ทำไมธุรกิจ ต้องทำแฟรนไชส์
เจ้าของกิจการหลายคนอาจไม่รู้ว่า การขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์มีประโยชน์อย่างไร และมีความแตกต่างจากการขยายธุรกิจด้วยตัวเองหรือไม่ ซึ่งการขายแฟรนไชส์ไม่เพียงแต่ได้แฟรนไชส์ซีเข้ามาช่วยลงทุนเท่านั้น ยังมีข้อดีและได้ประโยชน์เข้ามาอีกมากมาย วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบครับ
1.ขยายกิจการได้รวดเร็ว
การทำแฟรนไชส์ช่วยให้ธุรกิจขยายตสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนของตัวเอง เสมือนกับว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์เข้ามาช่วยลงทุนและขยายสาขาให้ อีกทั้งสามารถขยายกิจการไปยังสถานที่อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วในทำเลท้องถิ่นของผู้ซื้อแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ
2.มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากจะประหยัดในเรื่องเงินลงทุนขยายกิจการ การขายแฟรนไชส์ยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่า Franchise Fee, Royalty Fee, Marketing Fee, ค่าต่อสัญญาแฟรนไชส์, ค่าจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ ฯลฯ ยิ่งมีจำนวนสาขาแฟรนไชส์มาก ก็ยิ่งมีรายได้เข้ามามาก แต่ต้องมีระบบการสนับสนุนและควบคุมแต่ละสาขาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
3.ใช้เงินคนอื่นขยายธุรกิจ
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะเป็นคนลงทุนเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งร้าน วัสดุอุปกรณ์ในร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจัดซื้อสินค้า-วัตถุดิบ ค่าฝึกอบรม เป็นต้น
4.ลดปัญหาเรื่องบุคลากร
ปัญหาอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ คือ การไม่สามารถจัดหาบุคคลากรที่ตรงกับความต้องการได้ทัน ยิ่งหากมีการขยายกิจการมากก็ยิ่งมีปัญหานี้มาก ดังนั้น หากขยายกิจการด้วยระบบแฟรนไชส์ ก็เท่ากับแฟรนไชส์ซีจะเป็นผู้หาคนเข้ามาทำงาน เพียงแต่ต้องอาศัยแฟรนไชส์ซอร์เป็นผู้ฝึกอบรมให้เท่านั้น
5.มีคนช่วยบริหารธุรกิจ
หากขยายกิจการด้วยตัวเองอาจจะไม่สามารถดูแลกิจการที่มีหลายสาขาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าขายแฟรนไชส์จะลดภาระลงไป เพราะผู้ซื้อแฟรนไชส์จะเป็นคนลงทุน และบริหารจัดการธุรกิจแทนเราได้ เสมือนกับว่ามีผู้ลงทุนและผู้บริหารที่ดีของแฟรนไชส์ซีต่างๆ มาช่วยงานขยายธุรกิจให้ฟรีๆ เพียงแต่ต้องวางระบบและจัดทำคู่มือให้แฟรนไชส์ปฏิบัติตาม
6.เพิ่มช่องทางจำหน่าย
หากคุณมีกิจการสาขาเดียวจะไม่สามารถกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศได้ แต่การขายแฟรนไชส์จะช่วยให้กระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ บางครั้งก็สามารถเข้าไปถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันจากเดิม เช่น ผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นคนใต้ เมื่อเปิดแฟรนไชส์ที่ภาคใต้ ก็จะได้กลุ่มลูกค้าภาคใต้ หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์อยู่ในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ก็จะได้ลูกค้ากลุ่มนักช้อปปิ้ง หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
7.มีอำนาจในการจัดซื้อ
การขายแฟรนไชส์จะช่วยให้เจ้าของกิจการมีกำลังในการจัดซื้อจากจำนวนการขายที่เพิ่มมากขึ้น เพราะแฟรนไชส์ซีจะต้องสั่งซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบผ่านเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ ทำให้เจ้าของแฟรนไชส์มีอำนาจต่อรองในการสั่งซื้อสูงขึ้น ทำให้สามารถจัดซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าได้ในราคาต่ำลง ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อหน่วยของแฟรนไชส์ซอร์
8.เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจได้
เมื่อธุรกิจสามารถขยายสาขาได้เป็นจำนวนมาก และธุรกิจได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าอย่างกว้างขวาง จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจนั้นๆ ได้ หากมีกลุ่มทุนใหญ่ๆ สนใจซื้อกิจการต่อ เช่น กลุ่มเซ็นฯ ซื้อตำมั่ว หรืออย่างสุด RD หนึ่งในผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ KFC กำลังพิจารณาขายร้าน KFC ที่บริหารอยู่ 240 กว่าสาขา มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท
องค์ประกอบของธุรกิจในการทำแฟรนไชส์
- ธุรกิจต้องประสบความสำเร็จ มีฐานกลุ่มลูกค้า มียอดขายและผลกำไรชัดเจน อย่างน้อย 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน
- ธุรกิจสามารถทำซ้ำ และถ่ายทอดกระบวนการผลิตให้กับกับคนอื่นได้ง่าย
- ธุรกิจต้องมีแบรนด์อย่างชัดเจน ผู้คนรู้จักในวงกว้าง มีเอกลักษณ์ของธุรกิจที่โดดเด่นแตกต่างจากคนอื่น
- ลูกค้าต้องไม่ทราบว่าร้านไหนเป็นของแฟรนไชส์ซี กล่าวคือทุกร้านต้องมีมาตรฐานเดียวกัน
- ธุรกิจควรจะเป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน เช่น การตกแต่งร้าน สินค้าหรือบริการ การบริการของพนักงาน เป็นต้น
- ธุรกิจควรมีการบริหารองค์ความรู้ออกมาเพื่อเผยแพร่ความสำเร็จได้
นั่นคือ เหตุผลที่ว่า ทำไมธุรกิจ ต้องทำแฟรนไชส์ นอกจากจะขยายธุรกิจได้รวดเร็ว ยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการขยายสิทธิให้กับคนอื่น อีกทั้งยังเพิ่มช่องการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3A4CQRf
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)