เปิดร้าน “กระเพราห่อ” สร้างรายได้ดีกว่าทำงานประจำ

ถ้าเราทำงานประจำเงินเดือนเบื้องต้นประมาณ 15,000 – 20,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น คนที่มีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ รวมค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าเช่าบ้าน (สำหรับบางคน) แต่ละเดือนอย่าหวังว่าจะมีเหลือเก็บ แค่เอาให้พอกินแบบเดือนต่อเดือนยังทำไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าหลายคนอยากหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มแต่คำถามคือยุคนี้จะขายอะไรดีที่ขายง่าย ขายดี และไม่ต้องลงทุนมาก ตัวเลือกที่อยากแนะนำคือ “ขายกระเพราห่อ” ซึ่งบางคนที่ประสบความสำเร็จมีรายได้ดีกว่าทำงานประจำ หรือบางทีตัดสินใจลาออกจากงานมามุ่งมั่นทำธุรกิจนี้เต็มตัวกันเลยทีเดียว

ทำไม “กระเพราห่อ” ถึงน่าสนใจ?

กระเพราห่อ

ภาพจาก https://bit.ly/3RRubsq

พูดถึงผัดกระเพราเราไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ เพราะนี่คือเมนูสตรีทฟู้ดที่ดังไปทั่วโลกคนไทยเองก็คุ้นเคยกับเมนูนี้อย่างดี ไม่ว่าจะผัดกระเพราหมู กระเพราเนื้อ กระเพราไก่ กระเพราหมูกรอบ ถึงขนาดที่บางคนเรียกว่าเป็นเมนูสิ้นคิดคือคิดไม่ออกก็เลือกสั่งกระเพราไว้ก่อน สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความต้องการที่ชัดเจน เหมือนเป็นเมนูที่อยู่คู่คนไทยมาทุกยุคสมัย และที่สำคัญ ไม่ต้องเรื่องมาก ทานง่าย ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับเมนูอื่นๆ

ในส่วนของคนขายก็วิธีการทำไม่ยุ่งยากอาศัยมีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำให้อร่อย มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และที่สำคัญไม่ต้องลงทุนมาก อาจเริ่มต้นจากอุปกรณ์ที่มีในครัว ตั้งโต๊ะสำหรับขาย เงินลงทุนส่วนใหญ่คือวัตถุดิบเช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ , ไข่ , กระเพรา ,ข้าวสาร, ห่อกระดาษ เป็นต้น

และเมนูนี้ยอดฮิตมากสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะเวลาเย็นที่มักจะขายดีเป็นพิเศษยิ่งได้ทำเลในแหล่งชุมชนคนพลุกพล่าน ใกล้หอพักหรืออพาร์ทเม้นที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมทำกับข้าวแต่จะซื้อกลับบ้านไปรับประทานยิ่งจะทำให้ขายดีได้มากขึ้นด้วย

เริ่มต้นเปิดร้าน “กระเพราห่อ” ต้องทำยังไง?

กระเพราห่อ

1.ฝึกทำเมนูกระเพราให้อร่อยถูกใจ

เป็นเรื่องพื้นฐานง่ายๆ ที่อยากเปิดร้านเราก็ต้องฝึกทำเมนูที่จะขายให้อร่อยซะก่อน แม้ว่าผัดกระเพราจะไม่ใช่เมนูเรื่องมาก แต่การจะให้ลูกค้าติดใจต้องมีสูตรเด็ดเคล็ดลับที่ทำให้อร่อยเหมือนกันได้ทุกวัน ดังนั้นก่อนทำขายต้องให้มั่นใจว่ารสชาติเรามีเอกลักษณ์และมีจุดขายในตัวเองก่อน

กระเพราห่อ

2.ไม่ต้องมีหลายเมนูเพื่อลดต้นทุน

เพื่อไม่ให้ต้นทุนเราสูงเกินไปจึงควรเลือกขายแค่เมนูง่ายๆ สัก 1-2 เมนูก็พอเช่น กระเพราหมู , กระเพราไก่ เป็นต้น การที่มีหลายเมนูมากไปทำให้เราต้องแบกต้นทุนที่สูงมาก และการมีเมนูน้อยๆ ก็เหมือนเป็นจุดขายที่ชัดเจนของร้านและลดขั้นตอนในการเตรียมวัตถุดิบให้ง่ายขึ้นด้วย

กระเพราห่อ

ภาพจาก https://bit.ly/3RRubsq

3.บริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบให้มีคุณภาพ

ทุกวันนี้ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ทั้งราคาเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ น้ำมันพืช ดังนั้นการจะขายให้ได้กำไรต้องเริ่มจากการบริหารต้นทุนเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพ เช่นการมีแหล่งวัตถุดิบราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นต้น

กระเพราห่อ

4.ตั้งราคาขายที่คนอยากซื้อ

ราคาขายก็เป็นสิ่งสำคัญ เคล็ดลับคือไม่ควรตั้งราคาขายสูงเกินไปประมาณ 20-25 บาทน่าจะเป็นราคาที่คนซื้อพอรับได้ ในฐานะคนขายก็ต้องมาบริหารต้นทุนต่อห่อให้มีปริมาณสินค้าเหมาะสมกับราคา เน้นการขายจำนวนมาก อาจได้กำไรน้อยหน่อยแต่ถ้าลูกค้าติดใจก็จะกลับมาซื้อซ้ำเรื่อยๆ

กระเพราห่อ

5.เน้นทำสุกใหม่ ทำขายโชว์หน้าร้าน

จุดเด่นที่จะทำให้ขายง่าย ขายดีมากขึ้นคือ ทำสดหน้าร้าน เน้นผัดแบบสุกใหม่ๆ จะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และกลิ่นของกระเพราที่ผัดจะทำให้ร้านเราเด่นมากขึ้นด้วย ที่สำคัญลูกค้าได้เห็นชัดเจนว่าเราทำอย่างไร ใส่อะไร ผัดแบบไหน เป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจของร้าน ทั้งนี้เราอาจทำการตลาดออนไลน์ควบคู่กันไปด้วยก็ได้

“ กระเพราห่อ ” อาชีพน่าสนใจ พัฒนาสู่การทำเป็นแฟรนไชส์ได้

3

คนที่ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านขายกระเพราห่อมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย บางคนขายได้เกินกว่าวันละ 1,000 ห่อ รายได้ต่อเดือนดีกว่าทำงานประจำ ไหนจะการขายในช่องทางออนไลน์ที่ลูกค้ามีความต้องการมาก ซึ่งปัจจุบันมีคนที่ต่อยอดการขายกระเพราไปสู่การขายในระบบแฟรนไชส์ที่สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ควรมีหน้าร้านของตัวเองที่ประสบความสำเร็จ มีสูตรเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ มีการสร้างแบรนด์ที่คนรู้จักอย่างดี

และก่อนจะต่อยอดไปสู่ระบบแฟรนไชส์ควรทดลองขยายสาขาของตัวเองเพื่อให้มองเห็นถึงปัญหาในเรื่องการจัดเตรียมวัตถุดิบ ปัญหาในการขายระหว่างสาขา เรื่องของรสชาติต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้การขยายสาขาแฟรนไชส์ที่ต้องการสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปัจจุบันการทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม ควรเน้นช่องทางออนไลน์ร่วมด้วย และสร้างจุดเด่นจุดขายให้น่าสนใจ แม้จะเป็นเพียงสินค้าง่ายๆ อย่างผัดกระเพรา แต่มีมีกลยุทธ์การตลาดที่ดี รู้จักใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำการตลาด ก็อาจกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วมีโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีกว่างานประจำหลายเท่าทีเดียว

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3abaMRS , https://bit.ly/3NmQy5N

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3zDmsqY


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด