แจกฟรี! รวม 7 เมนูเด็ดจาก “เห็ดแครง”
ชื่อของ เห็ดแครง อาจไม่คุ้นหูเท่ากับเห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า ซึ่งเห็ดชนิดนี้มีชื่อเรียกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นเช่น ภาคเหนือเรียกเห็ดแก้น เห็ดตามอด ภาคกลางเรียก เห็ดมะม่วง ส่วนคนทางใต้จะเรียกว่า เห็ดยาง
สังเกตได้ว่าเห็ดแครงที่ว่านี้สามารถพบเห็นได้ทุกภาคทั่วประเทศ โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ชาวบ้านเข้าป่าเก็บเห็ดแครงธรรมชาติ ราคาซื้อขายประมาณ 40 บาท/กิโลกรัมแต่หากเอามาผ่านกระบวนการที่ดีขึ้นเช่นผ่านระบบสุญญากาศ
เห็ดแครงอบแห้ง ราคาขายจะพุ่งสูงกว่ากิโลกรัมละ 700-1,000 บาท และสรรพคุณของเห็ดแครงที่เป็นได้ทั้งอาหารและยา จึงมีหลายคนสนใจเอาเห็ดแครงมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่างๆ ที่ www.ThaiSMEsCenter.com รวบรวมมาให้ดูกันทั้งหมด7เมนูดังนี้
1.เห็ดแครงหมก
ภาพจาก bit.ly/36pv2bd
ส่วนผสม
- หอมแดง
- พริกสด
- ตะไคร้
- ข้าวโพดอ่อน
- น้ำปลา / เกลือ / น้ำตาล
- ใบแมงลัก
- เห็ดแครง
วิธีทำ
- นำส่วนผสมอย่างหอมแดง พริกสด ตะไคร้ ข้าวโพดอ่อนมาหั่นซอย
- ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วใส่หอมแดงซอยลงไป จากนั้นก็เจียวให้เหลืองพอประมาณ ตามด้วยกะปิ
- แล้วใส่ข้าวโพดอ่อน สะตอ และตะไคร้ลงไป ผัดให้เข้ากันดี
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาล แล้วเทพริกลงไป ตามด้วยใบแมงลัก
- เมื่อส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าเสร็จแล้ว ตักใส่ห่อใบตองให้กลายเป็นห่อหมกเห็ดแครง
ต้นทุน-กำไร : ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ย 20-30 บาท ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคาเห็ดแครงในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยต้นทุนประมาณ 10-15 บาท กำไรเบื้องต้น 10-15 บาท
2.คั่วกลิ้งเห็ดแครง
ภาพจาก bit.ly/36rrIMH
ส่วนผสม
- เครื่องแกงคั่วกลิ้ง
- เห็ดแครง
- น้ำตาลทราย, เกลือป่น และน้ำมันถั่วเหลือง
วิธีทำ
- ถ้าไม่มีเครื่องแกงคั่วกลิ้งสำเร็จรูปก็ต้องทำเครื่องแกงก่อนโดยโขลกส่วนผสมอย่างพริกแดงสด พริกแห้ง พริกไทยดำ ตะไคร้ ข่า ขมิ้น หัวหอมแดง กระเทียม และกะปิ โขลกรวมกันจนได้เครื่องแกงสีเหลือง ชิมดูมีรสชาติ
- นำเห็ดแครงมาล้างน้ำสะอาดแล้วนำไปพักให้สะเด็ดน้ำ เมื่อเห็ดสะเด็ดน้ำแล้ว ให้ฉีกเห็ดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันถั่วเหลืองพอประมาณ เมื่อน้ำมันร้อน ใส่เครื่องแกงคั่วกลิ้งลงไปผัดน้ำมัน ผัดไปจนกระทั่งเครื่องแกงส่งกลิ่นหอม
- ค่อย ๆ ใส่เห็ดแครงลงไปผัดกับเครื่องแกงคั่วกลิ้งให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาลทรายพอประมาณ ชิมรสให้มีรสเผ็ด กลมกล่อม เป็นอันใช้ได้
ต้นทุน-กำไร : คั่วกลิ้งเห็ดแครงถ้านำไปบรรจุใส่ขวดแก้ว บรรจุขวดละ 80 กรัม จะขายในราคาขวดละ 35 บาท ต้นทุนเบื้องต้นประมาณ 15-25 บาทกำไรต่อขวดประมาณ 10 บาท
3.น้ำพริกเห็ดแครง
ภาพจาก bit.ly/36oD4RJ
ส่วนผสม
- เห็ดแครง
- พริกแห้ง
- ตะไคร้
- กระเทียม
- หัวหอมแดง
วิธีทำ
- นำเห็ดแครง มาล้างน้ำสะอาดแล้วนำไปพักให้สะเด็ดน้ำ เมื่อเห็ดสะเด็ดน้ำแล้ว ให้ฉีกเห็ดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
- เตรียมพริกแห้ง ตะไคร้ซอยให้ละเอียด ส่วนหัวหอมแดง และกระเทียมนั้น ล้างน้ำสะอาด แล้วแกะเปลือกให้เรียบร้อย
- นำส่วนผสมทั้งหมดนี้ รวมทั้งเห็ดแครง ไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ คั่วให้มีกลิ่นหอม
- นำส่วนผสมทั้งหมดไปโขลกให้เข้ากัน หรือประหยัดเวลาด้วยการใช้เครื่องปั่น ๆ ให้น้ำพริกละเอียด
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันถั่วเหลืองพอประมาณ เมื่อน้ำมันร้อน ใส่น้ำพริกที่โขลกหรือปั่นละเอียดลงไปผัดน้ำมันให้สุก
- ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาลทรายพอประมาณ ชิมรสให้มีรสเผ็ด กลมกล่อมเป็นอันใช้ได้
ต้นทุน-กำไร : คั่วกลิ้งเห็ดแครงถ้านำไปบรรจุใส่ขวดแก้ว บรรจุขวดละ 80 กรัม จะขายในราคาขวดละ 35 บาท ต้นทุนเบื้องต้นประมาณ 15-25 บาทกำไรต่อขวดประมาณ 10 บาท
4.เห็ดแครงอบทรงเครื่อง
ภาพจาก bit.ly/2YE3w72
ส่วนผสม
- เห็ดแครง
- ตะไคร้
- หอมแดง
- กระเทียมใหญ่
- พริกขี้หนู
- กะปิ
วิธีทำ
- นำกระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู ตะไคร้มาโขลกรวมกันพอแหลก
- ใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่เห็ดแครงลงไปผสมรวมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสตามต้องการ
- นำวัตถุทั้งหมดมาห่อด้วยใบตอง โดยเกลี่ยให้บางๆ อย่าให้เป็นก้อนกลมหนาจะได้สุกง่ายๆ นำเข้าหม้ออบไฟฟ้า ตั้งความร้อนประมาณ 200 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาที เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ
เห็ดแครงที่เก็บมาเอง มักมีเศษไม้ปนมาด้วย ให้แยกออกให้หมด ถ้าเห็ดแห้งไปให้นำมาแช่น้ำให้พองก่อน จากนั้นบีบให้สะเด็ดน้ำ เวลาปรุงรส เห็ดแครงมีรสเค็มปนอยู่เล็กน้อย ก็อย่าใส่กะปิลงไปมาก เดี๋ยวจะเค็ม เน้นให้รสออกเผ็ดนิดหน่อย จะเจริญอาหารยิ่งขึ้น บางคนตีไข่ใส่ข้าวโพดลงไปด้วย ตอนนำไปปิ้งหรืออบ
ต้นทุน-กำไร : ส่วนผสมที่ใช้ราคาไม่แพง ต้นทุนจริงๆ อยู่ที่ราคาเห็ดแครงในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยต้นทุน 5-10 บาท ขาย 15-20 บาท กำไรประมาณ 10 บาท
5.แกงเขียวหวานเห็ดแครง
ภาพจาก bit.ly/36sKq6y
ส่วนผสม
- เห็ดแครง
- มะพร้าว
- ใบโหระพา
- น้ำพริกแกงเขียวหวาน
- เต้าหู้หรือกุ้งหรือไก่
- มะเขือพวง
- พริกชี้ฟ้าหั่นฝอยเป็นเส้น
วิธีทำ
- คั้นกะทิแยกหัวและหางกะทิไว้ นำหัวกะทิ 1 ส่วนมาเคี่ยวพอแตกมันใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้หอม
- ใส่เต้าหู้หรือกุ้งหรือไก่ที่หั่นเป็นชิ้นพอคำลงไป เติมหางกะทิตั้งไฟต่อไปจนเดือด
- ใส่มะเขือพวง ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย ใส่หัวกะทิที่เหลือ พอเดือดยกลงใส่พริกชี้ฟ้า และใบโหระพา เป็นอันเสร็จ
ต้นทุน-กำไร : ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ย 30-35 บาท ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคาเห็ดแครงในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยต้นทุนประมาณ 15-20 บาท กำไรเบื้องต้น 10-15 บาท
6.เห็ดแครงผัดไข่
ภาพจาก bit.ly/2tawzDM
ส่วนผสม
- เห็ดแครง
- กระเทียบสับละเอียด
- ไข่ไก่หรือเป็ด
- พริกชี้ฟ้าหั่นเป็นเส้น
- พริกไทยป่น
- ต้นหอมผักชี
- น้ำปลา
- น้ำมันหอย
วิธีทำ
- เจียวกระเทียมในน้ำมันพืชพอเหลียงใส่เห็ดแครงผัดให้สุก ตีไข่ลงไปคนให้ทั่วกระทะ
- ใส่น้ำปลา น้ำมันหอย พริกชี้ฟ้า พริกไทยป่น ต้นหอมผักชี
- ตักเสิร์ฟใส่จานหรือตักขายได้ตามต้องการ
ต้นทุน-กำไร : ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ย 20-25 บาท ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคาเห็ดแครงในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยต้นทุนประมาณ 10-15 บาท กำไรเบื้องต้น 10 บาท
7.แกงคั่วเห็ดแครง
ภาพจาก bit.ly/2YHb8px
ส่วนผสม
- น้ำมันพืช
- พริกแกงคั่ว
- หางกะทิ
- เห็ดแครง
- พริกจินดาหั่นแฉลบ
- ใบมะกรูดฉีก
- น้ำปลา
- น้ำตาลมะพร้าว
- หัวกะทิ
- เนื้อปลาอินทรีย์ย่าง
วิธีทำ
- ทำพริกแกงคั่วโดยโขลกพริกขี้หนูแห้ง พริกจินดา พริกขี้หนูสวน และเกลือป่น เข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ตะไคร้ ข่า ขมิ้น หอมแดง และกระเทียม โขลกต่อจนละเอียดดี จากนั้นใส่กะปิ โขลกรวมกันอีกครั้ง ให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
- ล้างเห็ดแครงให้สะอาดโดยเปิดน้ำให้ไหลผ่าน 3 – 4 ครั้ง เพื่อเอาทรายออกจนหมด ใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง พอร้อนใส่เครื่องแกงคั่วลงผัดในกระทะให้หอม จากนั้นใส่หางกะทิ ½ ถ้วย ลงผัดในกระทะ ใส่เห็ดแครงลงผัดในกระทะให้ส่วนผสมเครื่องแกงกับเห็ดเข้ากันและน้ำงวด จากนั้นใส่เนื้อปลาย่าง ตามด้วยพริกจินดาและใบมะกรูก ผัดให้เข้ากัน ใส่หางกะทิที่เหลือและหัวกะทิ ลงผัดในกระทะให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ
ต้นทุน-กำไร : ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ย 30-35 บาท ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคาเห็ดแครงในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยต้นทุนประมาณ 15-20 บาท กำไรเบื้องต้น 10-15 บาท
*** การคิดคำนวณราคาขายดังกล่าวมีตัวแปรที่ต้องเอามาคิดรวมกันอีกหลายอย่างทั้งค่าการตลาด ค่าเช่าพื้นที่ ต้นทุนผันแปรของแต่ละบุคคล ราคาเบื้องต้นจึงเป็นค่าประมาณการณ์ให้พอมองเห็นภาพและแนวทางในการคิดเบื้องต้นเท่านั้น***
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/36MsfJe
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3coYMcp