แฉ จริงมั๊ย? ลงทุนเงินสด ดีกว่า กู้เงิน
จริงและไม่จริง! ต้องดูสถานการณ์และดูเป็นกรณีๆ ไป สมัยนี้คุณลองดูคนรวยๆ คนมีบริษัทใหญ่ๆ โตๆ พวกเจ้าสัวทั้งหลาย เขากู้เงินในการทำธุรกิจกันหมด เพราะเอาเป็นเงินหมุน ต่อยอด สร้างโอกาส แล้วทยอยคืนทีหลัง ดีกว่าเอาเงินก้อนมาจ่ายทีเดียว
แต่อย่ากู้เกินเงินเก็บหรือเงินที่มีอยู่ในมือ ต่อจากนั้นใช้เงินที่มีอยู่ผสมกับเงินที่กู้มาในการลงทุน สมมติถ้ามีเงินเก็บ 1 ล้านบาท อาจจะกู้ 5 แสนบาท หรือ 1 ล้านบาทก็ได้ เจ้าของธุรกิจหลายคนไม่เอาเงินตัวเองลงทุน เขากู้ลงทุน แถมได้เครดิตจากธนาคารเพราะมีประวัติการชำระที่ดี แต่ต้องวางแผนส่งเงินตลอด หากกิจการไม่โอเค ก็ยังมีเงินตัวเองสำรอง
อย่างไรก็ตาม การกู้เงินมาทำธุรกิจต้องดูหลายปัจจัย หลายๆ ธุรกิจถึงมีเงินก็ยังกู้ ถ้าสามารถทำกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ยิ่งขยายกิจการได้เป็นอย่างมาก เสริมสภาพคล่อง ถ้าใช้เงินตัวเองบางทีอาจหมุนไม่ทัน และกู้เงินมีเรื่องประโยชน์ของภาษีด้วย
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ลงทุนเงินสด กับ กู้เงิน ต่างกันอย่างไร
ลงทุนเงินสด
ข้อดี
- ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการชำระหนี้หรือดอกเบี้ย ทำให้การบริหารการเงินง่ายขึ้น
- ลดความเสี่ยงจากการต้องแบกรับภาระหนี้ในกรณีธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จ
- สามารถควบคุมการลงทุนและการใช้เงินได้ดีขึ้น
- สามารถปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้
- หากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง สามารถขายคืนได้ง่าย
ข้อเสีย
- พลาดโอกาสในการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงหากไม่ใช้เงินกู้
- ลงทุนด้วยเงินสดอาจได้ผลตอบแทนต่ำกว่าการกู้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูง
- มีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดการลงทุนเมื่อใช้เงินสดเพียงอย่างเดียว
- กู้เงินสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในกรณีที่ประสบความสำเร็จ
กู้เงินลงทุน
ข้อดี
- มีเงินทุนเพียงพอในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ
- ใช้เงินกู้ลงทุนในโครงการใหม่หรือสินทรัพย์ ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนในอนาคต
- กู้เงินสามารถเพิ่มผลตอบแทนสูงจากการลงทุน หากธุรกิจทำกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ย
- ชำระหนี้ตรงเวลา ช่วยสร้างเครดิตที่ดี สามารถเข้าถึงเงินกู้ในอนาคตได้ง่าย
- ใช้เงินกู้รลงทุนในหลายๆ โครงการ กระจายความเสี่ยงได้
ข้อเสีย
- ชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย อาจสร้างภาวะความกดดันทางการเงินให้ตัวเอง
- เสี่ยงล้มละลาย หากธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ
- กู้เงินอาจมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เข้มงวด เช่น หลักประกัน และอื่นๆ
- กู้เงินอาจทำให้ใช้เวลามากในการบริหารจัดการเงินและชำระหนี้
- อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นตามความเสี่ยงของธุรกิจ
สรุปก็คือ การเลือกลงทุนด้วยเงินสดหรือกู้เงิน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายของแต่ละคน เช่น
- หากคุณไม่พร้อมรับความเสี่ยง ต้องการความมั่นคง การลงทุนด้วยเงินสดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- หากคุณมีการลงทุนที่มีศักยภาพสูง มีโอกาสสำเร็จ การกู้เงินเป็นทางเลือก แต่ต้องมั่นใจว่าผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยะ
- ถ้าคุณมีเงินสดเพียงพอ ไม่ต้องการกังวลเรื่องหนี้สิน การลงทุนด้วยเงินสดจะดีกว่า
- ถ้าธุรกิจมีโอกาสที่ดีในตลาด และคุณคิดว่าทำสำเร็จได้ การกู้เงินจะไม่พลาดโอกาส
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)