แจกฟรี! สูตรเพิ่มยอดขาย รายได้ต่อหัว/ต่อบิล/ต่อชั่วโมง
ถ้าเราเป็นคนทำธุรกิจก็หวังที่จะได้ยอดขายมากๆ แต่ก็ต้องยอมรับปัจจัยเสี่ยงในปัจจุบันทั้งจากกำลังซื้อที่หดหาย คู่แข่งที่มากขึ้น จึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์มาเสริมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ดีก่อนจะไปวิเคราะห์หาวิธีเพิ่มรายได้ บางทีเราก็ต้องหันมาวิเคราะห์สิ่งที่เรามีอยู่ เรียกว่าเป็นการใช้สิ่งที่เรามีให้เกิดประโยชน์เพื่อเอาส่วนนี้ไปเพิ่มรายได้มากขึ้น บางทีอาจะไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการเล็กน้อย หรือมีแบบแผนในการทำธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น
ซึ่ง สูตรเพิ่มยอดขาย รายได้ต่อหัว / ต่อบิล / ต่อชั่วโมง มีความสำคัญที่จะทำให้เรามองเห็นภาพของการขายในแต่ละวันว่าเราขาดตกบกพร่องตกไหน หรือควรเพิ่มในส่วนไหนเพื่อทำให้ร้านมีรายได้มากขึ้น
สูตรเพิ่มยอดขาย รายได้ต่อหัว/ต่อบิล
ค่าเฉลี่ยต่อหัว หมายถึง ค่าเฉลี่ยของการจ่ายเงินหนึ่งมื้อต่อลูกค้าหนึ่งคนที่มาทาน เช่น ลูกค้ามา 4 ท่าน ยอดขายโต๊ะนี้อยู่ที่ 1,000 บาท แสดงว่าค่าเฉลี่ยต่อหัวคือ 1,000 ÷ 4 = 250 บาท/คน
เมื่อทราบที่มาแล้วว่า ยอดขายเกิดจากอะไร ก็วางแผนต่อว่าจะหาวิธีเพิ่มอะไรระหว่าง “ค่าเฉลี่ยต่อหัว” ของลูกค้าที่มาทานต่อหนึ่งมื้อเพิ่มขึ้น หรือ จะเพิ่ม “จำนวนลูกค้า” ให้มากขึ้นในแต่ละวัน
ซึ่งการเลือกเพิ่มค่าเฉลี่ยต่อหัวนั้นง่ายกว่าการเพิ่มจำนวนลูกค้า เพราะเป็นสิ่งที่เราทำได้เลยเนื่องจากตอนนี้ก็มีลูกค้านั่งในร้านแล้วเพียงแต่มาคิดวางแผนจะทำอย่างไรให้ลูกค้ายอมจ่ายเพิ่ม เช่นการเก็บน้ำเปล่าลงจากโต๊ะ แล้วให้พนักงานขายเครื่องดื่มแทน , การเชียอัพให้ลูกค้าสั่งเมนูต่างๆ เพิ่มมากขึ้น หรือการนำเสนอเมนูของหวานให้กับลูกค้าในตอนท้าย เหล่านี้ก็คือวิธีการเพิ่มรายได้ต่อหัวต่อบิลได้มากขึ้นด้วย
สูตรเพิ่มยอดขาย รายได้ต่อชั่วโมง
เป็นอีกสูตรที่ยกระดับขึ้นมาให้ละเอียดมากขึ้น ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า RevPASH เพื่อวัดประสิทธิภาพการขายของร้านอาหารแบบลงลึก โดยมีการคำนึงถึงจำนวนที่นั่งในร้าน และจำนวนชั่วโมงในการขาย ซึ่งเป็นการคำนวณเพื่อหารายได้ต่อที่นั่งต่อชั่วโมงในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด
มีสูตรคำนวณคือ
RevPASH = รายได้รวม ÷ (จำนวนที่นั่ง x จำนวนชั่วโมงในการขาย x จำนวนวันที่ขาย)
ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารของเรามีจำนวน 60 ที่นั่ง และ ขายตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึงเวลา 22.00 น. หรือ 11 ชั่วโมง ขาย 7 วัน ถ้าร้านอาหารขายได้ 350,000 บาทต่อสัปดาห์ RevPASH ของร้านเราจะเท่ากับ
RevPASH = 350,000 ÷ (60 ที่นั่ง x 11 ชั่วโมง x 7 วัน)
- = 350,000 ÷ 4,620
- = 75.75 บาท
หมายถึงร้านเรานั้นสามารถทำรายได้ต่อที่นั่งต่อชั่วโมง อยู่ที่ 75.75 บาท
ถามว่าเมื่อเรารู้รายได้ต่อชั่วโมงแล้วจะทำยังไง ก็ไม่ต่างจากการรู้รายได้ต่อบิล ต่อหัว หลังจากนั้นคือการหาวิธีเพิ่มรายได้ต่อชั่วโมงให้มากขึ้น ก็มี หลายวิธีตั้งแต่การทำโต๊ะสำหรับ 2 ที่นั่งแทนที่จะให้ลูกค้า 2 คนนั่งโต๊ะ 4 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการเสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์
ไม่ใช่แค่นั้นการรู้และคำนวณรายได้ต่อชั่วโมงยังมีประโยชน์ในการจัดเตรียมวัตถุดิบเพราะเรารู้แล้วว่าตอนไหนขายดีและขายได้เท่าไหร่ ก็สามารถจัดเตรียมสินค้าได้อย่างเหมาะสมในช่วงเวลานั้น หรือสามารถจัดตารางพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องการเพิ่มรายได้แต่สามารถลดต้นทุนได้ และเมื่อต้นทุนเราลดลงก็มีผลต่อเรื่องรายได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่า รายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อยแต่บางทีก็มีผลต่อการทำธุรกิจได้อย่างมาก
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)