10 วิธีเพิ่มยอดขายร้านเครื่องดื่ม กาแฟสด ชานมไข่มุก ใช้ได้จริง! ปี 2566
หากให้เลือกเปิดร้านเชื่อว่าส่วนใหญ่มองไปที่ธุรกิจร้านเครื่องดื่มทั้งกาแฟสด ชานมไข่มุก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการตลาดประมาณ 26,000 ล้านบาท และแน่นอนว่ามีหลากหลายแบรนด์ในตลาดทั้งขนาดเล็กใหญ่ มีทั้งที่เป็นแฟรนไชส์ ไม่ใช่แฟรนไชส์ ราคาสินค้าก็หลากหลายตามแต่จะจับกลุ่มผู้บริโภค ไล่ตั้งแต่ราคาหลักสิบเรื่อยไปจนถึงหลักร้อย
www.ThaiSMEsCenter.com คาดการณ์ว่าตลาดกาแฟสด ชานมไข่มุกจะยังเติบโตได้อีกมาก นำมาสู่คำถามที่ว่าเมื่อคู่แข่งเยอะ คนขายแยะ การลงทุนเปิดร้านจะมี วิธีเพิ่มยอดขายร้านเครื่องดื่ม กาแฟสด ชานมไข่มุก แบบไหนอย่างไรในการเพิ่มยอดขายได้มากที่สุด
1.ออกเมนูใหม่ๆมาสร้างสีสัน
อันดับแรกลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่ชอบอะไรซ้ำๆเดิมๆ การพัฒนาเมนูใหม่จึงสำคัญมาก ทางร้านควรลองคิดและพัฒนาสูตรเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเหมือนที่สตาร์บัคเคยเปิดตัวเมนูอย่าง Iced cold foam cappuccino หรือ Nitro cold brew ซึ่งร้านกาแฟ หรือร้านชานมไข่มุกทั่วไปก็สามารถประยุกต์สินค้าตัวเองให้เหมาะสมกับตลาดที่ตัวเองมีได้ จะช่วยเพิ่มยอดขายในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
2.การทำ Loyalty Program
วิธีกระตุ้นยอดขายในยุคนี้ที่ร้านเครื่องดื่มควรนำมาใช้คือการทำ Loyalty Program หรือโปรแกรมสร้างความภักดี ที่ทุกร้านควรมีเพื่อเปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ให้กลายเป็นขาประจำ โดยมีหลากหลายรูปแบบให้ธุรกิจเลือกใช้เช่น บัตรสะสมคะแนน , บัตรสะสมแสตมป์ , การแบ่งระดับสมาชิก ,โปรแกรมคืนเงิน (Cashback) เป็นต้น การที่ธุรกิจยิ่งมีฐานลูกค้าประจำมาก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นด้วย
3.เพิ่มช่องทางขายแบบเดลิเวอรี่
การขายแบบเดลิเวอรี่มีความสำคัญในยุคนี้มาก และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีด้วย เคล็ดลับสำคัญนอกเหนือจากคุณภาพสินค้าและบริการที่ดี ร้านค้าควรมีลิ้งค์ที่ให้ลูกค้ากดลิ้งค์เข้ามาถึงร้านได้เลยไม่ต้องไปมัวค้นหาให้เสียเวลา เพราะคนยุคนี้ไม่ชอบทำอะไรเสียเวลา เจอร้านไหนก่อนก็สั่งก่อน เป็นพฤติกรรมของลูกค้ายุคใหม่ และทางร้านควรคำนวณราคาขายที่รวมค่า GP ไว้เรียบร้อยหรือเป็นเมนูที่มีขายเฉพาะในเดลิเวอรี่ก็จะเป็นการกระตุ้นให้คนอยากซื้อผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ได้มากขึ้น
4.ใช้ Line Official Account
การทำตลาดเพิ่มยอดขายยุคนี้ต้องรู้จักใช้เครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมเช่น การใช้ Line OA เป็นตัวช่วยที่ดีในการดึงดูดลูกค้า เพราะนอกจากจะทำให้ร้านได้ใกล้ชิดกับลูกค้าแล้ว สามารถที่จะใช้ Line บัตรสะสมแต้มในการดึงดูดลูกค้า เพราะการสะสมแต้มไม่จำเป็นต้องมาที่หน้าร้าน แต่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าก็สามารถเพิ่มคะแนนให้ลูกค้าได้ทันที มีประโยชน์สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้มาก
5.เพิ่มยอดขายด้วย “ขนาด”
สิ่งสำคัญของธุรกิจยุคนี้คือต้องสร้างความแตกต่าง วิธีที่นิยมใช้คือ “ขนาด” สินค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้มาก เช่นเครื่องดื่มแก้วยักษ์ หรือแพคเกจจิ้งที่รูปร่างแปลกใหม่ ยิ่งถ้าทำให้เป็นกระแสในโซเชี่ยลได้ยิ่งทำให้คนสนใจและจะเพิ่มยอดขายในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ดีวิธีนี้อาจต้องแลกด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มีผลดีในระยะยาว ซึ่งทางร้านควรทำให้เป็นกระแสอยู่เป็นระยะๆ จะทำให้แบรนด์เรามีชื่อเสียงและคนรู้จักได้มากขึ้น
6.ใช้กลยุทธ์การจับคู่สินค้า
ร้านเครื่องดื่มสามารถเพิ่มยอดขายด้วยการใช้กลยุทธ์จับคู่สินค้า เช่นเดียวกับกลยุทธ์ที่ 7-11 มักใช้จับคู่เครื่องดื่มกับอาหารแล้วได้ส่วนลดในราคาที่ถูกลง ทำให้คนซื้อรู้สึกว่าเป็นการซื้อที่คุ้มค่า แต่ความเสี่ยงของการตลาดแนวนี้คือเป็นการตลาดระยะสั้นที่มีผลกระทบต่อต้นทุนของตัวเองหากบริหารจัดการไม่ดีพอ แต่หากทำอย่างถูกต้องเหมาะสม จะเป็นการเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ที่ดีมาก
7.จัดโปรเอาใจลูกค้าในช่วงบ่าย
ร้านเครื่องดื่มส่วนใหญ่มักมียอดขายไม่ดีในช่วงบ่าย ถ้าหากกระตุ้นยอดขายในช่วงนี้ได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก วิธีการที่จะทำให้คนอยากมาซื้อเครื่องดื่มในตอนบ่าย ก็จำเป็นต้องเน้นที่การใช้โปรโมชันเช่นส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกของร้านเท่านั้น หรือการซื้อเครื่องดื่มแถมขนมทานเพิ่มสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก เป็นต้น
8.ใช้กลยุทธ์ Social Validation
กลยุทธ์ที่เรียกว่า “Social Validation” คือการนำจำนวนคนที่ใช้สินค้าของเรามาโฆษณา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อกลุ่มใหม่มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราสนใจสินค้าใดๆ และเห็นคนที่เคยใช้สินค้านี้มาบ้างแล้วก็ย่อมทำให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแม้บางทีราคาสินค้าอาจจะสูงกว่าคู่แข่งก็ตาม ซึ่งในยุคโซเชี่ยลมาแรงแบบนี้ร้านเครื่องดื่มควรนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้ซึ่งได้ผลดีแน่นอน
9.ทำตลาดด้วย Instagram
นึกถึง Instagram ต้องนึกถึงความสวยงาม ความทันสมัย และจะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้อย่างดีช่องทางนี้สามารถที่จะใส่รายละเอียดต่าง ๆ ของร้านได้มากพอสมควร รวมไปถึงการจะอัปเดตข้อมูลข่าวสาร อาจจะต้องเน้นการถ่ายรูปภาพสินค้าให้น่าสนใจ และรูปภาพจะต้องดูสวยงาม มีรายละเอียดสินค้าครบถ้วน รวมถึงสามารถที่จะสร้างแฮชแท็ก # ของร้านได้
10.เพิ่ม Story ในสินค้า
เครื่องดื่มส่วนใหญ่มักมีเมนูที่ไม่ต่างกัน แต่จะทำอย่างไรให้น่าสนใจและคนอยากซื้อ เป็นที่มาของการเพิ่ม Story ในสินค้า ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านี้ไม่ใช่ของธรรมดา มันพิเศษกว่าของคนอื่น และแม้จะตั้งราคาให้สูงกว่าแบรนด์อื่นแต่ลูกค้าเข้าใจได้ว่าที่มาที่ไปของเมนูนี้มีความพิเศษอย่างไร ก็ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ เช่นการใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกแบบออร์แกนิค หรือเป็นชาที่มาจากแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ เป็นต้น นอกจากนี้การสร้าง Story ยังมีอีกหลายอย่างทั้งกระบวนการผลิต แพคเกจจิ้งที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบรักษ์โลก เป็นต้น
การลงทุนในธุรกิจเครื่องดื่มร้านกาแฟ ชานมไข่มุก สินค้านั้นมีความต้องการต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ต้องยอมรับเช่นกันคือคู่แข่งก็มีไม่น้อย การเลือกลงทุนที่ดีที่สุดหากไม่ต้องการเริ่มต้นจากศูนย์ แนะนำว่าสามารถเลือกลงทุนในระบบแฟรนไชส์ที่มีหลายแบรนด์เป็นทางเลือกให้ลงทุนได้ โดยแฟรนไชส์เหล่านี้มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา และเป็นแบรนด์ที่ฮิตติดตลาด ลูกค้าให้การยอมรับ การเลือกลงทุนจึงต่อยอดสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้น
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)