เปิด 20 อาชีพลงทุนไม่เกิน 3,000 แต่กำไรดีเหลือเชื่อ!

หลายคนเชื่อว่าธุรกิจที่จะทำกำไรได้ดีต้องมีการลงทุนที่สูงด้วย ใครมาบอกว่าลงทุนต่ำๆแต่กำไรดีเรามักจะคิดขัดแย้งทันทีว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด นั้นเพราะความคิดของเราถูกฉาบด้วยคำว่าทุนนิยมมากเกินไป มองในทางกลับกันอาชีพง่ายๆ อาชีพบ้านๆ หลายอย่างเราเริ่มต้นได้ด้วยเงินไม่ถึง 3,000 ด้วยซ้ำ แต่เมื่อลงทุนน้อยสิ่งที่ต้องมีมากคือความขยัน ตั้งใจ

และพยายาม สำคัญคือการรู้จักเก็บออม สะสมเงินที่ได้จากการลงทุนเพื่อไว้ต่อยอดให้เป็นธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นในอนาคตลองมาดู 20 อาชีพที่ www.ThaiSMEsCenter.com นำมาฝากแต่ละธุรกิจทุกคนทำได้ อยู่ที่ว่าใครจะทำไม่ทำมากกว่า

และสำหรับทุกท่านที่กำลังมองหาแฟรนไชส์เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพ สามารถเลือกดูรายละเอียดได้ตามเหมาะสมทาง www.ThaiFranchiseCenter.com หรือเลือกดูตามหมวดหมู่ได้ดังนี้เลย!!

• แฟรนไชส์อาหาร คลิก https://bit.ly/38mbBE7
• แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีม คลิก https://bit.ly/2JSEH4z
• แฟรนไชส์เบเกอรี่ คลิก https://bit.ly/3opxO9L
• แฟรนไชส์บริการ คลิก https://bit.ly/38iutDU
• แฟรนไชส์การศึกษา คลิก https://bit.ly/3hSpQDu
• แฟรนไชส์ความงาม คลิก https://bit.ly/3hR623u
• แฟรนไชส์ค้าปลีก คลิก https://bit.ly/3nqM6FQ
• แฟรนไชส์งานพิมพ์ คลิก https://bit.ly/35eMZLh
• แฟรนไชส์โอกาสทางธุรกิจ คลิก https://bit.ly/396MZhL

1.ลูกชิ้นทอด

การลงทุนหลักคือ ลูกชิ้นที่อาจจะเลือกให้หลากหลายในปริมาณไม่เยอะเพื่อให้พอดีกับต้นทุนที่มี แต่ลูกชิ้นที่ควรมีเช่น ลูกชิ้นปลา ปูอัด เอ็นหมู เอ็นไก่ ส่วนอุปกรณ์การทอดก็เริ่มจากหม้อที่บ้าน ตั้งโต๊ะขึ้นมาสักตัว ถ้าหน้าบ้านไม่มีทำเลก็ลองไปติดต่อตลาดนัดใกล้บ้านค่าเช่าที่ไม่น่าจะแพงเกินไป

คำนวณคร่าว ซื้อลูกชิ้นมา 1,500 บาท เสียบไม้ละ 4-5 ลูก ซื้อเครื่องปรุงทำน้ำจิ้ม 500 ถุงใส่ลูกชิ้น 200 รวมร่ายจ่ายเบ็ดเสร็จไม่น่าจะเกิน 2,500 เอามาขายไม้ละ 5 บาท ขาย 500 ไม้เรียกว่าเท่าทุน แต่วัตถุดิบที่ซื้อมาอย่างลูกชิ้นยังเหลืออยู่นั่นคือกำไร และถ้าทำเลดีจริงเช่นหน้าโรงเรียน โรงงาน ขยันขายทุกวัน น้ำจิ้มอร่อยๆ วันละ 500 ไม้ไม่น่าจะยากเกินไป

2.ข้าวไข่เจียว

สำคัญที่ทำเลถ้าอยู่ติดโรงเรียน โรงงาน ยิ่งดี ลงทุนไม่ยาก โต๊ะ 1 ตัว เตาแก๊ส จาน (แบบใช้แล้วทิ้ง) วัตถุดิบสำหรับผสมไข่เจียว (หมูบด , ปูอัด , หมูยอ ฯลฯ) ซึ่งเราอาจไม่ต้องมีเครื่องเคียงมากนักในช่วงแรก และที่ลืมไม่ได้คือ ข้าว กับไข่ ข้าว 1 ถังเอาแบบดีราคา ถังละ 450 หุงได้หลายรอบ ไข่เบอร์1 แผงละ 95 บาท (30ใบ)

ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 ขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท แน่นอนว่าถ้าร้านค้าคนติดใจลูกค้าก็มากรายได้เราก็จะมากขึ้นด้วย ถึงตอนนั้นเราอาจจะเพิ่มงบลงทุนให้ร้านเรามีตัวเลือกสำหรับลูกค้ามากขึ้น ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นตามไป

3.ร้านโจ๊กตลาดนัด

ภาพจาก goo.gl/Ci6YoH

ไม่พูดถึงการเช่าอาคารเปิดร้าน แต่ร้านโจ๊กตามตลาดนัดใช้ทุนไม่สูงอย่างที่คิด ต้นทุนสำคัญคือข้าวสำหรับทำโจ๊ก ไข่ หมู ในเบื้องต้นไม่ต้องมีสินค้ามากนักเอาแค่ง่ายๆ ก่อน ส่วนพวกเครื่องปรุงเดี๋ยวนี้ก็มีที่ทำสำเร็จรูปเป็นซองเราไปซื้อมาได้เลย เมื่อได้ทำเลตลาดนัดไม่ว่าเช้าหรือเย็น

แค่ตั้งโต๊ะ หม้อโจ๊กขนาดใหญ่ 1 ใบ เปิดร้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องนั่งทานให้ซื้อกลับบ้านอย่างเดียวต้นทุนรวมๆ 3,000 เอาอยู่แน่นอน ขายโจ๊กถุงละ 30-35 บาท ขายสัก 100 ถุงก็ได้เท่าทุน และยิ่งเปิดร้านนานๆมีลูกค้าประจำคิดคำนวณได้เลยว่าแต่ละวันจะขายได้ประมาณเท่าไหร่ ธุรกิจนี้ยังไงก็กำไรดีแน่นอน

4.ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

การลงทุนทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนขาย ต้องคำนวณรายจ่ายก่อน เช่นมีงบ 3,000 บาท ซื้อกล่องใส่ 200 บาท ซื้อวัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งก๋วยเตี๋ยวลุยสวนใช้ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ

ถ้าขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนในราคากล่องละ 30 บาท ขายได้ 300 กล่อง เป็นเงิน 9,000 บาท ถ้าเอาไปฝากขายหน้าร้านทั่วไปอีก รับรองรายได้ไม่ใช่แค่ 9,000 บาทแน่

5.ขายแซนวิช

แซนวิชมีหลายอย่างเบื้องต้นเราอาจไม่ต้องเปิดตัวสินค้ามากเกินไปเอาตามที่งบเรามีไปก่อน โดยตั้งราคาขายตามคุณภาพและขนาดของแซนวิชคือมากกว่าต้นทุน 5-10 บาท อาจขายในราคาชิ้นละ 15-20 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขายคือเช้า และเย็น สำหรับต้นทุนที่สำคัญคือขนมปังและวัตถุดิบประกอบต่างๆ เช่นหมูหยอง แฮม ผัก ฯลฯ

เบ็ดเสร็จต้นทุนอยู่ประมาณ 2,000 แต่ละวันถ้าขายได้ 100 ชิ้นก็ถือว่าเท่าตัว แต่หากทำตลาดดีๆ ขายส่งตามโรงเรียนหรือมีออร์เดอร์จากออฟฟิศเป็นประจำ แค่ 100 ชิ้นถือว่าง่ายมากเผลออาจขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 ชิ้นทีเดียว รายได้ก็ลองคูณดูว่าจะมากขึ้นแค่ไหน

6.ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ภาพจาก goo.gl/Rfx8Wu

อันดับแรกก่อนจ่ายตลาดห้ามตั้งงบเกิน 3,000 บาทเด็ดขาด ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ คือ เนื้อหมู ไม้เสียบ ข้าวเหนียว และถุงใส่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส่วนเตาปิ้งเราทำเองก็ได้หรือซื้อเตาธรรมมาใช้ไปก่อน คิดรายได้คร่าวๆถ้าขายไม้ละ 5 บาทได้ 100 ไม้ เป็นเงิน 500 บาท ข้าวเหนียวถุงละ 5 บาท ขายได้ 100 ถุง เป็นจำนวนเงิน 500 บาท

รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 1,000 บาท แต่เนื่องจากข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่ขายได้ตลอดทั้งวัน หรือมีทำเลดีๆ จะยิ่งขายได้บางทีไม่ใช่แค่วันละ 100 ไม้อาจขายได้ถึง 200-300 ไม้ ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรมากขึ้นด้วย

7.ร้านสารพัดยำ

ตามตลาดนัดร้านสารพัดยำคนนิยมมาก เบื้องต้นเราอาจใช้งบที่มี 3,000 ทำเมนยำที่ไม่มากเกินไป มียำหลักๆ อย่างยำตับหวาน ลาบหมู ยำไข่เยี่ยวม้า ยำตีนไก่ ฯลฯ ซึ่งต้องพยายามคำนวณให้อยู่ในงบที่มี

ถ้าเรามีฝีมือในการทำยำ รสชาติจัดจ้าน รับรองว่าขายดีคนติดใจซื้อทุกวันแน่ ราคาขายตักใส่ถุงถุงละ 35-40 บาทมีรายได้ต่อวันไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 บาท เราเอากำไรมาต่อยอดทำยำเพิ่มก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นด้วย

8.วุ้นแฟนซี

ต้นทุนวุ้นแฟนซีไม่มีอะไรมาก ผงวุ้น กลิ่น สี แป้นพิมพ์ และกล่องใส่วุ้น เบ็ดเสร็จ 3,000 พอไหว สิ่งสำคัญคือสีสันและความสวยงาม ขายเป็นกล่องกล่องละ 20-30 บาท

ซึ่งสามารถขายได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงขายฝากตามร้านต่างๆ ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่หลายคนมองข้ามแต่ถ้าคิดทำจริงจังลงทุนไม่สูงแต่กำไรดี ขึ้นอยู่กับไอเดีย

9.ผัดมาม่าขาย

ภาพจาก goo.gl/HW3zLS

การทำมาม่าผัดสามารถขายได้ในราคาห่อละ 10-15 บาท และจะให้ดีควรมีวัตถุดิบให้ลูกค้าเลือกผสมเพิ่มเติมจะทำให้ขายง่ายขึ้นเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น เช่น ลูกชิ้น หมูสับ ไข่ ผัก แฮม ฯลฯ โดยรมต้นทุนใช้ไม่มาก แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่แล้ว

ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขายว่าจะทำอย่างไรให้คนติดใจ เมนูนี้ไม่ต้องพูดมากไม่ต้องโฆษณาเยอะ แค่ทำอร่อยๆ คนก็ติดใจแน่นอน ดีไม่ดีในกรณีลูกค้าเยอะอาจต้องมีการเพิ่มสาขาตัวเอง รายได้วันละ 2,000-3,000 น่าจะได้สบายๆ

10.ขายปลาหมึกบด

ภาพจาก goo.gl/E2fkoD

ราคาปลาหมึกแห้งกิโลกรัมละ 70-80 บาท งบ 3,000 อาจเลือกซื้อวัตถุดิบมาพอประมาณ กันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับซื้อเครื่องบดปลาหมึก ที่ราคาประมาณ 2,000 บาท แต่ก่อนจะขายก็ควรมาทดลองทำเองดูก่อนเพื่อให้รู้เทคนิคการบดว่าต้องใช้น้ำหนักมือแค่ไหนเพื่อทำให้ปลานั้นเรียบละเอียด

รวมกับสูตรน้ำจิ้มที่ต้องอร่อย ปลาหมึกบดปัจจุบันไม่ค่อยมีให้เห็นยิ่งเป็นโอกาสดีที่จะขายได้ราคาขายตัวละ 15-20 บาท รายได้ดีแน่โดยเฉพาะถ้าอยู่ในเขตโรงงานหรือโรงเรียน

11.ขายน้ำแข็งใส

ภาพจาก goo.gl/9wGep5

เทคนิคคือต้องมีน้ำหวานให้เลือกหลายสี มีท็อปปิ้งหลายอย่าง และต้องสะอาด ภาชนะต้องได้มาตรฐาน กลุ่มลูกค้าที่สนใจมักอยู่ในวัยเด็ก-วัยผู้ใหญ่ การลงทุนใช้แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่

แต่ต้องหาแหล่งขายสินค้าที่เหมาะสมด้วย ราคาขายถ้วยละ 15-20 บาท ถ้าทำแบบสะสมกำไรไว้แล้วนำมาต่อยอดธุรกิจเพิ่มสินค้าให้มากขึ้น จัดร้านให้น่าสนใจขึ้น อนาคตก็จะเป็นธุรกิจที่แข็งแรงได้เช่นกัน

12.ขายสลัด

เป็นสินค้าที่คนรักสุขภาพส่วนใหญ่เลือกโดยเป็นผู้หญิงกว่า 80% เทคนิคคือ ผัก ผลไม้ ต่าง ๆ สำหรับการทำสลัดต้องสะอาด ปลอดสารพิษ/สารเคมี ส่วนต้นทุนใช้ไม่มาก แค่ผัก ผลไม้ วัตถุดิบทำน้ำสลัด เป็นต้น

สามารถทำขายเป็นชุดละ 20-30 บาท หรือขายแบบชั่งกิโลก็ได้ พอเมื่อพูดถึงรายได้ มีมากกว่าเงินลงทุนหลายเท่าตัวแน่นอน เพราะจำนวนกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ ณ ปัจจุบันนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ

13.ไก่ทอด

ไก่ทอดเป็นอาหารยอดฮิตที่ยุคไหนก็ขายดี ยิ่งตอนเช้าๆ จะขายดีมาก หากเราไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอาชีพนี้อย่างไร เดี๋ยวนี้มีคอร์สสอนทอดไก่ที่ทำให้เรามีเทคนิคดีๆในการทอด

และได้สูตรทำข้าวเหนียวอร่อยๆ อีกด้วย ราคาในการเรียนไม่เกิน 3,000 บาท อุปกรณ์เราหาเองได้ง่ายๆ ใครที่อยากมีอาชีพไม่รู้จะเริ่มจากอะไรเปิดร้านขายไก่ทอดแบบง่ายๆ รายได้อาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้

14.น้ำพริกปลาทู

ภาพจาก goo.gl/1Gkw1s

น้ำพริกปลาทูจะมีเครื่องเคียงเป็นผักลวก ปลาทู และอาจจะมีน้ำพริกอื่น ๆ มาร่วมแทรกด้วย ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่มีมานาน และคนก็ยังให้ความนิยมอยู่ เพียงแต่การจะทำให้เป็นธุรกิจได้ก็ต้องรู้จักพัฒนาฝีมือให้คนติดใจ

และแพคเกจก็ต้องเหมาะสมให้คนซื้อกลับบ้านได้ง่ายๆ การลงทุนไม่เกิน 3,000 ก็ได้น้ำพริกหลายชนิด และสามารถขายได้ในแบบออนไลน์เพิ่มรายได้ให้เราอีกช่องทางด้วย

15.ขายส้มตำ

ส้มตำเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ ส่วนใหญ่มักทานกันในช่วงเวลากลางวัน-ตอนเย็น ถ้าพูดถึงต้นทุนให้ไม่เกิน 2,000 บาท ยกแว้นแต่จะมีไก่ย่าง หรือเครื่องเคียงอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย ส่วนรายได้การันตีได้เลยว่า คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก บางวันถ้าลูกค้าเยอะ รายได้มีมากถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

16.อาหารทานเล่น

อาหารทานเล่นมีหลายอย่าง เช่น เฟรนฟราย ไก่ทอด ข้าวโพดทอด ลูกชิ้นทอด ขนมปังทอด เป็นต้น ถ้าเราสามารถทำเมนูทานเล่นให้อร่อย มีรสชาติที่ติดปาก ลูกค้าขาประจำก็จะเยอะตามไป

คนที่ทำธุรกิจนี้จริงๆจังๆ ขายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ต่อวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเล ส่วนต้นทุนนั้นไม่เกิน 3,000 เพราะเดี๋ยวนี้มีแบบสำเร็จรูปให้เราไปซื้อมาทอดขาย เราเลือกได้ว่างบที่มีอยู่จะซื้อวัตถุดิบมาเริ่มต้นขายได้เท่าไหร่

17.กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด

ภาพจาก goo.gl/ZP4Fwv

เทคนิคการทำกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ให้อร่อย ต้องอร่อยที่ตัวแป้ง และต้องไม่ติดน้ำมันมากจนเกินไป อีกทั้งต้นทุนที่ใช้ก็ไม่สูงมาก ถ้าเริ่มเปิดร้านแรก ๆ ไม่ต้องมีขนาดใหญ่โต ให้คำนวณต้นทุนและสัดส่วนสินค้าที่คุณจะขายให้ดี

และเรื่องของรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000-3,000 บาท และเดี๋ยวนี้เทคนิคการขายบางคนจ้างพนักงานขายตามสี่แยกไฟแดง ยิ่งทำให้ขายดีมากขึ้นไปอีก

18.ขนมจีนน้ำยา

แม้จะดูเป็นเมนูจุกจิกในเรื่องของส่วนผสมแต่ต้นทุนโดยรวมไม่เกิน 3,000 ก็ทำขนมจีนน้ำยาขายได้แน่ ไม่ต้องตั้งร้านใหญ่โต แค่มีที่ในเขตชุมชนหรืออยู่ใกล้ตลาดนัดน้ำยา 1 หม้อ ขนมจีนพร้อมขาย

แรกๆ เอาแค่นี้ก่อน ไว้มีเงินทุนค่อยเพิ่มเมนูอื่นประกอบเข้าไปอย่างน้ำพริกขนมจีน แกงเขียวหวาน ต้องไม่ลืมเครื่องเคียงอย่างผักสด ผักดอง ขายเป็นชุดชุดละ 30-35 บาท ลงทุนน้อยอาจมีกำไรน้อยแต่ไม่ขาดทุนแน่นอน

19.รับทำอาหารกล่อง

ภาพจาก goo.gl/Y42U19

อันนี้น่าจะทีเด็ดคือยังไม่ต้องลงทุนอะไรเลย รับออร์เดอร์มาก่อนว่าลูกค้าต้องการสั่งเมนูอะไร จำนวนเท่าไหร่ เมื่อได้ออร์เดอร์แน่นอนค่อยไปซื้อวัตถุดิบมาข้อดีของวิธีการนี้คือ กำไรแน่นอน

คำนวณได้เลยว่าจะมีกำไรเท่าไหร่ แม้จะออกทุนไปก่อนแต่ไม่นานเมื่อส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้หมด กำไรก็จะอยู่ในนั้นเรียบร้อย ยุคนี้มีโซเชี่ยลมาเป็นเครื่องมือ รวมกับการหาลูกค้าจากออฟฟิศต่าง ๆยิ่งมีมาก กำไรเรายิ่งดีขึ้น

20.ขายข้าวโพดต้ม

ภาพจาก goo.gl/Y5WPdG

บางคนคิดไม่ถึงว่าข้าวโพดต้มจะขายดีได้อย่างไร นี่คือเมนูบ้านๆ แต่รายได้ไม่บ้านๆ ตาม ต้นทุนข้าวโพดดิบกิโลกรัมละ 8-10 บาท ซื้อมาสัก 100 กิโลกรัมก็ประมาณ 1,000 บาท ได้ข้าวโพดประมาณ 200 ฝัก (น้ำหนักเฉลี่ย 2 ฝัก/กก.) ไม่ต้องกังวลเรื่องหม้อต้มหากยังไม่มีทุนมากก็ใช้หม้อธรรมดาไปก่อน

ต้นทุนที่เหลือคือค่าแก๊ส ราคาขาย ตั้งแต่ ฝักละ 15-20 บาท ถ้ามี 200 ฝัก ก็ขายได้ 1,500-2,000 แต่แม่ค้าข้าวโพดต้มส่วนใหญ่จะขายได้วันละมากกว่า 5,000 บาท คิดดูว่ากำไรดีแค่ไหน และวิธีการก็ไม่ยุ่งยาก สินค้าขายตัวเองได้ และคนที่นิยมก็ยังมีมากอีกด้วย

เห็นได้ว่าหลายอาชีพหากมองดีๆ เราเริ่มต้นด้วยด้วยเงินไม่มาก คำว่าอย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย คือปฐมบทของการสร้างคนให้เป็นเศรษฐี

หากเราไม่ใช่คนรวยก็เริ่มต้นจากการลงทุนง่ายๆ ขยันให้มาก เก็บกำไรไว้เป็นทุน อย่าคิดว่ามีธุรกิจไหนที่ทำให้เรารวยได้แบบไม่ต้องทำงาน คนรวยคือคนที่ทำงาน อย่าคิดรวยแต่ไม่คิดทำงานเพราะไม่มีทางที่ฝันจะเป็นจริงได้เด็ดขาด

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/3lmG21P

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2YEePO5