจมีผลเหมือนกัน
63. ลองยืนหรือเดินประชุม แทนที่จะนั่งประชุมอย่างเดียวลองประชุมด้วยการยืนหรือเดินเพราะจะช่วยให้สมองราบรื่นและยังประหยัดเวลาได้อีก
64. มีแผนเสมอ สมมุติว่าคุณจะสร้างบ้านหนึ่งหลังคุณต้องมีการวางแผนแน่ๆ ชีวิตก็เหมือนกันวางแผนระยะสั้นในแต่ละวัน ระยายาวในแต่ละเดือน
65. เตรียมเวลา 5 นาทีก่อนคุยงาน ให้คุณใช้เวลา 5 นาทีก่อนโทรศัพท์หรือคุยงานใดๆ เรียบเรียงสิ่งที่จะคุย มองหาถึงความสำเร็จเพื่อที่จะคุย มันจะช่วยประหยัดเวลาในการคุย
66. พัฒนาความคิดอยู่เสมอ จากการศึกษาพบว่าคนเราสามารถพัฒนาความคิดได้เสมอและการพัฒนาความคิดก็จะทำให้การกระทำของเราเติบโตขึ้นด้วย
67. ทบทวนเรื่องราวในสัปดาห์ก่อนเป็นประจำ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ก่อนอยู่เป็นประจำโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- จัดการกล่องข้อความของคุณ
- ตรวจดูข้อมูลปัจจุบันว่ามีงานไหนได้ทำไปแล้ว งานไหนยกเลิก งานไหนยังไม่ได้ทำ
- นำงานใหม่ๆเข้ามาไว้ในตารางงานของคุณ
68. เขียนบันทึกความสุขของคุณ ทุกคืนก่อนนอนคุณควรเขียนเรื่องที่ทำให้คุณมีความสุข 3 สิ่งในวันนั้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองและย้ำเตือนว่าตัวเองมีความสุข
69. ทำสิ่งที่สำเร็จง่าย ในขณะที่คุณมักมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหางานที่ยากที่สุดก่อนบางครั้งคุณต้องได้รับความสำเร็จทันทีเช่น การจัดเตียงเมื่อตื่นนอน เป็นวิธีที่เรียบง่ายที่จะรู้สึกสำเร็จและสร้างแรงผลักดันสำหรับช่วงที่เหลือของวัน
70. เรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งเราต้องรู้จักปฏิเสธคนบ้างเพื่อที่เราจะได้มีเวลาของเราไว้จัดกาสิ่งต่างๆ James Altucher และ Claudia Azula Altucher เป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการพูดว่า “ไม่” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
71. ค้นหาเส้นทางของคุณ หากิจกรรมที่ท้าทายทำเพื่อหาเส้นทางในชีวิตของคุณ ทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขตามทางของตัวเอง
72. กำหนดเวลาพักตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามควรมีเวลาพักเพื่อเติมพลังให้แก่ตัวเองในตลอดทั้งวัน
73. ตัดการเชื่อมต่อ บางครั้งคุณจำเป็นต้องถอดปลั๊กและถอดการเชื่อมต่อและหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่าย ตัวอย่างเช่นในช่วงบ่ายวันเสาร์ควรปิดโทรศัพท์เป็นเวลาสองชั่วโมงเพื่อไม่ให้คุณรับสายโทรศัพท์ข้อความหรืออีเมล ให้คุณได้พักอย่างเต็มที่
74. ทบทวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ลองนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เช่น วันนี้คุณลองเดินกลับบ้าน ข้าวเย็นที่ทานเป็นอะไร เป็นต้น
75. ต่อรองกับตัวเอง ถ้าคุณไม่ต้องการทำอะไรให้ทำข้อตกลงกับตัวเองที่จะทำอย่างน้อยห้านาทีInstagram ผู้ก่อตั้ง Kevin Systrom พูดว่า “หลังจากห้านาทีคุณจะจบลงด้วยการทำสิ่งทั้งปวงสำเร็จ”
76. ระบุนิสัยหลักสำคัญของคุณ Charles Duhigg ผู้เขียน “The Power of Habit” กำหนดนิสัย “สำคัญ” เป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ตัวอย่างเช่นการวางแผนของคุณออกกำลังกายและมีจิตที่แข็งแกร่ง
77. จัดตั้ง S.M.A.R.T. เป้าหมาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณมีความเฉพาะเจาะจง(specific) สามารถวัดได้(measurable) บรรลุได้(attainable)ตามความเป็นจริง(realistic)และตามเวลา(time) ทำให้สามารถกำหนดและบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
78. หยุดติดตามความคืบหน้าของเป้าหมาย การติดตามความคืบหน้าอาจทำให้คุณท้อได้ ดังนั้นหยุดติดตามความคืบหน้า แต่ให้มุ่งเน้นเป้าหมายไว้
79. ตั้ง “เป้าหมายกระบวนการ” เป้าหมายกระบวนการคือสิ่งที่คุณต้องการเพื่อบรรลุเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้น 25% เป้าหมายการดำเนินการของคุณก็คือการเรียกลูกค้าราย 5 รายทุกวัน
80. คิดเสมอว่าต้องมีอุปสรรค แม้อุปสรรคจะยังไม่เกิดขึ้นแต่เราต้องคิดแผนเผื่อมีอุปสรรคไว้ก่อนเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้เมื่อเกิดอุปสรรคขึ้นมาจริงๆ
81. ไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก เมื่อทำผิดให้ยอมรับและจดจำความผิดนั้นไว้ ในครั้งหน้าต้องระวังไม่ให้เกิดความผิดซ้ำสองอีก เรียนรู้ให้มากจากความผิดพลาด
82. จบวันของคุณด้วยความรู้สึกดีๆ เมื่อวันกำลังสิ้นสุดลงจบวันที่แสนยุ่งของคุณด้วยการหาสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขและยิ้มได้ทำ
83. กำหนดเวลาทั้งวัน คุณควรเริ่มต้นทุกเช้าโดยวางแผนทั้งวัน ซึ่งรวมทุกอย่างจากงานที่สำคัญที่สุดของคุณไปจนถึงการประชุมเพื่อทำเวลาเดินทาง
84. ทำให้โต๊ะทำงานของคุณสะอาด เมื่อคุณมีโต๊ะรกที่ส่งสัญญาณภาพไปยังสมองของคุณที่ทำให้เกิดความเครียด ใช้เวลาสองสามนาทีสุดท้ายของวันของคุณในการทำความสะอาดและจัดโต๊ะทำงานของคุณ
85. ใช้เครื่องมือปฏิทินและปฏิทินออนไลน์ ด้วยปฏิทินออนไลน์คุณสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ต่างๆกำหนดเวลาการประชุม / นัดหมายตั้งค่าการแจ้งเตือนปิดกั้นเวลาและตั้งค่ากิจกรรมที่เกิดซ้ำ
86. อย่าใส่สิ่งที่ไม่จำเป็นลงปฏิทิน ปฏิทินเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณจัดตารางเวลาในแต่ละวัน แต่ละเดือนได้ ให้จดแต่เพียงสิ่งสำคัญลงปฏิทิน
87. รวบรวมแอปพลิเคชัน ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยจัดการตารางงานมากมาย คุณควรรวบรวมมันไว้ในที่เดียวกันและระวังอย่าโหลดมาเยอะเกิดไปไม่อย่างนั้นข้อมูลในแต่ละแอปพลิเคชันอาจทำคุณสับสนได้
88. แบ่งปันปฏิทินของคุณ แบ่งปันปฏิทินของคุณกับลูกค้าและเพื่อนร่วมงานเพื่อให้คุณสามารถกำหนดเวลาการประชุมที่มีประสิทธิผลและรับทราบถึงกำหนดเวลาโดยไม่ต้องส่งอีเมลไปมา คุณยังสามารถแบ่งปันปฏิทินของคุณกับครอบครัวเพื่อให้พวกเขารู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน
89. ทำงานที่สำคัญที่สุดเพียง 3 อย่างต่อวัน เลือกงานที่สำคัญที่สุดมา 3 งาน และตั้งงานเหล่านั้นเป็นเป้าหมายสำคัญของวัน
90. กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องเกิดวันนี้ 3 สิ่งในตอนเช้า เช่นกำหนดว่าวันนี้คุณจะเขียนงาน B เสร็จแล้วมาเช็คตอนท้ายของวันว่าคุณทำสำเร็จไหม
91. จดเมื่อทำงานสำคัญ หากตอนคุณทำงานสำคัญอยู่มีเพื่อนร่วมงานมาบอกอะไรคุณให้คุณจดสิ่งที่เขาบอกก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ลืมและเป็นการไม่เอาสมาธิไปสนใจอย่างอื่นนอกจากงานสำคัญด้วย
92. อย่าทำงานติดต่อกัน อย่ากำหนดตารางเวลาทำงานติดๆกัน ควรกำหนดให้มีเวลาพัก หรือมีเวลาในการเดินเล่นได้บ้าง
93. แบ่งงานใหญ่เป็นงานชิ้นเล็กๆ แบ่งงานชิ้นใหญ่ให้เป็นชิ้นเล็กๆเพื่อค่อยๆทำงานชิ้นเล็กๆนั้นให้ประสบความสำเร็จเมื่อนำมารวมกันก็จะกลายเป็นงานใหญ่ที่สำเร็จ
94. กำหนดเส้นตายของงาน งานทุกงานควรมีเส้นตายเพื่อจะได้ไม่เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง และสมมุติถ้าเส้นตายจริงอยู่วันศุกร์ คุณควรกำหนดเส้นตายของคุณเป็นวันพฤหัสเพื่อที่จะได้มีเวลาตรวจทาน
95. นึกภาพความสำเร็จอยู่เสมอ มีผลการศึกษาออกมาว่า คนที่นึกภาพความสำเร็จของตัวเองประจำอยู่ในหัว จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่เคยนึกเลย
96. จดบันทึกข้อความที่ประทับใจลงบนภาพที่ประทับใจ เมื่อคุณเจอข้อความที่ประทับใจลองเอาข้อความนั้นไปใส่ภาพที่คุณชอบ มันจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คุณ
97. ค้นหาที่ปรึกษา หาใครสักคนที่คุณสามารถปรึกษาได้เมื่อเกิดปัญหาเพื่อที่จะได้มีคนช่วยคิดเมื่อเกิดปัญหา สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว
98. พัฒนาทักษะ การเรียนรู้หรือการเสริมสร้างทักษะช่วยให้งานของคุณเสร็จได้เร็วขึ้น เนื่องจากคุณมีความรู้ไม่เพียง แต่คุณก็มีแนวทางใหม่เพื่อแก้ปัญหา นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจของคุณด้วย
99. ทำที่ละขั้นตอน ค่อยๆทำไปที่ละขั้นทำตามแผนที่วางไว้ เพื่อไม่ให้เสียเวลามานั่งแก้ไขในภายหลัง
100. ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง อย่ากังวลว่างานจะออกมาไม่สมบูรณ์แบบเพราะความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริงบนโลกนี้ ทำให้เต็มที่แล้วก้าวเดินต่อไป
101. ให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำเป้าหมายสำเร็จควรให้รางวัลตัวเองอาจจะข้ามของหวานเปลี่ยนเป็นการนวด เพราะการนวดช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเครียด เป็นต้น
จบไปแล้วกับ 101 ข้อเทคนิคในการจัดการเวลา หวังว่าทุกๆคนจะลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง ไม่ต้องใช้หมดทั้ง 101 ข้อก็ได้เลือกเทคนิคที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองแล้วนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้เหมาะแก่ตัวเองแค่นี้ก็เชื่อเถอะว่าเป้าหมายจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี ทำธุรกิจ goo.gl/hrZY4i
ที่มา https://bit.ly/2w2GutB
ภาพจาก freepik.com