10 ของกินขายดี ตลาดนัด

ในช่วงที่คนส่วนใหญ่ขาดรายได้ ตกงาน ไม่มีงานทำ เป้าหมายของคนส่วนใหญ่คือหันมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัด ซึ่งสินค้าที่จะเลือกขายส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่อาหารเป็นหลัก ซึ่งตลาดนัดเมืองไทยมีอาหารขายดีที่น่าสนใจมากมาย และเพื่อเป็นข้อมูลให้คนได้ตัดสินใจมากขึ้น

www.ThaiSMEsCenter.com รวบรวม 10 ของกินขายดีที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าของกินเหล่านี้เราเดินไปตลาดไหนก็ต้องเจอทุกที่ แต่จะขายดีแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและบริการของพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนด้วย

1. ขนมจีนน้ำยา

เป็นร้านที่เปิดให้นั่งทานที่ร้านหรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้ ซึ่งจะต้องมีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกคือต้องมีขนมจีนน้ำยา น้ำยาป่า น้ำยากะทิ แกงเขียวหวาน เป็นอีกหนึ่งอาหารทำเงิน ที่ขายดีมาก ราคาขายส่วนใหญ่ จานละ 35-40 บาท หากลูกค้าสั่งพิเศษ ตีนไก่ , เลือด , ลูกชิ้น , ตับ ทางร้านก็สามารถคิดราคาเพิ่มได้มากขึ้น

จุดเด่นของร้านขนมจีนน้ำยาประจำตลาดนัดคือราคาไม่แพงแต่ได้สินค้าในปริมาณที่มาก เพราะทุกร้านเขาจะมีผักสดไว้เป็นเครื่องเคียงสำหรับรับประทานตั้งแต่กะล่ำปลีซอยเป็นเส้นๆ , ถั่วงอก , ใบแมงลัก , ผักกาดดอง , ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือผักอื่นๆ ตามแต่ท้องถิ่น เรียกว่า 1 จานอิ่มอร่อยได้นาน และยิ่งพ่อค้าแม่ค้ามีฝีมือดี บริหารจัดการดี อาจเพิ่มช่องทางรั

2. ไก่ทอด

เริ่มจากไก่ทอดกรอบ ชิ้นละ 10 บาท ขายดิบขายดีจนทอดไม่ทัน ไก่ทอดนั้นถือเป็นอาหารท้องถิ่นประจำตลาดนัดเป็นได้ ทั้งอาหารเช้า อาหารเย็น ไก่ทอดที่มีขายตามตลาดนัดก็จะมีทั้ง ไก่ทอดหาดใหญ่ , ไก่ทอดกรอบ รวมไปถึงบรรดาน่องไก่ทอด ปีกไก่ทอด ที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยผงปรุงรสต่างๆ เช่น ชีส , ปาปริก้า

และรวมถึงบรรดาหนังไก่ทอดที่เป็นสุดยอดอาหารทานเล่นที่รับประทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ จุดเด่นอีกอย่างคือการทอดแบบสุกใหม่ โชว์ให้เห็นกันชัดๆ จึงเป็นอีกเมนูซื้อง่าย ขายง่าย ราคาไม่แพงและเป็นเมนูยอดฮิตติดอันดับต้นๆที่ทุกตลาดนัดต้องมีแน่นอน

3. ลูกชิ้นปิ้ง / ลูกชิ้นทอด

ถ้าไปเดินตลาดนัดสิ่งที่ต้องเห็นแน่นอนเช่นกันคือลูกชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีแค่ลูกชิ้น แต่มีหลายเมนูปิ้งย่างรวมอยู่ทั้งไส้กรอก ปูอัด มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ราคาขายส่วนใหญ่ไม้ละ 5-10 บาท เป็นอีกธุรกิจที่ลงทุนไม่ยาก แต่รับรองว่าขายได้ขายดี เพียงแต่ในแต่ละตลาดนัดเราอาจจะเจอคู่แข่งมากกว่า 2-3 ร้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาความแตกต่างและเอกลักษณ์ที่เป็นจุดขายให้กับตัวเอง

ปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้เราเลือกลงทุนได้ไม่ยาก เช่น ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง , อู้ฟู่ลูกชิ้นปลาเยาวราช , ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด 1 บาท แฟรนไชส์เหล่านี้ชื่อเสียงและมีแพคเกจลงทุนที่ให้เราเลือกลงทุนได้ตามต้องการ มีอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมเปิดร้าน ให้เราสามารถเริ่มต้นได้ง่ายได้กำไรเร็วมากขึ้น

4. หม่าล่า / บาร์บีคิว

หม่าล่าและบาร์บีคิวเป็นเมนูปิ้งย่างที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ซอสหม่าล่ามีจุดเด็ดคือรสชาติที่เผ็ดร้อน และลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบสำหรับปิ้งย่างได้หลากหลาย เช่น เบคอน เห็ด เนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น ไส้กรอก ฯลฯ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านว่าจะเลือกวัตถุดิบใดมาทำปิ้งย่าง

หรือบางร้านอาจจะเลือกขายแค่บาร์บีคิวอย่างเดียวก็มีให้เลืกทั้งบาร์บีคิวหมู บาร์บีคิวไก่ ราคาไม้ละ 10 บาท เป็นเมนูขวัญใจเด็กๆ ขวัญใจวัยรุ่น การลงทุนก็ทำได้ไม่ยาก อุปกรณ์ก็ไม่มาก ส่วนจะขายดีมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตลาดของแต่ละคน แต่รับประกันว่าขายได้ทุกที่ทุกตลาดนัดแน่นอน

5. กับข้าวปรุงสำเร็จ

เป้าหมายของคนมาเดินตลาดนัดส่วนใหญ่ก็หาอาหารรับประทาน และวิถีชีวิตของคนยุคนี้มักจะแวะซื้อกับข้าวปรุงสำเร็จไปรับประทาน อันเป็นการประหยัดเวลาที่ไม่ต้องไปเตรียมทำกับข้าวเอง สามารถแวะซื้อได้ทุกตลาดนัดราคาขายส่วนใหญ่ก็ถุงละ 30-40 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร โดยมีเมนูให้เลือกหลากหลาย เช่น ผัดกระเพรา , ไก่ผัดขิง , แกงส้ม , หมูกระเทียม , ปลาทอด , ผัดเปรี้ยวหวาน , ผัดเผ็ดหมูป่า , ลาบ , น้ำตก , ต้มจืด , แกงเขียวหวาน ฯลฯ

แต่ละร้านจะมีเมนูที่แตกต่างกันไปตามแต่เจ้าของร้านจะทำสินค้าแบบไหนออกมาขาย คนเปิดร้านขายอาหารปรุงสำเร็จต้องมีฝีมือในการทำอาหารที่ทำให้ลูกค้าติดใจ สำหรับร้านที่เปิดขายมานานมักจะมีลูกค้าเป็นขาประจำทำให้คำนวณได้ว่าจะมียอดขายประมาณเท่าไหร่ทำให้คำนวณอาหารที่จะทำขายได้ง่ายขึ้นด้วย

6. น้ำพริกผักลวก

ภาพจาก bit.ly/3kSnrKh

เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารง่ายๆ แต่ขายดีและมีให้เห็นทุกตลาดนัดเช่นกันไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกปลาทู , น้ำพริกกะปิ , น้ำพริกแมงดา , น้ำพริกปลาร้า ซึ่งนอกจากแม่ค้าจะขายน้ำพริกกระปุกละ 10 บาทได้แล้ว เครื่องเคียงที่รับประทานคู่กันกับน้ำพริกก็ขายดีมากๆ ยกตัวอย่างเช่น ผักลวก , ไข่ต้ม , ไข่เจียวชะอมทอด , ปลาทูทอด เป็นต้น

หรือบางร้านอาจเพิ่มสินค้าให้ดูหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่น้ำพริกผักลวก อาจมีผักชุบแป้งทอด ที่มีได้หลายอย่างเช่น แครอทชุบแป้งทอด ข้าวโพดชุบแป้งทอด เห็ดชุบแป้งทอด ขายพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บๆ ก็เป็นอีกเมนูน่าสนใจที่ขายดีได้เช่นกัน

7. หอยทอด ผัดไทย

หอยทอด ผัดไทยราคาขายส่วนใหญ่ กล่องละ 40-50 บาท เป็นเมนูสตรีทฟู้ดที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีและคนต่างชาติก็นิยมมากเช่นกัน จุดเด่นของหอยทอดผัดไทย คือเป็นเมนูปรุงสุกใหม่ ทำให้เห็นแบบจานต่อจาน หอยทอดตัวอ้วนๆ กับแป้งทอดที่กรุบกรอบ หรือจะเป็นผัดไทยที่อาจเพิ่มกุ้งสดเข้าไป ทำให้ดูน่าอร่อยมากขึ้น

ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ที่ช่วยทำให้เราเปิดร้านได้ง่ายขึ้น เช่น ธงไชย ผัดไทย ที่มุ่งมั่นพร้อมสร้างอาชีพให้คนอยากมีธุรกิจของตัวเอง พร้อมสอนสูตรการทำผัดไทยและเมนูอื่นๆ มีแพคเกจลงทุนที่มาพร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ให้เราเปิดร้านได้ง่ายขึ้น

8. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ภาพจาก bit.ly/2EaLoLZ

คงจะไม่มีตลาดไหนเปิดแล้วไม่มีข้าวเหนียวหมูปิ้งมาตั้งแผงขาย และน่าจะเป็นสินค้าลำดับแรกๆ ที่เรานึกถึง หมูปิ้งเป็นเมนูง่ายๆ อุปกรณ์ก็ไม่มาก หลายคนเลือกลงทุนเปิดร้านหมูปิ้งก็เพราะความง่ายที่ว่านี้ แค่มีสูตรหมักหมูที่อร่อยๆ เตาปิ้งไฟฟ้า และโต๊ะ 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านอีกเล็กน้อย

แค่นี้ก็เริ่มต้นค้าขายได้ทันที ราคาหมูปิ้งไม้ละ 5-10 บาท คนขายต้องรู้ต้นทุนตัวเองก่อนว่า หมู 1 กิโลกรัมจะทำเป็นหมูปิ้งได้กี่ไม้ ต้นทุนต่อวันของตัวเองเท่าไหร่ จะได้กำหนดการขายได้อย่งถูกต้องเพื่อให้มีกำไรในการขายแต่ละวันมากขึ้น

9. ขนมหวาน

นอกจากเมนูอาหารคาว ขนมหวานก็เป็นของกินขายดีตามตลาดนัดที่เราจะได้เห็นทุกที่เช่นกัน ขนมหวานในตลาดนัด 1 แห่งจะมีมากกว่า 1 ร้าน แยกย่อยกันออกไปเช่นบางร้านขายขนมไทย เช่น ตะโก้ ขนมตาล ขนมชั้น ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ หรือบางร้านก็ทำเป็นขนมสดตักใส่ถุงขาย

เช่น น้ำกะทิลอดช่อง , น้ำกะทิแตงไทย , ถั่วดำ , ต้มเผือก , ปลากริม , บัวลอย, เต้าส่วน เป็นต้น ราคาขายขนมหวานเหล่านี้กล่องละ 15-20 บาท ถ้าเป็นขนมสดตักใส่ถุงราคา 15-20 บาทเช่นกัน ส่วนใหญ่จะขายดีบางรายที่ทำอร่อยๆ จะมีลูกค้าเข้าแถวต่อคิวซื้อจำนวนมาก

10. ซูชิ

ปัจจุบันซูชิแม้ไม่ใช่อาหารไทยและไม่ใช่อาหารที่มีมาแต่โบราณ และเพิ่งมาจะฮอตฮิตในยุคหลังๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เดินไปตลาดนัดที่ไหนก็ต้องเห็นซูชิวางขาย ราคาเริ่มต้นก็ไม่แพงชิ้นละ 5 บาท หรือมีโปรโมชั่น ซื้อ 10 แถม 1 แต่การทำซูชิขายเราเองก็ต้องมีความรู้ในการทำซูชิแต่ละแบบ เป็นอย่างดี บางรายไม่ได้ทำเองก็ไปรับมาขาย ถามว่ากำไรจากการขายดีแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนการขาย เพราะต้นทุนค่อนข้างสูง ก็ควรเลือกทำเลตลาดนัดที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ขายง่ายขายดีมากขึ้น

ของกินที่ขายดีในตลาดนัดที่จริงยังมีอีกหลายชนิด แต่จะขายดีมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นเป็นตัวแปรสำคัญถ้าคนมีกำลังซื้อส่วนใหญ่จะขายดีมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อคนส่วนใหญ่ลดลงกลายเป็นบางตลาดมีแต่พ่อค้าแม่ค้าแต่ไม่มีคนเดินตลาด หรือบางทีจะขายดีมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ด้านการตลาดของพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคน รวมถึงฝีมือในการทำอาหารที่แตกต่างกันด้วย

---

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2E0nJON