10 เหตุผล ทำไมใครๆ ก็อยากทำเป็นแฟรนไชส์
ธุรกิจที่ทำเองกับธุรกิจที่ทำเป็นแฟรนไชส์แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน ทำไมเจ้าของธุรกิจหลายๆ รายสนใจอยากจะทำธุรกิจตัวเองให้เป็นแฟรนไชส์ วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบครับ
1.ธุรกิจขยายกิจการได้รวดเร็ว
เจ้าของธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์จะสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วกว่าคนที่ไม่ทำแฟรนไชส์ จากเดิมยังไม่ทำแฟรนไชส์จะมีเพียง 1 สาขา พอทำแฟรนไชส์จนมีชื่อเสียง กระทั่งมีคนมาขอซื้อไปเปิดจะทำให้กิจการขยายเพิ่ม 2 สาขา 3 สาขา 4 สาขา และหากธุรกิจได้รับความนิยมมากขึ้นก็อาจขยายสาขาไปได้ถึง 100 สาขาในระยะเวลาไม่ถึงปีก็ได้
2. ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
นอกจากธุรกิจที่เป็นแฟรนไชส์จะขยายสาขาได้รวดเร็วแล้ว ยังเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและประชาชนในวงกว้าง จากเดิมจุดเริ่มต้นของธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อมีคนซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดทุกจังหวัดทั่วประเทศก็จะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นที่รู้จักของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ยกตัวอย่างแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หลังทำแฟรนไชส์คนรู้จักทั้งประเทศ
3. ตราสินค้าได้รับความนิยมมากขึ้น
ยกตัวอย่าง ธุรกิจห้าดาว หรือไก่ย่างห้าดาวเดิม หลังจากเครือซีพีขายแฟรนไชส์ให้กับประชาชนทั่วไปที่อยากจะมีอาชีพ กลายเป็นว่าตราสินค้าหรือยี่ห้อสินค้า “ห้าดาว” เป็นที่สนใจและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนจดจำชื่อได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วกว่า 6,000 สาขาในประเทศไทยและกว่าพันสาขาในต่างประเทศ
4. ประหยัดงบลงทุนขยายกิจการ
เจ้าของธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์จะประหยัดงบลงทุนในการขยายกิจการ เพราะงบลงทุนที่ว่านี้จะเป็นของผู้ซื้อแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นค่าก่อสร้าง ออกแบบตกแต่ง อุปกรณ์ในร้าน วัตถุดิบ และอื่นๆ ซึ่งเจ้าของแบรนด์แทบไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย
5. ธุรกิจเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
ถ้าธุรกิจไม่ทำแฟรนไชส์เปิดขายเพียงแค่ 1 สาขาในพื้นที่เดียว ก็จะได้ลูกค้าเพียงแค่พื้นที่นั้นๆ และใกล้เคียงเท่านั้น แต่ถ้าทำแฟรนไชส์มีการขยายสาขาไปทุกในทุกพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ก็จะทำให้สินค้าและบริการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย โดยที่ผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ ไม่ต้องเดินทางไกลๆ เพื่อมาใช้บริการที่ร้านสาขาหลักเท่านั้น
6. ขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
แน่นอนว่าธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์จะมีช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการได้มากขึ้นกว่าการเปิดสาขาเดียว หากมีคนสนใจซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดหลายสาขาก็จะยิ่งมีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น ยกตัวอย่างแฟรนไชส์กาแฟ “คาเฟ่ อเมซอน” ที่มีสาขามากกว่า 4 พันสาขาทั้งในและต่างประเทศ ในไตรมาส 3 /2566 สามารถขายเครื่องดื่มได้มากถึง 93.3 ล้านแก้วในช่วงเวลาเพียง 92 วัน ซึ่งปกติแล้วแต่ละสาขาของคาเฟ่ อเมซอนจะขายได้ 250-300 แก้วต่อวัน
7. ขยายตลาดไปต่างประเทศได้ง่าย
การขยายธุรกิจในตลาดประเทศด้วยตัวเองจะทำได้ยากมาก เพราะมีกฎระเบียบการลงทุนต่างๆ มากมาย แต่ถ้าทำแฟรนไชส์และขายให้กับนักลงทุนท้องถิ่นในต่างประเทศไปเปิดจะทำได้ง่ายและมีความรวดเร็ว เพราะเป็นคนในประเทศนั้นๆ
8. มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เจ้าของธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์จะมีรายได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า ค่าสิทธิต่อเนื่อง (Royalty Fee และ Marketing Fee 3-5% จาดยอดขายแต่ละเดือนของแฟรนไชส์ซี) รวมถึงค่าต่อสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงค่าสินค้าและวัตถุดิบบางส่วนที่แฟรนไชส์ซีจะต้องซื้อจากเจ้าของแบรนด์ เมื่อมีสาขามากก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้น
9. ไม่ต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดจะมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการการสรรหาและคัดเลือกพนักงานเองทั้งหมด รวมถึงรับผิดชอบในเรื่องค่าจ้างพนักงาน และใช้จ่ายต่างๆ ในร้าน จึงทำให้เจ้าของธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก เพียงแต่มีการสร้างทีมงานดีๆ ไว้สำหรับช่วยเหลือและสนับสนุนสาขาแฟรนไชส์ก็เพียงพอ
10. มีอำนาจในการซื้อสินค้าทีละมากๆ
เจ้าของธุรกิจที่ทำแฟรนไชส์และมีการขยายแฟรนไชส์หลายสาขา จะมีอำนาจต่อรองจากซัพพลายเออร์ในการสั่งซื้อสินค้าและวัตถุดิบในราคาถูกเมื่อมีการสั่งซื้อทีละมากๆ ซึ่งจะทำให้แฟรนไชส์ซีได้ซื้อสินค้าและวัตถุดิบในราคาถูกลงด้วยเช่นกัน
นั่นคือ 10 เหตุผล ที่เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนอยากจะทำธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์
#สมัครคอร์สนเรียนแฟรนไชส์ https://bit.ly/3N22BZy
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)