เปิดร้านสะดวกซักอ็อตเทริ ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ รายได้ดีแค่ไหน คุ้มหรือไม่คุ้ม

เปิดร้านสะดวกซักอ็อตเทริ ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ รายได้ดีแค่ไหน คุ้มหรือไม่คุ้ม แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักอ็อตเทริ มีแพ็คเกจลงทุนให้เราเลือกได้ 2 แบบ

คือ ไซส์ M กับ ไซส์ L มาดูกันที่แพ็คเกจแรก ไซส์ M ราคา 1,932,510 บาท สิ่งที่เราจะได้รับ คือ เครื่องซักผ้า 10 กิโล 4 เครื่อง, เครื่องซักผ้า 13 กิโล 1 เครื่อง และเครื่องอบผ้า 15 กิโล 2 เครื่อง นอกจากนี้เราก็จะได้เครื่องจำหน่ายน้ำยาอัตโนมัติ 1 เครื่อง เครื่องแลกเหรียญอัตโนมัติ 1 เครื่อง และเครื่องทำน้ำร้อนระบบ 1 เครื่อง

ส่วนแพ็ตเกจไซส์ L ใช้เงินลงทุน 2,599,300 บาท จะได้เครื่องซักผ้า 10 กิโล 4 เครื่อง, เครื่องซักผ้าผ้า 13 กิโล 1 เครื่อง, เครื่องซักผ้า 17 กิโล 2 เครื่อง, เครื่องอบผ้า 15 กิโล 3 เครื่อง, เครื่องจำหน่ายน้ำยาอัตโนมัติ 1 เครื่ือง, เครื่องแลกเหรียญอัตโนมัติ 1 เครื่อง และเครื่องทำน้ำร้อนระบบแก๊ส 1 เครื่อง

เปิดร้านสะดวกซักอ็อตเทริ

ภาพจาก www.otteriwashdry.com


มาดูค่าใช้จ่ายกันบ้างว่า ถ้าหากเปิดร้านสะดวกซักอ็อตเทริ 1 ร้าน

กรณีนี้ผมขอเลือกแพ็คเกจไซส์ M ก็แล้วกัน แพ็คเกจนี้ราคา 1,932,510 บาท จะมีค่าแฟรนไชส์ 465,000 บาท ค่าตกแต่งร้าน 300,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องเสียจากการเปิดร้านสะดวกซัก 1 ร้าน คือ 2,700,000 บาท ในส่วนของค่าแฟรนไชส์ 465,000 บาท ทางบริษัทฯ ใ้ห้เราแบ่งชำระได้ 6 งวด

ภาพจาก www.otteriwashdry.com

สมมติลงทุน ไซส์ M

  • ใช้เครื่องซักผ้า 5 เครื่อง / เครื่องอบผ้า 2 เครื่อง
  • เครื่องทำงานเฉลี่ย 12 ชั่วโมง/วัน
  • ค่าซักผ้าผ้า 5 เครื่อง 60 บาท/ชั่วโมง = 300 บาท/ชั่วโมง
  • เครื่องทำงาน 12 ชั่วโมง = 3,600 บาท
  • ค่าอบผ้า 2 เครื่อง 60 บาท/ชั่วโมง = 120 บาท/ชั่วโมง
  • เครื่องทำงาน 12 ชั่วโมง = 1,440 บาท
  • รายได้ 5,040 บาท/วัน หรือ 109,440 บาท/เดือน
  • ต้นทุนเฉลี่ย 10% = 10,944 บาท/เดือน
  • ค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 2% = 2,188 บาท/เดือน
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 30,000 บาท/เดือน
  • รวมต้นทุน+ค่าใช้จ่าย = 43,132 บาท/เดือน
  • เหลือกำไร 109,440 – 43,132 บาท/เดือน = 66,000 บาท/เเดือน
  • คืนทุนประมาณ 40 เดือน (ขึ้นอยู่กับทำล)


มาดูกันว่า ข้อเสียของการเปิดร้านสะดวกซักมีอะไรบ้าง

ภาพจาก www.otteriwashdry.com

คู่แข่ง และค่าซ่อมบำรุงแพง แล้วแต่ร้านแล้วแต่ช่าง ถ้าเป็นแฟรนไชช์จะปีละประมาณ 20,000-50,000 บาท ถ้าไม่แฟรนไชส์การซ่อมเป็นครั้งจะแพงแน่นอน ค่าอะไหล่ทั้งแบบแฟรนไชส์และไม่แฟรนไชส์แพงทั้งคู่ ยกตัวอย่างเช่น ที่จับฝาประตูเครื่องซักหักค่าอะไหล์ประมาณ 5,000-7,000 บาท

อายุการใช้งานเครื่องซัก-อบ ประมาณ 5 ปี ต้องทำให้คืนทุนให้ได้ ถ้าเลย 5 ปี เครื่องเก่าทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ อาจต้องลงทุนอีกรอบ

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการเปิดร้านสะดวกซัก เราต้องศึกษาพื้นที่และทำเลให้ดี โดยปกติทำเลที่เหมาะทำร้านสะดวกซัก คือ มหาวิทยาลัย condo apartment ชุมชนที่มีหมู่บ้าน แต่ละทำเลก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป มหาวิทยาลัยลูกค้าเยอะ แต่ปิดเทอมทีมีปวดหัวเหมือนกัน ชุมชนหมู่บ้านลูกค้าจะเสถียร แต่คู่แข่งจะมาเปิดตามง่าย

ภาพจาก www.otteriwashdry.com

เรื่องคู่แข่งเราเลี่ยงไม่ได้ ถ้าทำเลดียังไงก็มีคู่แข่ง อันนี้คือข้อเสียของธุรกิจนี้ บางที่แข่งกันโหดมาก ร้านกำแพงติดกันเลยก็มี และสุดท้ายก็จะแข่งกันที่ราคา แต่หารู้ไม่นั่น คือ หนทางแห่งหายนะ การลดราคาตัดราคาไม่ใช่ทางออกเสมอไป เพราะเมื่อเราลดราคากำไรต่อรอบเราน้อยลง ระยะเวลาที่จะคืนทุนก็จะนานขึ้น สภาพเครื่องก็จะเก่าเร็ว จะมีค่าซ่อมบำรุง ค่าเสื่อมอะไรต่างๆ ตามมามากมาย สุดท้ายก็จะกลายเป็นขาดทุน

ใครมีความคิดเห็นกันยังไงบ้างครับ สามารถคอมเม้นท์แชร์ประสบการณ์การทำร้านสะดวกซักเข้ามาแบ่งปันกันได้นะครับ

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต