แจกฟรี! ของว่างทานเล่น 20 สูตร ทำง่ายๆสร้างรายได้เสริม
สำหรับใครที่คิดจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ความคิดส่วนใหญ่มักเรื่องลงทุนกับอาหารเพราะเชื่อว่าเป็นสินค้าที่มีความต้องการ แต่ทว่าการทำอาหารจำเป็นที่เราต้องมีฝีมือ รสชาติต้องออกมาดีถูกใจลูกค้า
หลายคนบอกว่าทำอาหารไม่เก่งจะให้เปิดร้านตามสั่งหรือร้านข้าวแกงก็คงไม่ไหว ธุรกิจอาหารที่ง่ายกว่านั้นคือ “ขายของว่างหรือขนมทานเล่น” ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายเมนู
www.ThaiSMEsCenter.com เอาใจคนที่อยากทำธุรกิจนี้จึงได้จัดมาให้ดู 20 สูตรที่เป็นของทานเล่นทำง่ายขายง่ายและมีกำไรง่ายๆ ด้วย
1.ถั่วกรอบแก้ว
ภาพจาก goo.gl/VDehgZ
ถั่วกรอบแก้วเป็นเมนูที่หลายคนต้องเคยทานแต่หลายคนอาจไม่รู้ว่านั่นคือถั่วกรอบแก้ว ถือเป็นขนมทานเล่นที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา คนทำงานออฟฟิศ ที่บ่ายๆ เพลินๆ ทานเล่นๆขณะอ่านหนังสือหรือทำงาน นอกจากทำให้อิ่มแบบเบาๆ ยังช่วยแก้ง่วงได้ดีด้วย
ส่วนผสม
- ถั่วลิสงดิบ 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
- ผงโกโก้ 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1ถ้วยตวง
- เกลือป่นเล็กน้อย
- งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ล้างถั่วลิสงในน้ำสะอาด คัดถั่วเม็ดที่เสียออกไป เทใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งกระทะโดยยังไม่ต้องเปิดไฟ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยผงโกโก้ คนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำเปล่า คนให้เข้ากันและใส่ถั่วลิสงลงไป
- เปิดไฟปานกลาง จนน้ำเชื่อมเดือดพล่าน พอน้ำเชื่อมเริ่มเหนียวข้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มให้คนบ่อยขึ้นไปเรื่อย ๆ
- พอน้ำเชื่อมเหนียวมากขึ้นปรับเป็นไฟอ่อนคนต่อ อีกประมาณ 2-3 นาทีสังเกตว่าน้ำเชื่อมแห้ง น้ำตาลตกทราย จึงปิดไฟ
- โรยเกลือป่น เปิดไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อย ๆ จนถั่วทุกเม็ดเริ่มเปียกและมีน้ำตาลเยิ้มออกมา และโรยงาขาวคั่ว คนไปเรื่อย ๆ จนงาเคลือบทั่วตัวถั่ว จึงปิดไฟ
- เทถั่วกรอบแก้วลงในถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ ใช้ไม้พายเกลี่ยถั่วให้กระจายออกจากกัน ถั่วจะได้ไม่ติดกันเป็นก้อน พอเย็นตัวจะกรอบขึ้น พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท บรรจุใส่ขวดโหลหรือแพคเกจสำหรับขาย
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนสำคัญคือถั่วลิสง ราคาประมาณ 42 บาท (500 กรัม) ที่เหลือคือต้นทุนวัตถุดิบอย่างน้ำตาล งา เบ็ดเสร็จต้นทุนรวมประมาณ 15 บาท ทำเสร็จสามารขายได้ห่อละ 25 บาท หรือหากเป็นขวดโหลอาจขายได้ถึง 30 บาท
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
2.กล้วยแขก
ภาพจาก goo.gl/wZmv1R
เป็นอาหารทานเล่นที่ทานได้ทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น การทำกล้วยแขกทอดที่อร่อยต้องให้กล้วยแขกมีความนุ่ม กรอบ ไม่แข็ง เวลาทานจะเพลินๆ ไปกับรสชาติของกล้วยและความกรุบกรอบของแป้ง ใครสนใจจะทำกล้วยแขกขายก็ควรฝึกฝีมือให้ชำนาญก่อนลงมือขายจริง
ส่วนผสม
- แป้งสาลี 1 กก.
- แป้งข้าวเจ้า
- ผงฟู 10 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 กก.
- งา
- มะพร้าวขูด 1 กก.
- น้ำมันพืช 5 ลิตร
- เกลือ 1 ถุง
- กล้วย 10 หวี
วิธีทำ
- นำแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี เกลือ นวดกับหัวกะทิ และมะพร้าวขูด นวดให้เข้ากัน ใส่น้ำปูนใส แล้วนวดต่อ ใส่งาลงไปให้ทั่ว
- ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันกะให้ท่วมกล้วยที่จะทอด เมื่อน้ำมันร้อนนำกล้วยที่หั่นตามยาว 3-4 ชิ้น ต่อ 1 ลูก (แล้วแต่ลูกใหญ่หรือเล็ก) ชุบแป้งที่ผสมไว้ตามข้อ 1 ใส่ในน้ำมันจนเต็มกระทะ
- ทอดจนแป้งเหลืองกรอบ และเนื้อกล้วยสุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนสำคัญขึ้นอยู่กับราคากล้วย มะพร้าว และน้ำตาลทราย ในสูตรนี้กล้วย 10 หวี ต้นทุนรวมประมาณ 590 บาท ได้กล้วยแขกประมาณ 600 ชิ้น ขายได้ประมาณ 70 ชุด ชุดละ 20 บาท รายได้ประมาณ 1,400 บาท
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
3.ขนมปังกรอบอบเนย
ภาพจาก goo.gl/dzk154
เสน่ห์ของขนมปังกรอบอบเนยอยู่ที่ความหอมของเนยและรสหวานจากน้ำตาลโรยหน้า ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมลองศึกษาวิธีการทำเมนูทานเล่นชนิดนี้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ทำสินค้านี้โดยเฉพาะ ดังนั้นก็ควรมีไอเดียที่แปลกและแตกต่างจะช่วยให้ขายดีขึ้น
ส่วนผสม
- ขนมปังแผ่น ตามชอบ
- เนยจืด
- น้ำตาลทราย
วิธีทำ
- ใช้ขนมปังเก่า 2-3 วัน หั่นให้บางตามชอบ ตัดขอบทิ้งแล้วหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ
- เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาฟาเรนไฮต์ เรียงขนมปังใส่ถาดแล้วอบในเตา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
- อบเสร็จก็พักไว้ให้เย็น ทาเนยจืด ชุบน้ำตาล แล้วนำเข้าเตาอบอีกครั้งประมาณ 15-20 นาที พักไว้ให้เย็น เตรียมขายได้
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนสำคัญคือขนมปังที่ 1 ห่อจะมีประมาณ 20 แผ่น เกรดคุณภาพประมาณ 36 บาท ต้นทุนรวมกับวัตถุดิบอื่นๆประมาณ 5 บาท/แผ่น ตอนขายสามารถขายเป็นชุดๆตั้งแต่ 10-15 บาท กำไรก็ประมาณ 5-10 บาท/แผ่น
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
4.ทุเรียนทอด
ภาพจาก goo.gl/H6fxtF
จุดเด่นของทุเรียนทอดคือความกรอบ มัน เค็ม ยิ่งทานยิ่งเพลิน แต่ด้วยวัตถุดิบหลักที่ใช้คือ ทุเรียน ใครที่คิดจะทำเมนูนี้ออกจำหน่ายก็ต้องคำนวณต้นทุนตัวเองให้ดี ควรมีแหล่งวัตถุดิบราคาไม่แพง เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกที่สุด จะได้มีกำไรจากการลงทุนได้มากขึ้น
ส่วนผสม
- ทุเรียนแก่ (เนื้อแข็ง)
- น้ำมันพืช
- เกลือป่น
วิธีทำ
- แกะเปลือกและนำเม็ดทุเรียนออกให้หมด และนำเนื้อมาฝานบางๆ
- ใส่น้ำมันพืชในกระทะตั้งไฟแรง นำเนื้อทุเรียนลงทอด ทอดจนทุเรียนลอยขึ้นมา จากนั้นลดไฟลงแล้วทอดต่อจนเนื้อทุเรียนแห้งกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันจนแห้งสนิท
- นำเกลือป่นมาโรยลงบนเนื้อทุเรียนเล็กน้อย คลุกให้เข้ากัน นำใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคาทุเรียนเป็นสำคัญ ราคาขายขึ้นอยู่กับแพคเกจเช่นกัน ส่วนใหญ่ขายได้ตั้งแต่ 30-100 บาท ผู้ที่ทำธุรกิจนี้จริงจังมีเงินหมุนเวียนใช้สอยและมีกำไรต่อเดือนค่อนข้างดี
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
5.มันฝรั่งเกลียวทอด
ภาพจาก goo.gl/e5RFYZ
เมนูทานเล่นที่กำลังมาแรงเห็นได้มากตามตลาดนัดและหน้าโรงเรียน ด้วยรูปร่างที่เป็นเกลียว ดึงดูดความสนใจของเด็กๆได้อย่างดี รวมกับการใช้ผงปรุงรสต่างๆ มาเพิ่มรสชาติก็ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจ อุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีคือเครื่องสไลด์มันฝรั่งที่มีให้เลือกหลายรุ่น หลายขนาด หลายราคา
ส่วนผสม
- เครื่องสไลด์มันฝรั่ง
- มันฝรั่ง
- น้ำมันพืช
- ผงปรุงรสรสชาติต่างๆ
วิธีทำ
- ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ใช้เครื่องสไลด์มันฝรั่ง ทำให้เป็นเกลียวสวยงาม
- ตั้งกระทะให้น้ำมันเดือดใส่มันฝรั่งที่เป็นเกลียวลงทอดในน้ำมันเดือด สังเกตให้เหลืองทั่วอัน
- นำขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำมัน ปรุงรสด้วยผงรสชาติต่างๆ เช่น บาร์บีคิว พิซซ่า ปาปริก้า ตามที่ลูกค้าต้องการ
ต้นทุน-กำไร : ราคาเครื่องสไลด์มันฝรั่งมีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพัน เริ่มต้นใหม่ใช้เครื่องราคาประมาณ 200-300 บาทก็ได้ คนที่ลงทุนอาชีพนี้จริงจังใช้มันฝรั่งวันละ 30-35 กก. สไลด์ขายได้ 400-500 ไม้ ราคาไม้ละ 15 บาท
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
6.เฟรนฟรายส์ทอด
ภาพจาก goo.gl/TZZnon
น่าจะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ลงทุนง่ายที่สุด ยุ่งยากน้อยที่สุด แค่มีโต๊ะหนึ่งตัว เตาแก๊สปิกนิก และเฟรนฟรายส์ ก็เริ่มทำธุรกิจได้ทันที บางคนใช้ทำเลหน้าบ้านตัวเองทอดเฟรนฟรายส์ขาย ชุดละ 25-30 บาท ถือว่ามีกำไรไม่น้อยเช่นกัน
ส่วนผสม
- เฟรนฟรายส์ 1 ห่อ
- ซอสมะเขือเทศ
- น้ำมันพืช
- เกลือป่น
วิธีทำ
- ตั้งน้ำมันพืชให้ร้อนจนได้ที่ แล้วนำเฟรนฟรายส์จำนวนหนึ่งใส่ลงไป ทอดให้เหลืองโดยทั่วกัน
- เหลืองได้ที่ ใช้ตะแกรงตักเฟรนฟรายส์ขึ้นมาเขย่าให้สะเด็ดน้ำมัน เทใส่ถาดรองที่มีกระดาษซับน้ำมัน
- ตอนขายสามารถเลือกคลุกเกลือ หรือผงรสชาติอื่นๆ ได้ตามลูกค้าต้องการ
ต้นทุน-กำไร : เฟรนฟรายส์ 1 ห่อราคาประมาณ 100 บาท ซึ่งมีจำนวนมากพอสมควร มาแบ่งขายชุดละ 25-30 บาท กำไรในเฟรนฟรายส์ 1 ห่อไม่ต่ำกว่า 50-100 บาท ยิ่งขายมากก็ยิ่งมีกำไรมาก
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
7.ปอเปี๊ยะ
ภาพจาก goo.gl/BGEWoz
การทำปอเปี๊ยะให้อร่อยสำคัญคือต้องไม่อมน้ำมัน รสชาติของปอเปี๊ยะต้องกรอบนอก นุ่มใน ดังนั้นก่อนจะทำขายก็ควรฝึกฝีมือในการทำให้ชำนาญ และควรพัฒนาสูตรการทำให้มีหลากหลาย ด้วยตัวสินค้ามีความน่าสนใจเป็นทุนเดิมหากต่อยอดให้ดีก็จะขายได้ง่ายยิ่งขึ้น
ส่วนผสม
- หมูสับ
- วุ้นเส้น
- แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ
- กะหล่ำปลี
- พริกไทยป่น
- ซอสหอยนางรม
- ซอสถั่วเหลือง
- แป้งข้าวโพด
- ไข่ไก่
- น้ำมันพืช
วิธีทำ
- รวนหมูจนสุก ปรุงรสด้วยพริกไทย พริกป่น
- ผัดกะหล่ำปลี แครอทพอสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลือง ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย เติมแป้งข้าวโพดลงไป
- ใส่หมูรวนตามลงไปและตามด้วยวุ้นเส้น ผัดให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
- ตีไข่ไก่ให้เข้ากันสำหรับทาแป้งปอเปี๊ยะ
- นำเครื่องที่ผัดไว้มาห่อในแป้งปอเปี๊ยะทาไข่ไก่ป้องกันแป้งปอเปี๊ยติดกัน ห่อให้เป็นม้วนกลมสวยงาม
- ปอเปี๊ยะห่อเสร็จลงทอดในน้ำมัน ให้เหลืองได้ที่ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนส่วนใหญ่มาจากวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่ปอเปี๊ยะส่วนใหญ่จะขายที่ 25 บาท (ใส่กล่องประมาณ 3 ชิ้น) คิดเป็นกำไรอยู่ประมาณ 30-40% ของราคาขาย
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
8.เกี๊ยวทอด
ภาพจาก goo.gl/DYgmX1
เกี๊ยวทอดสามารถทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ด้วยวัตถุดิบหาได้ไม่ยาก วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก และหากต้องการอัพเกรดราคาขายให้ดียิ่งขึ้น ก็ควรมีไอเดียในการทำ แพคเกจต้องมีความน่าสนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ทำกำไรได้ดี
ส่วนผสม
- แผ่นเกี๊ยว 1 ห่อ
- หมูสับปรุงรส
- น้ำมันพืช
วิธีทำ
- นำแผ่นเกี๊ยวมาขูดแป้งออกก่อน เพื่อตอนทอดจะได้ไม่ไหม้ง่ายและน้ำมันไม่ดำเร็ว
- ตักหมูปรุงรสไว้ตรงกลางแผ่นเกี๊ยว พับแผ่นเกี๊ยวครึ่งนึง ใช้น้ำทาขอบแผ่นเกี๊ยวจับมุมแผ่นเกี๊ยวเข้าหากัน ใช้น้ำทาเพื่อให้มุมเกี๊ยวติดกัน
- นำไปทอดให้เกี๊ยวสุกพอเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมขาย
ต้นทุน-กำไร : แผ่นเกี๊ยวราคาประมาณ 55 บาท (500 กรัม) ซึ่งมีปริมาณแผ่นค่อนข้างเยอะทอดได้หลายชิ้น นำมาแบ่งขายแล้วแต่ว่าใส่เครื่องอะไรลงไปหากถ้าเป็นเกี๊ยวเปล่าก็ประมาณ 7 ชิ้น 20 หรือถ้ามีเครื่องข้างในอาจขายชิ้นละ 3-5 บาทได้
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
9.หนังไก่ทอด
ภาพจาก goo.gl/MrddCw
เมนูทานเล่นที่แค่ได้กลิ่นก็การันตีถึงความอร่อย ส่วนใหญ่ทานคู่กับข้าวเหนียวหรือทานเล่นเปล่าๆ ได้เลย ทานเพลินๆขณะทำงานหรืออ่านหนังสือ แต่หากจะให้ดีในยุคที่คนรักสุขภาพมากขึ้น เราควรมีสูตรหนังไก่ทอดเพื่อสุขภาพจะช่วยทำให้คนสนใจมากขึ้น
ส่วนผสม
- หนังไก่ต้ม
- ซอสหอยนางรม
- ผงปรุงรส
- พริกไทยป่น
- งาขาว
- แป้งทอดกรอบ
วิธีทำ
- ต้มหนังไก่ให้สุก นำมาปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา ผงปรุงรส พริกไทย งาขาว และ แป้งทอดกรอบ คลุกให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน นำหนังไก่ลงไปทอดให้สุกเหลือง
- ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน พร้อมจำหน่าย
ต้นทุน-กำไร : หนังไก่ในตลาดขายอยู่ประมาณ 52 บาท/กก. ใน 1 กิโลกรัมสามารถทำเป็นหนังไก่ทอดได้จำนวนมาก ต้นทุนโดยรวมถือว่าไม่มากแต่สามารถขายได้ห่อละ 10-20 บาท บางทีขายคู่กับข้าวเหนียว ถึงขนาดขายเป็นแฟรนไชส์ก็มี
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
10.ขนมโตเกียว
ภาพจาก goo.gl/Xo6hQ3
ขนมทานเล่นยอดฮิตที่เราจะเห็นตามโรงเรียน เป็นขวัญใจของน้องๆ หนูๆทั้งหลาย ปัจจุบันมีการพัฒนาให้มีไส้ที่หลากหลายและรูปลักษณ์ที่แปลกตามากขึ้น หากใครสนใจทำเป็นรายได้เสริมควรหาไอเดียเด่นๆโดนๆ มาช่วยเพิ่มสีสันให้น่าสนใจมากขึ้น
ส่วนผสม
- แป้งสาลี
- น้ำตาลทราย
- ไข่ไก่
- นมสด
- ผงฟู
- เนยจืด
- ไส้กรอก
- น้ำมันพืช
วิธีทำ
- ผสมแป้งขนมโตเกียวโดยร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือ และผงฟูรวมกัน ใส่ชามวางพักไว้ก่อน
- ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายแล้วผสมนมสด เนยจืดละลาย และกลิ่นวานิลลา คนจนส่วนผสมเข้ากัน
- เทแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ใส่ทีละนิด แล้วก็คนให้เข้ากันแล้ววางพักไว้ 20 นาที
- ทำไส้หมูสับโดยตั้งกระทะผัดหมูสับกับกระเทียมและรากผักชีตำปรุงรสด้วยหอยนางรม ซอสปรุงรส พริกไทยป่น ผัดจนหมูสุกแล้วตักใส่ชามแยกไว้
- ใช้ตั้งไทยไฟกลาง ตักแป้งใส่ในกระทะแล้ววนเป็นวงกลมเมื่อแป้งด้านล่างเริ่มสุก ตอกไข่ลงไปแล้วยีไข่ให้แตก ตักหมูสับและวางไส้กรอกลงไป
- เหยาะซอสปรุงรสและพริกไทย เมื่อไข่เริ่มสุกดีแล้วก็จัดการม้วนขนม
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนโดยรวมมาจากวัตถุดิบหลากหลายชนิดแต่ซื้อแต่ละครั้งสามารถใช้ได้นาน ราคาขายขนมโตเกียวเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 2-10 บาท (ขึ้นอยู่กับไส้ภายใน) โดยส่วนใหญ่มีกำไรประมาณ 50% จากราคาขาย
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
11.เบคอนพันไส้กรอกชีส
ภาพจาก goo.gl/SNjJe4
เบคอนพันไส้กรอกชีสเป็นเมนูโปรดของเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยเสน่ห์ของเบคอนที่ผสมผสานกับชีส รสชาติผสมลงตัวกันอย่างดี เมนูนี้ราคาขายค่อนข้างแพง และยิ่งทำให้ดูน่าสนใจจะยิ่งขายดี ใครที่คิดจะทำขายต้องลองหาวิธีลดต้นทุนแต่ไม่ลดคุณภาพจะช่วยให้มีกำไรมากขึ้น
ส่วนผสม
- เบคอน
- ไส้กรอก
- เชดด้าชีส
- เนยจืด
- พริกไทย
วิธีทำ
- ตัดครึ่งเบคอนและตัดชีส1แผ่น แบ่งได้ 4 ชิ้น
- นำเบคอนวางตามด้วยชีส ต่อด้วยไส้กรอก โรยพริกไทย พันให้รอบแล้วใช้ไม้จิ้มฟันกัดไว้
- นำกระทะตั้งไฟใส่เนยลงไปรอให้ละลาย วางเบคอนลงไปย่างให้สุก เป็นอันเสร็จ
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนมาจากวัตถุดิบสำคัญอย่างไส้กรอกราคาประมาณ 70-80 บาท (ไส้กรอกประมาณ 10-12 ชิ้น) ส่วนเบคอน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ส่วนใหญ่ราคา 120-170 บาท (500 กรัม) ต้นทุนต่อชิ้นจึงค่อนข้างมากประมาณ 10-15 บาท แต่เมื่อทำเสร็จก็อัพราคาขายได้เช่นกันส่วนใหญ่ขายตั้งแต่ 25-30 บาท มีกำไรประมาณ 10-20 บาทต่อชิ้น
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
12.ไส้กรอกทอด
ภาพจาก goo.gl/mijbwC
เมนูง่ายๆ แต่รายได้ดีมาก การทำไส้กรอกทอดไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะหรืออุปกรณ์วัตถุดิบอะไรมากมาย สำคัญที่ทำเลและการตลาด ซึ่งเราควรจะมีไอเดียในการขายที่ทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น เช่นแพคเกจที่ดีขึ้น หรือโปรโมชั่นต่างๆ ที่เรียกว่าเป็นกลยุทธ์การขาย
ส่วนผสม
- ไส้กรอก
- น้ำมันพืช
- ซอสมะเขือเทศ
วิธีทำ
- ใส่น้ำมันพืช ในกระทะตั้งไฟให้ร้อนพอประมาณ ใช้ไฟปานกลาง
- นำไส้กรอกมาผ่าให้เป็นแฉกสวยงามลงทอดในกระทะให้สุกเหลืองน่ารับประทาน
- ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ
ต้นทุน-กำไร : ขึ้นอยู่กับชนิดของไส้กรอกที่เอามาทอด เช่นไส้กรอกรมควันราคาประมาณ 49 บาท (150 กรัม) หรือถ้าเป็นไส้กรอกหนังไก่ ราคาประมาณ 82 บาท (500 กรัม) ทั้งนี้ในตลาดยังมีไส้กรอกราคาที่ถูกกว่านี้ส่วนใหญ่เหมาะเอามา ทอดขาย ซึ่งราคาการขายประมาณ 7 ชิ้น 20 หรือถ้าเป็นไส้กรอกขนาดใหญ่อาจขายชิ้นละ 5-10 บาท กำไรก็ถือว่าประมาณ 50% จากราคาขาย
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
13.ลูกชิ้นทอด
ภาพจาก goo.gl/NWxgiy
เป็นอีกเมนูยอดฮิตที่เห็นได้ทั่วไป แม้จะมีคู่แข่งมากแต่ด้วยความที่เป็นสินค้ากินง่ายซื้อง่าย ทำให้ขายดีซึ่งหากใครที่ไม่ต้องการลองผิดลองถูกเริ่มต้นเอง สามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ซึ่งจะทำให้เราเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมืออาชีพเร็วขึ้น
ส่วนผสม
- ลูกชิ้นหมู/กุ้ง/ปลา
- น้ำมันพืช
- น้ำจิ้มรสเด็ด
วิธีทำ
- ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟให้ร้อนใช้ไฟปานกลาง
- ใส่ลูกชิ้นที่ล้างสะอาดและต้องการจะทอดลงไปดูให้สุกเหลืองน่ารับประทาน
- ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด
ต้นทุน-กำไร : ขึ้นอยู่กับคุณภาพลูกชิ้น ราคาส่วนใหญ่ 50-60 บาท (400 กรัม) โดยลูกชิ้นในแต่ละแพคเกจสามารถทอดขายได้จำนวนหนึ่งราคาขายเริ่มตั้งแต่ชุดละ 20-30 บาท ก็ถือว่ามีกำไรต่อชิ้นไม่น้อยกว่า 50% จากราคาขาย
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
14.คัพเค้ก
ภาพจาก goo.gl/TBMwa9
เป็นเมนูของหวานที่หลายคนชื่นชอบ การจะทำคักเค้กให้อร่อยจำต้องฝึกฝนฝีมือให้คัพเค้กรสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่ม กินแล้วละลายในปาก หากเป็นคนมีฝีมือและทำได้ดี โอกาสที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองก็เป็นไปได้สูงมากด้วย
ส่วนผสม
- เนย
- ไข่ไก่ใบใหญ่
- นมสด
- แป้งสาลีอเนกประสงค์
- น้ำตาล
- ผงฟู
- เบกกิ้งโซดา
- ช็อคโกแลต
- vanilla extract
วิธีทำ
- ตีเนยกับน้ำตาลและน้ำตาลทรายแดง ตีจนเข้ากัน ส่วนผสมฟูขึ้นเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ไก่ และ vanilla extract
- ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย เกลือ ผงฟู และเบกกิ้งโซดา ตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- เทนมครึ่งหนึ่งและแป้งสาาลีอเนกประสงค์อีก 1 ถ้วยที่เหลือ และเทนมที่เหลือ ตีให้เข้ากันประมาณ 1 – 2 นาที
- ใส่ช็อกโกแลต ผสมให้เข้ากัน
- วางถ้วยกระดาษคัดเค้กลงในถาด ใส่ส่วนผสมแป้งลง 2/3 ของถ้วย
- อบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส (350 F) 20 นาที ยกออกพร้อมเสิร์ฟ
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนของสินค้าอยู่ประมาณ 60-70% ของราคาขาย ดังนั้นจึงเป็นส่วนกำไรอยู่ประมาณ 30-40% ซึ่งส่วนใหญ่คัพเค้กในตลาดจะขายชิ้นละประมาณ 25-35 บาท ยิ่งถ้ารสชาติดี อร่อย ทำการตลาดดีๆ ยิ่งขายได้กำไรมากขึ้น
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
15.นักเก็ต
ภาพจาก goo.gl/YrB868
เมนูทานเล่นที่เห็นได้ทั่วไป นักเก็ตสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้จากห้างสรรพสินค้าแล้วนำมาทอดขาย ถือว่าเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่มากสำคัญอยู่ที่ทำเล และกลยุทธ์การตลาด ซึ่งเราควรมีเมนูอื่นๆมาเสริมจะช่วยให้น่าสนใจมากขึ้น
ส่วนผสม
- ไก่บด
- พริกไทยป่น
- ซอสปรุงรส
- เกลือ
- แป้งข้าวโพด
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- ไข่ไก่
- เกล็ดขนมปัง
วิธีทำ
- ผสมไก่บดกับพริกไทยป่น ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส เกลือ และ แป้งข้าวโพด นวดจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- เตรียมแป้งสาลี ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน และ เกล็ดขนมปัง ใส่แยกชามไว้สำหรับเอาไก่ลงไปชุบ
- ปั้นเนื้อไก่แล้วจัดให้เป็นรูปทรงสี่เหลียม จากนั้นก็นำไปคลุกกับแป้งสาลี ไข่ไก่ และ เกล็ดขนมปัง
- ตั้งกระทะใส่น้ำให้ท่วม รอให้ร้อนแล้วนำไก่ที่ชุบแป้งไว้แล้ว ลงไปทอดให้สุกเหลือง เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
ต้นทุน-กำไร : ไก่บดกิโลกรัมละ 74 บาท เกล็ดขนมปัง ราคา 21 บาท (200 กรัม) แป้งข้าวโพด 26 บาท (400 กรัม) แป้งสาลีอเนกประสงค์ 60 บาท (1 กก.) ราคาขายถ้าขายตามหน้าโรงเรียนเป็นแก้วละ 5-10 บาท หรือถ้าตามตลาดนัดแพคเกจดีขึ้นหน่อยขายชุดละ 20-30 บาท กำไรก็ประมาณ 50% จากราคาขาย
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
16.ขนมปังหน้าหมู
ภาพจาก goo.gl/o1i96Z
เป็นการผสมผสานระหว่างขนมปังและหมูสับได้อย่างลงตัว เป็นเมนูที่เกิดจากไอเดียและสร้างมูลค่ามากขึ้นให้กับสินค้า โดยเสน่ห์ของขนมปังหน้าหมูอาจอยู่ที่น้ำอาจาดซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมนูนี้เลยก็ว่าได้
ส่วนผสม
- ขนมปังแผ่น
- หมูสับ
- ซอสถั่วเหลือง
- ไข่แดงของไข่ไก่
- น้ำมันพืช
ส่วนผสมอาจาด
- น้ำส้มสายชู
- น้ำร้อน
- น้ำตาลทราย
- หอมแดงซอย
- ผักชีซอย
- แตงกวาซอย
- เกลือป่น
- พริกแดงซอย
วิธีทำ
- หั่นขนมปัง 1 แผ่นออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วน
- ผสมหมูและเครื่องปรุงทุกอย่างยกเว้นไข่แดง ให้เข้ากันนำมาทาที่แผ่นขนมปังที่หั่นไว้ ทาด้วยไข่แดงก่อนนำไปทอด พอเหลืองกรอบตักขึ้นพักน้ำมันให้สะเด็ด
- ทำน้ำอาจาดเริ่มจากเอาน้ำเดือดต้มสุกมาใส่ถ้วยผสมด้วยน้ำส้มสายชู,น้ำตาลทรายและเกลือ คนจนละลาย ใส่หอมแดงซอย,พริกแดงซอย,แตงกวาซอยและโรยหน้าด้วยผักชีซอย
ต้นทุน-กำไร : เนื่องจากมีวัตถุดิบที่หลากหลายแต่ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบทั่วไปราคาไม่แพง หลักๆคือขนมปังแผ่น และหมูสับ ต้นทุนของขนมปังหน้าหมูไม่เกินชิ้นละ 5 บาท เราสามารถตั้งราคาขายเป็นชุดได้ตั้งแต่ 25-30 บาท ส่วนใหญ่ขายเป็นชุดชุดละประมาณ 4 ชิ้นมีกำไรต่อชุดประมาณ 5-10 บาท
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
17.แซนวิชไข่ดาว
ภาพจาก goo.gl/BAxhmH
แซนวิชไข่ดาวสามารถทำกันได้ทุกคน แต่การทำให้เป็นอาชีพนั้นจะต้องมีเสน่ห์ของสินค้า และมีการตกแต่งเมนูให้ดูน่าสนใจ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าได้มากขึ้น รวมถึงการตลาดที่นอกจากขายหน้าร้านทั่วไปอาจเพิ่มช่องทางออนไลน์ได้ด้วย
ส่วนผสม
- ขนมปังโฮลวีท
- ไข่ไก่
- ชีส
- ผักตามชอบ
วิธีทำ
- นำขนมปังโฮลวีทไปจี่บนกระทะให้พอกรอบ ๆ พักไว้
- ทอดไข่ดาวบนกระทะที่โรยน้ำมันบาง ๆ พอสุกตามชอบแล้วนำชีสโปะด้านบนไว้ให้ความร้อนมันระอุผ่านไข่ขึ้นมา ให้พอเยิ้มนิด ๆ เสร็จแล้วนำไปวางบนขนมปังที่พักไว้
- วางผักลงไปให้สวยงาม ประกบให้เรียบร้อยแล้วผ่าครึ่ง พร้อมรับประทาน
ต้นทุน-กำไร : เนื่องจากแซนวิชมีหลายอย่างให้เลือกทำ ราคาต้นทุนก็จะมากน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของแซนวิชแต่โดยเฉลี่ยต้นทุนต่อ 1 ชิ้นไม่น่าเกิน 8 บาทยกเว้นแซนวิชด์แฮมชีสที่อาจต้นทุนสูงมากหน่อย ราคาขายประมาณ 15-20 บาทกำไรกำลังดี
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
18.ขนมไข่เต่า
ภาพจาก goo.gl/6ogRJw
เราสามารถพบเห็นเมนูไข่เต่าได้ตามตลาดทั่วไป เป็นเมนูง่ายๆบ้านๆ แต่ว่าคนให้ความสนใจ ด้วยความที่เป็นขนมแบบพอดีคำ เรียกว่ากินเล่นๆเพลินๆ เคี้ยวสนุกปาก ยิ่งได้ทานตอนร้อนๆ ออกจากเตาจะมีความกรุบกรอบเล็กน้อยอร่อยมากๆ
ส่วนผสม
- มันเทศ
- แป้งมัน
- แป้งอเนกประสงค์
- ผงฟู
- เกลือ
- น้ำตาล
- กะทิ
วิธีทำ
- นำมันเทศไปนึ่งจนนิ่ม แล้วนำมาบดให้ละเอียด
- เทแป้งมัน แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ และน้ำตาลลงไปในชามผสม คนให้เข้ากัน
- จากนั้นก็ใส่มันที่บดไว้ลงไป เอามือขยำให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทกะทิลงไปผสมแล้วขยำให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
- เมื่อได้แป้งที่ผสมเสร็จแล้ว นำมาปั้นให้เป็นเม็ดกลมขนาดเท่ากับลูกชิ้นปลา
- ตั้งหม้อใส่น้ำมันให้ท่วม เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้ว ใส่ตัวขนมลงไปทอด เมื่อขนมเริ่มเปลี่ยนสีให้ใช้ตะหลิวคลึงๆ ตัวขนม ขนมจะได้กรอบนอกนุ่มใน เสร็จแล้วให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จ
ต้นทุน-กำไร : พ่อค้าแม่ค้าที่ขายไข่เต่าเป็นอาชีพต่างบอกว่าต้นทุนประมาณ 50% กำไรก็ได้ประมาณ 50% เช่นกัน ซึ่งราคาขายโดยส่วนใหญ่หากเป็นขนมไข่เต่ามันม่วงขาย 6 ชิ้น 10 บาท ลูกค้าจะนิยมมากเพราะไม่แพงและกินง่ายอร่อยดี
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
19.หอยครก
ภาพจาก goo.gl/TejfaE
คล้ายๆ กับไข่กระทะนี่คือการดัดแปลงและใช้ไอเดียมาทำเป็นสินค้าที่แปลกแหวกแนวและขายได้ในราคาที่เพิ่มขึ้น สำหรับคนที่สนในควรฝึกฝีมือในการทำให้ชำนาญเพื่อให้หอยครกออกมาเป็นรูปเป็นร่างสวยงาม ลูกค้าเห็นจะได้รู้สึกถึงความน่ากินหรืออาจใช้แพคเกจดีๆ ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าก็ได้
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า
- แป้งท้าวยายม่อม
- แป้งทอดกรอบ
- น้ำปูนใส
- น้ำเปล่า
- ต้นหอมซอย
- ซอสพริก
- น้ำจิ้มไก่น้ำมันพืช
- ไข่ไก่
- หอยแมลงภู่
- พริกไทยป่น
วิธีทำ
- ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม และแป้งทอดกรอบ คนให้เข้ากัน
- ใส่น้ำปูนใส น้ำเปล่า และ ต้นหอมซอยลงไปในแป้ง คนจนแป้งละลายเข้ากัน
- เตรียมกระทะหลุม ใส่น้ำมันพืชลงไปตามหลม เหมือนมันเริ่มร้อนให้เทแป้งลงไป
- ตีไข่ไก่ใส่ชาม แล้วหยอดไข่ลงไปบนแป้ง ตามด้วยหอยแมลงภู่ รอจนเริ่มสุก ระหว่างนั้นให้หยอดน้ำมันพืชลงไปเป็นระยะๆ เพื่อให้แคะออกมาง่าย
- โรยต้นหอยซอนเล็กน้อย เสร็จแล้วก็แคะแล้วตักเรียงใส่จานเสิร์ฟ
- ทำน้ำจิ้มสำหรับหอยทอดครก ผสมซอสพริกกับน้ำจิ้มไก่เข้าด้วยกัน เสิร์ฟพร้อมกับหอยทอดครก
ต้นทุน-กำไร : ผู้ที่ลงทุนในธุรกิจการขายหอยครกพูดถึงต้นทุนเฉลี่ยในอาชีพนี้ประมาณ 2,000/วัน โดยราคาขายเฉลี่ยชุดละ 35 บาทตามตลาดนัดทั่วไป มีรายได้จากการขายประมาณ 3,000 บาท/วันกำไรเฉลี่ยประมาณ 1,00/วัน
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
20.ไข่ปลาหมึกทอด
ภาพจาก goo.gl/TejfaE
สำหรับไข่ปลาหมึกทอดในตลาดเราเห็นมีมากมายคุณภาพก็แตกต่างกันไป การขายไข่ปลาหมึกทอดที่ดีเราตอ้งเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพเป็นไข่ปลาหมึกที่ผสมแป้งน้อยๆ เพื่อให้ลูกค้าติดใจยิ่งเป็นไข่ปลาหมึกแท้ได้ยิ่งดี และน้ำจิ้มถือเป็นไฮไลท์ของเมนูนี้ต้องอร่อย แซ่บ เด็ด
ส่วนผสม
- ไข่หมึก
- แป้งทอดกรอบ
- ผงปรุงรส
- พริกไทยป่น
- น้ำเย็นจัดเล็กน้อย
- น้ำมันพืช
วิธีทำ
- นำไข่ปลาหมึกมาหมักกับผงปรุงรส พริกไทย เติมน้ำเย็นลงไปเพียงเล็กน้อย ใส่แป้งลงไปบนไข่ปลาหมึก กะให้ให้พอดี ไม่ต้องเยอะมาก พอให้แป้งเหนียวๆ ไม่เหลวจนเกินไป นำไข่ลงไปทอดหรือผัดกับน้ำมันน้อยๆ ในกระทะ ทอดจนเหลืองกรอบพร้อมขายได้ทันที
ต้นทุน-กำไร : สำคัญคือคุณภาพของไข่ปลาหมึกที่นำมาใช้ทอด หากเกรดดีราคาจะสูงประมาณ 200-300 บาท/กิโลกรัม อาจทำให้ได้กำไรน้อยลงแต่ดีกว่าการเลือกใช้ไข่ปลาหมึกด้อยคุณภาพและไม่ควรผสมแป้งมากเกินไป หากลูกค้ากินแล้วไม่ติดใจไม่กลับมาซื้อซ้ำเราก็จะขายได้ไม่ดี โดยปกติราคาขายก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพไข่ปลาหมึกเริ่มตั้งแต่ชุดละ 30 -60 บาทกำไรขึ้นอยู่กับเทคนิคการบริหารจัดการต้นทุนที่มีคุณภาพ
*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*
จะสังเกตได้ว่าอาหารทานเล่นหากเราขายแต่เพียงอย่างเดียวย่อมไม่เป็นที่ดึงดูดลูกค้า ส่วนใหญ่จึงมีให้เลือกหลายอย่างเช่นมีไส้กรอกทอด คู่กับลูกชิ้นทอด ไก่ทอด เป็นต้น หรืออย่างเปิดขายแซนวิชก็มีเครื่องดื่มหรือหอยครกร่วมด้วย จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับลูกค้ามากขึ้น
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hWf6U7