ไส้กรอกแดง “แหลมทอง” ตำนานธุรกิจกว่า 72 ปี รายได้กว่า 6,000 ล้านบาท
ย้อนวัยไปสมัยก่อนเมนูยอดฮิตหน้าโรงเรียนต้องหนีไม่พ้นลูกชิ้นทอดไส้กรอกทอด โดยเฉพาะไส้กรอกภาพจำคือต้องไส้กรอกสีแดงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ไส้กรอกแดง จึงกลายเป็น “ตำนาน” ที่พูดถึงมานาน
หลายคนก็คงสงสัยว่าทำไมไส้กรอกต้องเป็นสีแดง และใครที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังกล่าว และเขาทำอย่างไรให้ธุรกิจนี้ฮอตฮิตติดกระแสมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน www.ThaiSMEsCenter.com จะพาทุกคนไปพบกับคำตอบที่ต้องการ เป็นกรณีศึกษาให้เรียนรู้ว่าธุรกิจที่ดีที่พร้อมจะประสบความสำเร็จควรคิดแบบไหน และทำอย่างไร
เริ่มก่อตั้ง “แหลมทองสหการ” เมื่อ 72 ปีก่อน
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ไส้กรอกแดง ตราแหลมทองมีเจ้าของคือ กลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ ที่เริ่มต้นกิจการจากธุรกิจซื้อมาขายไปตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปี 2489 ได้ดำเนินธุรกิจส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ ในปี 2493ได้จดทะเบียนกิจการในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดทองไทย และบริษัทนิวไทยค้าพืช เพื่อทำธุรกิจส่งออกพืชผลทางการเกษตรจากนั้นกิจการก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้ขยายไลน์ธุรกิจออกมาอีกจำนวนมาก
โดยประกอบธุรกิจหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ กลุ่มที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร และไม่ใช่อาหาร เช่นปศุสัตว์และอาหารสัตว์ ที่มีตั้งแต่ ฟาร์มไก่ปู่ย่าพันธุ์, ฟาร์มไก่พ่อแม่พันธุ์, ฟาร์มไก่เนื้อ, ฟาร์มไก่ไข่ และธุรกิจไก่สด ไก่ปรุงสุก และไข่ไก่ซึ่งเป็นการผลิตแบบครบวงจรที่เริ่มตั้งแต่ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์, โรงฟัก, ฟาร์มไก่, โรงชำแหละ รวมถึงผลิตนมพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์คันทรีเฟรชซึ่งนำวัตถุดิบน้ำนมดิบทั้งหมด มาจากเกษตรกรไทยและยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนมพาสเจอไรซ์และนมยูเอชทีในโครงการนมโรงเรียนของรัฐบาลด้วย
จุดเริ่มต้นของ “ไส้กรอกแดง” ในตำนาน
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ไส้กรอกแดง ของแหลมทองสหการคือเป็นสินค้าหนึ่งในธุรกิจที่แตกไลน์ออกมาอยู่ในกลุ่มของอาหารแปรรูป โดยทางแหลมทองสหการ เป็นผู้ผลิตไส้กรอกไก่รายแรกของประเทศไทย ที่ใช้เนื้อไก่ล้วนถึง 70% และมีสัดส่วนของแป้งไม่ถึง 10% รวมไปถึงการไม่ใส่สารบอแรกซ์ทำการปรุงรสและผ่านกรรมวิธีรมควัน ด้วยไม้บีชจากเยอรมนี ซึ่งให้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
และเหตุผลที่ไสกรอกต้อง “สีแดง” เพราะในกระบวนการผลิตนั้นไม่มีการใส่สารเคมีลงไปแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะการคัดสรรนำเนื้อไก่ส่วนที่ติดกับโครงไก่มาบดทำเป็นไส้กรอก สีของไส้กรอกที่ได้จึงเป็นสีแดงตามธรรมชาติ ซึ่งแบรนด์ได้สื่อสารเรื่องนี้ให้ผู้บริโภคเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องผ่านเพจของบริษัทที่ก่อตั้งในปี 2554 ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และนอกจากจะนำเสนอเรื่องราวของไส้กรอกแดงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว
ยังมีการแนะนำไปถึงเทคนิคการปรุงอาหารและการเก็บรักษา เช่น หากอยากให้ไส้กรอกพองนานและอยู่ตัว ไม่ยุบ ไม่เหี่ยว ไม่ดำ ให้ทอดที่ไฟกลางนาน 15 นาที หรือหากอยากให้ไส้กรอกสดใหม่เสมอ เด้ง กรอบอร่อย ควรเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0 – 4 องศาเซลเซียสที่ชั้นวางปกติ ไม่ควรนำไปแช่ช่องฟรีซ เพราะจะทำให้เนื้อสัมผัสฉีกขาดได้ ไม่กรอบ เด้งเหมือนเดิม และผลที่ได้จากการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างชัดเจนทำให้สินค้าได้รับความนิยมสูงมากและยกระดับกลายเป็นสินค้าระดับตำนานได้ในที่สุด
รวมกลยุทธ์การตลาด สร้าง”ไส้กรอกแดง” สู่ความสำเร็จ
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ด้วยจุดแข็งของธุรกิจที่ก่อตั้งมายาวนาน มีประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างโชกโชนและถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งมีหลายกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่
1.เน้นคุณภาพสินค้าเป็นจุดขาย
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
แหลมทองสหการ เป็นผู้ผลิตไส้กรอกไก่รายแรกของประเทศไทย ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อไก่ ไม่ใส่สารบอแรกซ์ซึ่งเมื่อสินค้ามีคุณภาพดีแล้ว ก็ทำให้ผู้บริโภคติดใจได้ไม่ยาก และหลักการเดียวกันนี้ที่แหลมทองสหการได้นำไปใช้กับสินค้าชนิดอื่นๆ ที่ผลิตด้วย
2.ใช้การตลาดออนไลน์เข้าถึงผู้บริโภค
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ในปี 2554 แหลมทองได้สร้าง Facebook Page ขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านการออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ ให้ผู้บริโภคได้เกิดความเข้าใจ และรู้จักในไส้กรอกแดงของทางแบรนด์มากขึ้น
3.กลยุทธ์ Word of Mouse
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
สิ่งที่ทรงพลังที่สุดคือกระแสบอกต่อที่ประหยัดงบโฆษณาแต่ได้ผลมาก แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องเริ่มต้นมาจากคุณภาพสินค้าที่ดี บริการที่ดี ที่ต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ซึ่งกว่ากลยุทธ์ Word of Mouse จะเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อใจพอสมควร
4.พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา ทำให้คนส่วนใหญ่อยู่บ้าน ทำอาหารทานเองมากขึ้น ไส้กรอกแดงของแหลมทองสหการ ใช้วิกฤตินี้ให้เป็นประโยชน์ เมื่อออกมาสอนวิธีการทำอาหารง่ายๆ สำหรับทานเองที่บ้านผ่านการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน และใช้วัตถุดิบอย่างไส้กรอกแดงที่ทำเมนูอาหารได้หลากหลาย ยิ่งทำให้ลูกค้าสนใจสินค้ามากขึ้น
5.โฟกัสที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมาก
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ปัจจุบันตลาดไส้กรอกแบ่งเป็นระดับพรีเมี่ยมและตลาดทั่วไป ซึ่งไส้กรอกแดงถือเป็นขวัญใจของตลาดในกลุ่มทั่วไปที่ประหยัด อร่อย คุ้มค่า เป็นเป้าหมายของแหลมทองสหการที่เน้นโฟกัสลูกค้าในกลุ่มนี้ด้วย
รายได้ไม่ธรรมดาเกินกว่า 6,000 ล้านต่อปี
ภาพจาก www.facebook.com/ltcgroup/
ธุรกิจของแหลมทองสหการนั้นแตกไลน์ออกไปหลายแขนง ครบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ สินค้าหลายชนิดมีความต้องการสูงมาก รวมถึงไส้กรอกแดงในตำนานด้วยเช่นกัน รายได้รวมของแหลมทองสหการจึงสูงมาก ตัวเลขอ้างอิงจากปี 2563 เห็นชัดเจนว่ามีรายได้ต่อปีถึง 6,096 ล้านบาท และหากดูจากกระแสความต้องการสินค้าที่ทุกวันนี้ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่ไส้กรอกแดงยังคงขายดีพร้อมกันนี้ก็ยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ รูปแบบธุรกิจใหม่ เพื่อเอามาตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น จึงมั่นใจได้อย่างยิ่งว่าไส้กรอกแดงในตำนานจะเป็นระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยไปอีกนาน
การทำธุรกิจที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน กว่าจะประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย คนที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ในยุคนี้อาจต้องเจอปัญหาหลากหลายประการ แต่หากก้าวข้ามและผ่านพ้น ประคองธุรกิจให้อยู่รอดไปถึงอนาคตข้างหน้า และเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ธุรกิจมั่นคงแข็งแรงก็จะถูกยกย่องให้เป็นสินค้าระดับตำนานได้เช่นกัน
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3S2qNKK , https://bit.ly/3BsfswC , https://bit.ly/3BYOTRk
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3dPpq3d
