10 แคมเปญ ร้านค้าปลีก ลูกค้าซื้อซ้ำ

คาดการณ์ว่า ร้านค้าปลีก ในปี 2567 มีมูลค่าประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท เติบโตราว 3-7 % ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูง และคู่แข่งเยอะมาก ก็ต้องยอมรับว่าเทรนด์ร้านค้าปลีกยุคใหม่ถ้าจะอยู่รอดต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทั้ง ขายผ่านออนไลน์ บริการจัดส่ง รวมถึงการเพิ่มสินค้าประเภทอาหารสดและเครื่องดื่มให้หลากหลาย อย่างไรก็ดีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “โปรโมชั่น” ที่ต้องงัดมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขาย มีอะไรน่าสนใจใช้จริงได้บ้าง ไปดูพร้อมกัน

1.ซื้อ 1 แถม 1

ร้านค้าปลีก

เป็นโปรสุดฮิตที่เห็นบ่อยมาก ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นร้านค้าปลีกประเภทไหน อย่างร้านค้าในชุมชนหรือร้านสะดวกซื้อก็มีสินค้าที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดโปรโมชันนี้ ความน่าสนใจในมุมมองของลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่า” ที่ซื้อ 1 แต่ได้เพิ่มอีก 1 ทั้งที่บางทีอาจไม่อยากได้สินค้าชิ้นนี้แต่ก็ซื้อไว้ก่อนเพราะรู้สึกว่าคุ้ม

2.ลดราคา

ร้านค้าปลีก

ไม่มีคำไหนทรงพลังไปกว่า “ลด แลก แจก แถม” นี่คือโปรโมชันพื้นฐานที่ใช้ได้ทุกยุคสมัย ซึ่งการลดราคาทำได้หลายแบบ เช่น ลดราคา 10% , 30% , 50% เป็นต้น วิธีการลดราคานี้ต้องนำมาใช้ให้เหมาะสม ไม่แนะนำให้ลดราคาแบบพร่ำเพื่อ ควรลดราคาเฉพาะตามเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าไม่ยึดติดและรอแค่ช่วงเวลาพิเศษเท่านั้นถึงจะซื้อ

3.สะสมแต้มเพื่อแลกรางวัลหรือส่วนลด

ร้านค้าปลีก

ร้านค้าปลีกยุคใหม่จะมีระบบสมาชิกข้อดีคือทำให้รู้จำนวนลูกค้าประจำว่ามีมากน้อยแค่ไหน สินค้าไหนขายดี สินค้าอะไรที่มีความต้องการมาก ซึ่งการใช้ระบบ POS เข้ามาช่วยทำให้บริการร้านได้ง่ายขึ้น และแน่นอนก็เอามาใช้ประโยชน์ในการให้ลูกค้าสะสมแต้มเหมือนอย่างที่ 7-Eleven มีระบบ All Member ทุกครั้งที่ซื้อสินค้าจะมีแต้มสะสมเอาไว้ใช้ประโยชน์เป็นส่วนลดหรือแลกของรางวัลในอนาคตได้

4.ส่วนลดพิเศษตามเทศกาล

ร้านค้าปลีก

เมืองไทยมีหลายเทศกาลทั้งส่งท้ายปีเก่า , วันขึ้นปีใหม่ , สงกรานต์ , ตรุษจีน , วันพ่อ-วันแม่ เป็นต้น แต่ละเทศกาลมีความพิเศษและมีอารมณ์แห่งความสุขที่แตกต่างกันไป การจัดโปรโมชันให้เหมาะสมกับแต่ละเทศกาล เป็นการสร้างสีสันให้ร้านค้าปลีกดูน่าสนใจ ยิ่งแคมเปญถูกใจลูกค้ามีการพูดหรือแชร์ในโซเชี่ยลก็ยิ่งทำให้ร้านมีโอกาสขายได้มากขึ้นด้วย

5.ลดล้างสต็อก / สินค้าราคาโรงงาน

ร้านค้าปลีก

สำหรับร้านค้าปลีกที่อยากขายสินค้าในปริมาณมากๆ หรือจัดการกับสต็อคสินค้าเก่าอาจใช้โปรลดล้างสต็อก / สินค้าราคาโรงงาน ซึ่งคำนี้มีอิทธิพลในความคิดลูกค้ามาก โดยจิตวิทยาแล้วลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้มเป็นพิเศษและต้องซื้อสินค้าในตอนนี้ เวลานี้เท่านั้น

6.ตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข “9”

อาจไม่ใช่โปรโมชันแต่ก็กระตุ้นยอดขายได้จริง นี่คือวิธีตั้งราคาแบบ charming price หรือการลดราคาหลักสุดท้ายลงมาหนึ่งหน่วย ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้ามีราคาถูกลงกว่าเดิมทั้งที่ความจริงราคาแตกต่างกันแค่บาทเดียว เป็นอีกกลยุทธ์หลอกสมองที่ใช้ได้ผลในทางจิตวิทยา และวิธีนี้ก็นิยมใช้มากโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าต่างๆ

7.ขายสินค้าแบบ Up-selling

วิธีแบบนี้ก็เหมือนเป็นอีกกลยุทธ์ที่คล้ายกับโปรโมชันและร้านสะดวกซื้อก็นิยมนำมาใช้ ยกตัวอย่างเวลาเดินเข้า 7-Eleven พนักงานมักถามเราเสมอว่าไม่รับสินค้าตัวนี้เพิ่ม หรือไม่ก็นำเสนอว่าสินค้าตัวนี้กำลังลดราคาอยู่ เป็นการเสนอขายที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เสียดายเงินที่จะต้องจ่ายเพิ่ม ก็เป็นวิธีเพิ่มยอดขายร้านค้าปลีกได้อีกวิธีด้วย

8.จัดเซ็ตสุดคุ้ม

ร้านค้าปลีก

เป็นโปรโมชันที่มักจะมาในช่วงเทศกาลหรือวันพิเศษต่างๆ ที่จะมีการจับคู่สินค้าหรือบริการ 2 อย่างขึ้นไป แล้วนำมาเสนอขายในราคาที่ คุ้มมากกว่าการซื้อสินค้า 2 ชิ้นในราคาปกติ ซึ่งเราจะเห็นโปรโมชันแบบนี้ตามห้างสรรพสินค้าในช่วงเวลาต่างๆ เป็นอีกเทคนิคกระตุ้นยอดขายที่ได้ผลดีมาก

9.จัดกิจกรรมให้ร่วมสนุก

เป็นอีกโปรที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ มีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับธุรกิจจะนำมาใช้ เช่น การจัดกิจกรรมชิงโชคที่ต้องมีการซื้อสินค้าหรือบริการก่อนจึงจะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล คีย์เวิร์ดสำคัญของการทำโปรโมชั่นนี้ คือ ของรางวัลอาจจะต้องมีมูลค่าสูง เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาร่วมสนุก ตัวอย่างของรางวัล เช่น รถยนต์, ตั๋วเครื่องบิน, iPhone เป็นต้น

10.มอบคูปองส่วนลด

การมอบคูปองส่วนลดให้กับลูกค้า อาจจะเป็นคูปองส่วนลดแบบเป็นใบๆ หรือคูปองส่วนลดออนไลน์ ในการแจกคูปองอาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อให้ลูกค้าได้รับคูปองส่วนลด เช่น ซื้อครบตามเงื่อนไข จึงจะได้คูปองส่วนลด 10% เป็นต้น

การกระตุ้นยอดขายสำหรับ ร้านค้าปลีก ก็มีอีกหลายวิธี ไม่ได้ฟันธงว่าวิธีไหนดีที่สุด และไม่การันตีว่าวิธีไหนคือสร้างยอดขายได้เยอะที่สุด ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียในการนำไปใช้ รวมถึงรูปแบบของสินค้าและบริการในแต่ละธุรกิจ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เช่นกัน

รู้หรือไม่! โปรไหนควรใช้ตอนไหน?

  • อยากให้คนรู้จักแบรนด์เพื่อสร้างลูกค้าใหม่ ใช้โปรโมชัน 3 , 4
  • ลูกค้าน้อยลง อยากกระตุ้นยอดขาย ใช้โปรโมชัน 1 , 2 , 5 , 6 , 7
  • ต้องการสร้างภาพลักษ์ (Brand Identity) ใช้โปรโมชัน 8 , 9 . 10

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด