10 ข้อดีทำงานในบริษัทขนาดเล็กก็ประสบความสำเร็จได้

กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดเกณฑ์ในการจัดอุตสาหกรรม เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กลาง หรือ เล็กนั้นมีหลายวิธี แต่โดยทั่วไปจะใช้ จำนวนพนักงานงาน (ขนาดการจ้างงาน) จำนวนเงินลงทุน มูลค่าทรัพย์สิน จำนวนยอดขาย หรือรายได้เป็นเกณฑ์ แบ่งเป็น 3 ระดับคือ ธุรกิจขนาดเล็ก ไม่เกิน 50 คน ไม่เกิน 20 ล้าน ,ธุรกิจขนาดกลาง ระหว่าง 50 – 200 คน ระหว่าง 20 – 200 ล้าน และ ธุรกิจขนาดใหญ่ 200 คนขึ้นไป ทุนจดทะเบียน 200 ล้านขึ้นไป

โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2560 ที่ผ่านมาพบว่ามีธุรกิจขนาดกลางและย่อม รวมกันมากกว่า 3 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ามีหลายคนที่สับสนว่าระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่กับการทำงานในบริษัทขนาดกลางและย่อมอย่างไรที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้มากกว่ากัน หลายคนอาจโฟกัสไปเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานในองค์กรขนาดย่อมก็ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้ดีเช่นกัน

1.เป็นโอกาสที่จะได้รับผิดชอบงานที่เยอะกว่า

10

บางคนบอกว่าการที่จะได้ทำงานเยอะๆ มันเป็นข้อดีตรงไหน ถ้ามองในมุมกลับ ยิ่งทำงานเยอะยิ่งมีประสบการณ์มากโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองก็มีมาก เป็นช่องทางให้เราต่อยอดไปสู่การทำงานในบริษัทที่ใหญ่กว่าในอนาคต

หรือการเพิ่มความสามารถตัวเองให้ทำงานได้หลากหลายซึ่งสังคมยุคใหม่ต้องการคนแบบนี้ ไม่ใช่เก่งแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง และสิ่งเหล่านี้เราจะได้ฝึกเมื่อทำงานในองค์กรขนาดเล็กที่บุคลากรจำกัด ทำให้เราต้องแสดงฝีมือในหลายทางมากขึ้น

2.เป็นการฝึกสร้างมนุษยสัมพันธ์เบื้องต้นที่ดี

เป็นการฝึกสร้างมนุษยสัมพันธ์เบื้องต้นที่ดี

คนที่เอาแต่เรียนหนังสือเมื่อจบมาพบว่าการทำงานมันมีอะไรที่มากกว่าในตำรา การติดต่อสื่อสาร การสร้างมนุษยสัมพันธ์เป็นเรื่องที่สำคัญ เขาถึงได้มีการจัดให้เด็กที่ใกล้จบได้มีโอกาสฝึกงานในบริษัทต่าง ๆส่วนหนึ่งก็เพื่อสร้างความคุ้นเคยจากสถานการณ์จริง

แต่เมื่อได้ทำงานจริงๆ หน้าที่ความรับผิดชอบของเด็กฝึกงานกับพนักงานก็ต่างกัน ดังนั้นการได้อยู่ในองค์กรขนาดเล็กทำให้เรามีโอกาสพูดคุยกับพนักงานอื่นได้มากขึ้น หากองค์กรเล็กๆเรายังสร้างเรื่องนี้ไม่ได้ในอนาคตก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ได้

3.มีอิสระทางความคิดที่ดีกว่า

มีอิสระทางความคิดที่ดีกว่า

การทำงานในองค์กรขนาดเล็กจะทำให้เรามีอิสระในการใช้ความคิด เพื่อนำเสนองานต่อหัวหน้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ หรือกรอบแนวคิดขององค์กรแต่อย่างใด ซึ่งทุกคนภายในทีมล้วนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นเพื่อให้งานออกมาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และตรงนี้จะกลายเป็นจุดเด่นขององค์กรต่อไปในอนาคต เพราะได้ผลลัพธ์ของงานที่แตกต่างไม่เหมือนใคร

4.เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือ

เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือ

การทำงานในองค์กรขนาดเล็กจะเป็นพื้นที่ให้เราได้ปล่อยของ เป็นเวทีสำหรับการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ซึ่งการทำงานในองค์กรขนาดเล็กจะช่วยให้พนักงานเป็นคนคิดนอกกรอบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะไม่พบอย่างแน่นอนกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องเอากฎเกณฑ์เป็นที่ตั้ง

5.รู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรได้มากกว่า

รู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรได้มากกว่า

การอยู่กับองค์กรเล็กๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นญาติพี่น้อง ทำงานกันแบบครอบครัว ช่วยเหลือกันและกัน มีปัญหาร่วมกันแก้ เวลาประสบความสำเร็จก็เหมือนความรู้สึกร่วมเช่นเดียวกับรู้สึกว่านี่คือธุรกิจของตัวเอง ซึ่งในองค์กรขนาดใหญ่การจะรู้สึกเช่นนี้นั้นเป็นไปได้ยากเพราะหน้าที่จะถูกกำหนดไว้แบบตายตัว ซึ่งใจรักและความภักดีนี้เป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงาน

6.มีบริษัทให้เลือกเป็นจำนวนมาก

มีบริษัทให้เลือกเป็นจำนวนมาก

เป็นข้อดีที่น่าสนใจเพราะปัจจุบันธุรกิจมากมายมีการเริ่มต้นแบบขนาดกลางและย่อมมากกว่าจะลงทุนขนาดใหญ่ที่ความเสี่ยงเยอะกว่า ธุรกิจขนาดกลางและย่อมจึงมีอัตราการเพิ่มขึ้นในทุกปี สำหรับคนที่มองหาโอกาสในการทำงานจึงมีตัวเลือกที่หลากหลายและหากเราได้ทำงานและเติบโตไปกับองค์กรเหล่านี้เราก็จะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงขึ้นในอนาคต

7.โอกาสฝึกฝนเพื่อเป็นนายตัวเองในอนาคต

โอกาสฝึกฝนเพื่อเป็นนายตัวเองในอนาคต

ปัจจุบันการเป็นนายตัวเองคือแนวคิดที่หลายคนสนใจแต่หากเราไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อนก็ต้องมาฝึกฝนซึ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นเวทีฝึกฝนสำคัญที่ให้เราได้ทำงานจริง เห็นปัญหาจริง ซึ่งมีประโยชน์ต่อคนที่อยากสร้างธุรกิจของตัวเองมาก ยิ่งหากเราได้ทำงานในหลากหลายตำแหน่ง เท่ากับว่าเพิ่มโอกาสให้เราฝึกฝนเป็นเจ้าของธุรกิจได้มากขึ้น

8.ได้ฝึกการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

ได้ฝึกการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

ทุกการทำงานย่อมมีปัญหาและคนที่แก้ไขปัญหาไม่ได้ก็คือคนที่ทำธุรกิจไม่รอด นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องเรียนรู้ว่าปัญหาที่เจอควรแก้ไขอย่างไร การฝึกฝนในองค์กรขนาดเล็กที่ทำให้เราเจอปัญหาหลายอย่าง เป็นวิธีการฝึกแก้ปัญหาที่ทำให้เรามีประสบการณ์เอาไว้ใช้ในอนาคต

9.โอกาสที่จะค้นพบตัวเอง

โอกาสที่จะค้นพบตัวเอง

ในขณะที่เราเรียนเราอาจมีความฝันอย่างหนึ่งแต่เมื่อได้ทำงานเราอาจค้นพบตัวเองว่าแท้ที่จริงเรามีความชอบในเรื่องใด การทำงานกับองค์กรขนาดเล็กคือโอกาสที่จะทำให้เราค้นพบว่าตัวเองสนใจเรื่องใดหรือมองเห็นช่องทางสร้างรายได้แบบใดในยุคนี้การมีสินค้าใหม่ๆ หรือนวัตกรรมใหม่ๆสามารถเติบโตได้ง่ายและสิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ยากหากเราทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการจำกัดหน้าที่ของเราไว้อย่างชัดเจน

10.มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับนักธุรกิจรายอื่นง่ายกว่า

มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับนักธุรกิจรายอื่นง่ายกว่า

ในองค์กรขนาดเล็กก็ต้องมีการพบปะพูดคุยกับลูกค้าทางธุรกิจเช่นกัน ไม่ว่าเราจะทำตำแหน่งอะไรก็มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจรายอื่นเพราะหน้าที่ของเราที่หลากหลายหนึ่งคนทำหลายอย่าง นั้นก็รวมถึงการคุยกับลูกค้าด้วยซึ่งหากเราคุ้นเคยกับลูกค้าเป็นอย่างดีอาจจะเป็นประโยชน์ที่ทำให้เราได้พันธมิตรของตัวเองในอนาคตหรือได้แนวทางในการลงทุนที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้

ดังนั้นการทำงานไม่ได้จำเพาะว่าองค์กรขนาดใหญ่ต้องดีกว่าเสมอไปซึ่งทั้งองค์กรใหญ่และเล็กต่างก็มีข้อดีในตัวเอง แต่หากเราไม่อาจเข้าไปในองค์กรใหญ่ๆได้ การทำงานในองค์กรเล็กๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายตรงกันข้ามมีผลดีต่อตัวเองมากกว่าที่คิดด้วย


SMEs Tips

  1. เป็นโอกาสที่จะได้รับผิดชอบงานที่เยอะกว่า
  2. เป็นการฝึกสร้างมนุษยสัมพันธ์เบื้องต้นที่ดี
  3. มีอิสระทางความคิดที่ดีกว่า
  4. เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือ
  5. รู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรได้มากกว่า
  6. มีบริษัทให้เลือกเป็นจำนวนมาก
  7. โอกาสฝึกฝนเพื่อเป็นนายตัวเองในอนาคต
  8. ได้ฝึกการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
  9. โอกาสที่จะค้นพบตัวเอง
  10. มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับนักธุรกิจรายอื่นง่ายกว่า

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด