10 เทคนิคเตรียมพร้อมโฆษณาขายสินค้าต้อนรับสงกรานต์

ปัจจุบัน 8 ใน 10 ของคนไทยที่อาศัยในตัวเมืองและชนบทมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง และ 90% ของผู้ใช้ อินเตอร์เน็ต เข้าใช้งานออนไลน์ผ่านทางสมาร์ทโฟน ไม่น่าแปลกใจที่การขายสินค้าออนไลน์จะมียอดการขายที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเทศกาลได้เช่นกัน

โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าในสงกรานต์ปี 2560 ที่ผ่านมามีเม็ดเงินสะพัดกว่า 23,000 ล้านบาท และยอดการซื้อสินค้าออนไลน์ก็โตกว่าช่วงเวลาปกติถึง 15%

แต่ทั้งนี้ด้วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มากมายโอกาสที่จะทำการค้าขายแล้วได้กำไรมากขึ้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากหากไม่มีการเตรียมตัวหรือวางแผนไว้ล่วงหน้าด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี10เทคนิคเตรียมความพร้อมในการโฆษณาขายสินค้าช่วงสงกรานต์ให้ได้ผลยิ่งขึ้นมาฝากทุกคนได้เอาไปลองใช้กัน

1.สรรหาสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับคนทำธุรกิจขายของออนไลน์และไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าต้องขายอะไรเป็นพิเศษขอแนะนำว่าในแต่ละเทศกาลความต้องการสินค้าจะแตกต่างกัน โดยในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ผลการสำรวจระบุว่ากว่า 83% มองหาสินค้าเช่นเสื้อผ้า ที่พัก โปรโมชั่นท่องเที่ยว การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ สรุปง่ายๆคือเป็นสินค้าประเภทผ่อนคลายและเพิ่มความสะดวกสบายให้ตัวเองหากเราสรรหาสินค้าเหล่านี้ได้ก็นับเป็นผลดีที่จะทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นได้

2.youtube ได้รับความสนในมากขึ้น

ภาพจาก https://goo.gl/NJ5Abe

ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเน้นแพตลฟอร์มไหนถึงจะเวิร์คในช่วงสงกรานต์ข้อมูลหนึ่งระบุว่า YouTube เป็นช่องทางออนไลน์ที่คนสนใจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสงกรานต์ โดยคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเริ่มไต่ระดับมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จากนั้นพุ่งสูงขึ้นในช่วงเทศกาลระยะเวลาดู YouTube ในช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นกว่า 78% โดยเฉพาะช่องเพลง ทีวี ภาพยนตร์ ซึ่งคนที่คิดจะขายสินค้าสามารถเอาแนวทางนี้ไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้

3.ทำตลาดล่วงหน้าก่อนเข้าเทศกาลประมาณ 1 เดือน

มีข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจว่าคนส่วนใหญ่จะมองหาสินค้าที่ตัวเองสนใจในช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนเข้าเทศกาลไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร ของฝาก เครื่องประดับ โดยคนส่วนใหญ่จะจัดการกับสินค้าที่ตัวเองต้องการให้จบตั้งแต่ก่อนเข้าเทศกาลเพราะในช่วงเทศกาลจะได้ใช้เวลาสนุกได้เต็มที่ ดังนั้นโอกาสของการขายของและโฆษณาจึงมีระยะเวลาสำคัญคือประมาณ 1 เดือนก่อนเข้าเทศกาลที่จะต้องสร้างการรับรู้ด้วยการตลาดทุกรูปแบบให้คนสนใจก่อนเข้าเทศกาล

4.อัดแคมเปญโปรโมชั่นเต็มที่

สินค้าบางแบรนด์อาจกลัวการทำโปรโมชั่นว่าจะทำให้ภาพลักษณ์สินค้าดูแย่โดยเฉพาะพวกซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคา รวมถึงไม่อยากให้คนติดภาพว่ารอให้ลดราคาถึงจะเลือกมาซื้อสินค้ากับเรา แต่อย่างไรก็ตามเทศกาลแบบนี้ถือเป็นวาระพิเศษที่เราต้องเลิกคิดเรื่องพวกนี้และหันมาเอาใจลูกค้าส่วนมากที่มองหาโปรโมชั่น ของแถม ของแจก เรียกว่าคิดแคมเปญอะไรขึ้นมาได้ อัดแน่นๆ เข้าไปในช่วงนี้ได้เลย

5.ติดต่อลูกค้าให้ต่อเนื่อง

ถึงแม้การซื้อในช่วงวันหยุดยาวอาจมียอดขายสูง แต่หลังวันหยุดยาวอาจเบาลงไปบ้าง เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องวางแผนด้วยว่า หลังมียอดขายดีแล้ว ลูกค้ารู้จักสินค้าแล้ว หลังจากนั้นพยามติดต่อลูกค้าให้ต่อเนื่องด้วย เช่น ส่งข้อมูลสินค้า ปล่อยโปรโมชั่นเป็นระยะ ให้ลูกค้าทางเมลล์หรือไลน์ เพราะเราต้องทำการค้าตลอดปีไม่ใช่แค่เทศกาลอย่างเดียวเท่านั้น

6.สร้างสรรโฆษณาด้วยการใช้ประโยคคำถาม

การใช้ประโยคคำถามจะช่วยกระตุ้นความคิดของลูกค้าให้คิดตาม เช่นช่วงสงกรานต์เราอาจโพสต์เชิงคำถามว่า คิดจะกลับบ้านมีของฝากให้คนที่คุณรักหรือยัง? หรือ เราดูแลสุขภาพคนที่รักได้ดีหรือยัง เป็นต้น ทั้งนี้การใช้ภาพที่สื่อให้เห็นสินค้าก็จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้คนอยากซื้อได้มากขึ้นด้วย

7.ภาพสวยได้เปรียบเสมอ

ภาพสวยๆในโฆษณาสำคัญพอๆกับข้อความดังนั้นหากคิดจะขายดีก็ควรลงทุนทำภาพให้ดีด้วย ทั้งนี้การโฆษณาในช่องทางออนไลน์นั้นไม่ควรใช้รูปสินค้าแบบเดียว ควรมีสร้างไว้สัก 2-3 แบบ สำหรับลูกค้าที่ต่างกลุ่มกัน เช่นสำหรับเด็กๆก็ภาพน่ารักๆ สำหรับคุณผู้หญิงก็สีสันฟุ้งฟิ้งน่ารักๆ หรือภาพสำหรับคุณผู้ชายก็ดูแข็งแรง น่าสนใจเป็นต้น ทั้งนี้ในภาพโฆษณาไม่ควรใส่ Text มากเกินไปแต่ให้ภาพสื่อความหมายในการเป็นแบรนด์ให้มากที่สุด

8.หน้าร้านออนไลน์ต้องพร้อมเต็มที่

ด้วยการที่ร้านค้าออนไลน์มีให้เลือกเยอะแยะ เชื่อได้เลยว่าลูกค้าจะไม่เลือกเราแน่ๆ หากการเข้ามาซื้อสินค้าในร้านของเราเต็มไปด้วยความยุ่งยากและขั้นตอนที่ซับซ้อน ทางที่ดีเราควรออกแบบหน้าร้านให้มีความง่ายในการสั่งซื้อสินค้ามากที่สุด ไม่ต้องให้มีขั้นตอนเยอะแยะ เพราะคนส่วนใหญ่ชอบอะไรที่ง่ายๆ และรวดเร็ว ที่สำคัญไซด์ภาพตัวอย่างควรละเอียดซูมไม่แตก เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าสั่งสินค้ากับเว็บเราแล้วจะได้สินค้าทันเวลาแน่นอน

9.พยายามเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด

หนึ่งในวิธีการขายที่ดีที่สุดคือการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด เนื่องจากหน้าร้านออนไลน์ไม่ใช่หน้าร้านทั่วไปที่ใครจะเดินผ่านมาแล้วก็เห็นดังนั้นเราต้องทำให้ทุกคนรู้ว่ามีหน้าเว็บ หรือเพจของเราอยู่ ซึ่งเราอาจต้องเสียเงินไปกับการตลาดแนวนี้เช่นการเสียเงินในการจ้างคนโปรโมทเว็บ การปรึกษานักการตลาดในการเชื่อมโยงเพจกับสื่อออนไลน์ดังๆ ให้คนเห็นเรามากที่สุด ยิ่งมีคนรู้จักเรามากโอกาสที่เราจะขายได้ก็มีมากซึ่งเราก็ต้องมีการจัดงบทุ่มในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน

10.บริการประทับใจส่งของตรงเวลา

ร้านค้าออนไลน์ที่ดีต้องสร้างฐานลูกค้าให้เชื่อมั่น สินค้าทุกชิ้นที่ขายต้องมีอยู่จริง ต้องเป็นของที่มีคุณภาพตามที่โฆษณาทุกประการ และทุกครั้งที่ลูกค้าออร์เดอร์เข้ามาต้องมีการจัดส่งที่ตรงเวลาและมีการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ พร้อมทั้งมีการสอบถามหลัง

จากที่ส่งสินค้าได้ระยะหนึ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนการสร้างลูกค้าให้รู้สึกประทับใจในการทำงานและจะทำให้ร้านค้าออนไลน์ของเราขายดีที่ไม่ใช่แค่ในเทศกาลเท่านั้น

ช่วงเวลาเทศกาลก็เป็นระยะเวลาหนึ่งที่เราเอามาทำให้เป็นสีสันในการขายได้แต่ในความเป็นจริงเราควรมองการขายระยะยาวว่าเราควรทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจในความเป็นร้านค้า ซึ่งมีหลากหลายเทคนิคที่สอนกันมาและเราสามารถเอามาปรับใช้ได้จริงไม่จำเป็นแค่ในเทศกาลอย่างเดียวเท่านั้น

---

SMEs Tips

1. สรรหาสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
2. youtube ได้รับความสนในมากขึ้น
3. ทำตลาดล่วงหน้าก่อนเข้าเทศกาลประมาณ 1 เดือน
4. อัดแคมเปญโปรโมชั่นเต็มที่
5. ติดต่อลูกค้าให้ต่อเนื่อง
6. สร้างสรรโฆษณาด้วยการใช้ประโยคคำถาม
7. ภาพสวยได้เปรียบเสมอ
8. หน้าร้านออนไลน์ต้องพร้อมเต็มที่
9. พยายามเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด
10. บริการประทับใจส่งของตรงเวลา

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S