เปิดร้านขายลูกชิ้นทิพย์ รายได้ดีแค่ไหน คุ้มหรือไม่คุ้ม?

ลูกชิ้นทิพย์ ลูกชิ้นหมูปิ้งสูตรโบราณ ที่ใส่ใจในทุกกระบวนการ เสมือนอาหารทิพย์ นอกจากจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นทิพย์แล้ว ปัจจุบันเปิดขายแฟรนไชส์ลูกชิ้นปิ้งอีกด้วย

มาดูกันว่า ลูกชิ้นทิพย์มีรูปแบบการเปิดร้านแฟรนไชส์ลูกชิ้นปิ้งแบบไหนกันบ้าง

เริ่มกันที่ ชุดเคาน์เตอร์ A ราคา 11,900 รูปแบบเตาไฟฟ้า และ 12,900 บาท รูปแบบเตาแก๊ส

เปิดร้านขายลูกชิ้นทิพย์ภาพจาก www.facebook.com/lookchinthip/

ผู้ลงทุนจะได้รับอุปกรณ์การขายครบชุด และวัตถุดิบลูกชิ้นทิพย์เสียบไม้พร้อมขาย

  • ชุดเคาน์เตอร์ B ราคา 28,900 รูปแบบเตาไฟฟ้า และ 24,900 บาท รูปแบบเตาแก๊ส
  • ชุดเคาน์เตอร์ C ราคา 39,900 รูปแบบเตาไฟฟ้า และ 35,900 บาท รูปแบบเตาแก๊ส

ภาพจาก www.facebook.com/lookchinthip/

นอกจากชุดเคาน์เตอร์แล้ว ลูกชิ้นทิพย์ยังมีร้านแบบคีออสตั้งกลางแจ้ง หน้าร้านสะดวกซื้อ ปั้มน้ำมัน ลงทุนเริ่มต้น 69,900 บาท แต่ตอนนี้เขามีโปรโมชั่นพิเศษ ลดเหลือ 59,900 บาท จ่ายมัดจำ 30,000 บาท แล้วผ่อนทีหลัง ก็สามารถเปิดร้านขายได้ทันที

โดยแต่ละแพ็จการลงทุนแฟรนไชส์ร้านลูกชิ้นหมูปิ้ง หากขายสินค้าหมด จะคืนทุนหลังหักค่าใช้จ่ายทันที 4,400 บาท
มีอายุสัญญา 1 ปี สามารถต่อสัญญาได้ไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้ภายใน 1-3 เดือน หรือเร็วกว่านี้

สำหรับลูกค้าที่มีหน้าร้านอยู่แล้วอยู่แล้ว อยากสั่งลูกชิ้นทิพย์ไปขายสร้างรายได้ ตอนนี้ลูกชิ้นทิพย์เขามีแพ็คเกจแฟรนไชส์สำหรับทดลองขาย สามารถเลือกชุดลงทุนเริ่มต้นที่ Combo Set 2,990 บาท (ไม่มีเตา) หรือ 3,290 บาท (มีเตาไฟฟ้าให้)

ลองมาดูกันว่า หากจะเปิดร้านขายลูกชิ้นปิ้ง (ลูกชิ้นทิพย์) จะมีรายได้ดีแค่ไหน

ภาพจาก www.facebook.com/lookchinthip/

ในกรณีนี้ผมขอยกตัวอย่าง ชุดแฟรนไชส์ Combo Set ราคา 3,290 บาท สำหรับคนที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการซื้ออุปกรณ์การขาย เพราะเมื่อซื้อแฟรนไชส์ชุดนี้แล้ว เราจะได้รับ

อุปกรณ์การขาย

  • เตาไฟฟ้า
  • ผ้ากันเปื้อน 2 ผืน
  • ป้ายไวนิล 1 ผืน หรือ ป้ายฟิวเจอร์บอร์ด 1 แผ่น
  • ป้ายเมนูสินค้าขนาด A4 1 แผ่น
  • ถุง 6*11 1 กก.

ส่วนรายการสินค้าวัตถุดิบที่จะได้รับ คือ

  • ลูกชิ้นหมูไม้เล็ก 1 ถุง 200 ไม้
  • ลูกชิ้นเอ็นหมูไม้เล็ก 1 ถุง 200 ไม้
  • ลูกชิ้นหมูไม้ใหญ่ 1ถุง 100 ไม้
  • ไส้กรอกหมูรมควันหนังกรอบ 1 กก.
  • ไส้กรอกนม 1 กก.
  • ไส้กรอกเยอรมัน 1 กก.
  • น้ำจิ้มทิพย์สามรส 3 ถุง
  • น้ำจิ้มแจ่ว 1 ถุง

ภาพจาก www.facebook.com/lookchinthip/

มาประมาณการรายได้จากการขายลูกชิ้นทิพย์ ชุด Combo Set ราคา 3,290 บาท ถ้าหากเราขายสินค้าเหล่านี้หมด เราจะสามารถคืนทุนได้ทันที 4,400 บาท นั่นก็เท่ากับว่าเมื่อนำมาหักจากทุนเริ่มต้น 3,290 บาท ก็จะมีกำไร 1,110 บาท แต่เราจะขายหมดเร็วหรทิไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับทำเลและลูกค้าด้วย

มาดูกันที่ปัจจัยความสำเร็จของการเปิดร้านขายลูกชิ้นปิ้ง ไม่เฉพาะลูกชิ้นทิพย์เท่านั้นนะคับ อย่างแรกก็คือ

  • สินค้า วัตถุดิบ นั่นก็คือ ลูกชิ้น ต้องอร่อย สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย ไม่ผสมแป้ง ไม่สารกันบูด
  • น้ำจิ้ม อีกองค์ประกอบในการลุกชิ้นปิ้ง ต้องอร่อยเช่นเดียวกัน มีให้เลือกหลายรสชาติ เปรี้ยว หวาน
  • ทำเล หน้าร้าน อาจจะขายหน้าบ้าน หน้านร้านของตัวเอง หรือรถมอเตอร์ไซค์พ่วง ที่จะสามารถเข้าไปถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ส่าจะหน้าโรงงาน ปั้มน้ำมัน โรงเรียน ตลาดนัด เป็นต้น
  • สุดท้ายก็อย่าลืมใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ จะเปิดร้าน หรือปิดร้าน ก็ควรที่จะบอกลูกค้าประจำให้ทราบบ้าง

ใครมีความคิดเห็นกันอย่างไร หรือคนที่ขายลูกชิ้นปิ้งอยู่แล้ว สามารถแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ได้ทราบกันบ้างครับ

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter  

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187

ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช