10 วิธีหารายได้จากการใช้รถยนต์

10 วิธีหารายได้จากการใช้รถยนต์  ยุคนี้รถยนต์เปรียบเหมือนเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากมีรถทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น กับบริการขนส่งมวลชนที่คุณภาพยังดีไม่พอ แม้จะมีรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และมีแผนจะขยายออกไปให้ครอบคลุม แต่รถยนต์ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีถึงขนาดที่บางบ้านที่มีฐานะใช้รถยนต์ 3-4 คัน

ทั้งนี้การมีรถยนต์ก็เท่ากับการมีรายจ่ายเพิ่มด้วย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ภาษีรถยนต์ และประกัน หลายคนจึงมีความคิดที่จะนำรถยนต์มาใช้สร้างรายได้มากกว่าจะขับไปทำงานเช้าเย็นหรือซื้อมาจอดไว้เฉยๆ ด้วยเหตุนี้
www.ThaiSMEsCenter.com มี10วิธีหารายได้จากการใช้รถยนต์มาฝากทุกคนได้ลองเอาไปใช้ดู

1.รับส่งของ

ภาพจาก https://goo.gl/bTaJGj

เชื่อหรือไม่ว่างานรับส่งของโดยใช้รถยนต์ของตัวเราเองถ้าขยันๆ บางเดือนอาจได้เงินสูงถึง 30,000 – 40,000 บาท ต่อเดือนเลยทีเดียว เยอะกว่าพนักงานตามบริษัททั่วๆ ไปเสียอีก โดยการรับส่งของมีหลายแบบ เช่น รับส่งของให้ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้า ส่งผัก ปลา ผลไม้ ส่งอาหาร และยิ่งศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการติดตั้งระบบไฟฟ้าเราก็อาจจะรับส่งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย

2.แปะโฆษณาบนรถยนต์

ภาพจาก https://goo.gl/8Rstke

ในอเมริกาเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะเป็นการสร้างเงินง่ายๆ ด้วยรถยนต์ของเราเองและยังใช้งานได้ปกติ วิธีการก็คือติดสติ๊กเกอร์เป็นโฆษณาตามตัวรถ ซึ่งเราน่าจะเคยเห็นตัวอย่างจากรถเมล์ หรือรถแท็กซี่กันมาบ้างแล้ว

ใครสนใจเรื่องนี้ก็มีบริษัทที่พร้อมจ้างเรามากมาย วิธีการส่วนใหญ่แค่เลือกตัวแทนที่เราต้องการทำงานด้วย ตกลงทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดให้ชัดเจน เลือกสติ๊กเกอร์ที่ต้องการนำมาติดรถยนต์ และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

รายได้ก็จะมาจากการนำรถไปวิ่งจะคิดรายได้เป็นะระยะทางคำนวณจากแอพพลิเคชั่นที่เราติดตั้ง เฉลี่ยกิโลเมตรประมาณ 7 บาท คนที่ทำอย่างจริงจังอาจมีรายได้มากสุดถึงกว่า 4,000 บาท/เดือน แต่เราก็ต้องดูเงื่อนไขของบริษัทให้ดีก่อนด้วย

3. GRAB หรือ UBER

ภาพจาก https://goo.gl/uL4XYW

วิธียอดฮิตที่กลายเป็นกระแสกันอยู่พักใหญ่ทั้ง GRAB หรือ UBER แม้ในระยะหลังจะมีข่าวด้านต่างๆ ออกมาแต่การทำงานด้วย GRAB หรือ UBER ก็ยังถือว่าน่าสนใจ เพียงแต่ใครต้องการหารายได้วิธีนี้ก็ให้ไปศึกษารายละเอียดของแต่ละบริษัทซึ่งมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน รายได้ของการทำงานก็จะแตกต่างกัน หรือถ้ายังไม่อยากศึกษาก็ลองไปสอบถามกับคนที่เคยทำมาก่อนจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น

4.เปิดท้ายขายของ

ภาพจาก https://goo.gl/SNo9Ew

ไม่ว่าจะมีรถเก๋งหรือรถกระบะ ก็สามารถเอามาเปิดท้ายขายของได้ทั้งนั้น โดยปัจจุบันมีตลาดเปิดท้ายมากมายที่ให้เราเลือกสินค้าไปขายได้ หรือจะง่ายหน่อยก็ตามตลาดนัด สินค้าเปิดท้ายส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้า รองเท้า หรือกิ๊ฟช็อฟต่างๆ ที่เราไม่ต้องดัดแปลงรถ แค่มีที่ว่างใส่ของด้านหลัง ไปถึงตลาดก็จัดวางขายของ วิธีง่ายๆ แต่ต้องขยันจึงจะมีรายได้ตามมา

5.ปล่อยให้เช่า

ภาพจาก https://goo.gl/gpQt4t

ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนเปิดท้ายขายของแต่อาจต้องเพิ่มความเสี่ยงกันสักหน่อยกับการปล่อยรถให้เช่า โดยบริการเช่ารถในปัจจุบันไม่ได้คิดเป็นรายปี รายเดือน แต่มีที่คิดเป็นรายวัน หรือรายชั่วโมงกันเลยทีเดียว และแถมยังมีการเช่ากันแบบออนไลน์ได้อีกด้วย บางทีการเช่าจะเกิดขึ้นหลังจากเราเอารถไปจอดที่ออฟฟิศแล้วในเวลาทำงานตั้งแต่ 8.00-17.00 น. ที่เราไม่ได้ใช้รถ อาจปล่อยเช่าในช่วงนี้

แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องความเสี่ยงเนื่องจากเราอาจเจอลูกค้าประเภทยืมแล้วหายไปเลย หรือโดนสับเปลี่ยนอะไหล่ดังนั้นเราควรอ่านเงื่อนไขในแต่ละเว็บไซต์ที่คุณลงประกาศให้เช่ารถให้ดี หรืออีกวิธีคือกำหนดกลุ่มลูกค้าไปเลย เช่น ให้เช่าเฉพาะชาวต่างชาติและนักศึกษาเท่านั้น ก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในด้านนี้ได้

6.รับส่งคนงาน/นักเรียน

ภาพจาก https://goo.gl/KSsSfU

อาจจะต้องเป็นรถกระบะจึงจะสร้างรายได้แบบนี้ได้ เราอาจจะเริ่มจากการหาลูกค้าที่เป็นพนักงานโรงงานหรือนักเรียนที่อยู่มีบ้านในละแวกเดียวกัน โดยคิดเป็นรายเดือนหรือรายวันตามแต่ตกลง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องบริการลูกค้าให้ดี ตรงต่อเวลา โดยเฉพาะบางโรงงานที่มีการทำล่วงเวลาเราก็ต้องไปรับลูกค้าของเราให้ทันเวลาอย่าปล่อยให้ลูกค้ารอเด็ดขาด และถ้าเป็นการรับส่งนักเรียนก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญด้วย

7.วิ่งรถรับจ้าง

ภาพจาก https://goo.gl/xkE4a5

รถรับจ้างเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแต่รถที่มีควรเป็นรถกระบะ หรือว่ารถตู้จะสะดวกแก่การรับจ้างมากกว่า โดยเฉพาะคนมีรถตู้จะได้เปรียบมาก การจ้างส่วนใหญ่จะเป็นการเหมาไปต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ราคาการเหมาจะคิดเป็นรายวัน ไม่รวมค่าน้ำมัน

ทั้งนี้ก่อนจะวิ่งรถรับจ้างได้เราต้องเป็นคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง ใจเย็น ที่สำคัญไม่นิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และถ้าเราเคยมีประวัติการบริการที่ดีจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและบอกต่อให้ลูกค้าคนอื่นๆทราบด้วย

8.รถพุ่มพวง

ภาพจาก https://goo.gl/y3fqPz

หรือเรียกว่ารถขายกับข้าวที่มีข้อดีคือเข้าตามตรอกซอกซอยในหมู่บ้านต่างๆ ได้ดี แนะนำว่าควรจะเป็นรถกระบะเท่านั้นเพราะของที่นำมาขายควรครบถ้วนตั้งแต่ผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ ฯลฯ โดยเราควรมีเส้นทางการวิ่งเป็นหลักเพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ว่าเราจะเข้ามาวันไหน ตอนไหน ลูกค้าจะได้รอซื้อสินค้าของเราได้ นับเป็นอีกกลยุทธ์การตลาดของการใช้รถหาเงินในประเภทนี้

9.เป็นเซลล์ขายของ

ภาพจาก https://goo.gl/hPbjQk

เป็นคุณสมบัติหนึ่งของเซลล์ที่ต้องมีรถเป็นของตัวเอง หากเรามีรถและมีใจรักในการขาย สามารถเลือกเป็นเซลล์ให้กับบริษัทสินค้าใดๆก็ได้ที่เขาต้องการ ทั้งนี้ข้อดีของการเป็นเซลล์คือรายได้ที่ดีหากเราสามารถปิดการขายได้

และส่วนใหญ่จะมีเบี้ยเลี้ยง และค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ ให้กับการใช้รถในการทำงาน จากประสบการณ์ของเซลล์ที่ทำงานมาหลายปีและมีลูกค้าประจำจำนวนมากแต่ละเดือนแค่รักษายอดขายให้ต่อเนื่องก็มีรายได้ที่ดีมาก

10.ให้ยืมเข้าฉากในภาพยนตร์

ภาพจาก https://goo.gl/s67G9x

สำหรับรถธรรมดาทั่วไปอาจใช้ข้อนี้ทำเงินไม่ได้แต่สำหรับคนที่มีรถหรู รถราคาแพง รถที่แต่งสวยงาม อาจจะได้ประโยชน์จากการให้กองถ่ายได้เช่ารถยนต์ไปเข้าฉากที่เข้าต้องการ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้เล็กๆของคนที่มีรถหรู ซึ่งบางทีกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการเงินแต่ต้องการความภาคภูมิใจที่รถของเขาสวยถูกใจคนอื่นและมีโอกาสได้อวดความสวยในภาพยนตร์ต่างๆ

การมีรถหนึ่งคันหมายถึงความสะดวกที่เราจะได้รับและก็หมายถึงรายจ่ายที่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นทางที่ดีเราควรเปลี่ยนรถธรรมดาให้มีรายได้กลับคืนมาบ้างส่วนจะชอบแบบไหนอย่างไรก็เลือกจากวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้เลย

---

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

SMEs Tips

1. รับส่งของ
2. แปะโฆษณาบนรถยนต์
3. GRAB หรือ UBER
4. เปิดท้ายขายของ
5. ปล่อยให้เช่า
6. รับส่งคนงาน/นักเรียน
7. วิ่งรถรับจ้าง
8. รถพุ่มพวง
9. เป็นเซลล์ขายของ
10. ให้ยืมเข้าฉากในภาพยนตร์

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2Z4T89Y