เทคนิคสร้างตัวตน ขายของให้ปัง ยอดขายพุ่ง ใน TikTok

พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของกิจการเอสเอ็มอี หรือใครๆ ที่อยากทำการตลาดออนไลน์ ขายของให้ปัง นำเสนอคอนเทนต์ให้ปังทำให้คนอยากซื้อสินค้า รวมไปถึงคนที่อยากสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ควรพลาดเนื้อหาที่จะนำเสนอในคอนเทนต์นี้ เป็นเทคนิคที่ได้มาจาก “คุณแอ๊ม-ศรัณย์ แบ่งกุศลจิต” เจ้าของช่อง TikTok “การตลาดการเตลิด” ที่มีคนติดตามมากกว่า 347,500 คน

ขายของให้ปัง

คุณแอ๊ม-ศรัณย์ เปิดเผยว่า เทรนด์การตลาดออนไลน์ในปี 2025 จะเป็นคลิปวิดีสั้นประมาณ 1 นาที โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม TikTok จะเป็นตัวแม่ของวิดีโอสั้น เพราะทุกคนสามารถถ่ายคลิปได้ โปรแกรม TikTok ใช้งานง่าย ที่สำคัญ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เราสามารถเห็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้ติดตามได้ เพราะถ้าคอนเทนต์ดี TikTok ก็ส่งให้เห็นได้

ขายของให้ปัง
ภาพจาก www.facebook.com/marketinglgbtq

ในส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่อยากนำเสนอคอนเทนต์คนอยากซื้อสินค้า คุณแอ๊ม บอกว่า ควรนำเสนอคอนเทนต์ที่ทำให้คนรู้สึกว่าใช้สินค้าของเราแล้ว ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น สินค้าตอบโจทย์ ถ้าใครขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม อาหารเสริมคุมน้ำหนัก ควรจะเป็นคนหุ่นดีๆ หน้าตาดี จะทำให้คนดูอยากซื้อสินค้าที่นำเสนอขึ้นมาทันที เพราะเขาเห็นผลลัพธ์ที่จะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น

ขายของให้ปัง
ภาพจาก www.facebook.com/marketinglgbtq

สำหรับเคล็ดลับดึงดูดให้คนดูหรือกดซื้อสินค้า กรณีพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ไลฟ์ขายของแล้วไม่มีคนดู เข้ามาแป๊บเดียวก็ออกไป คุณแอ๊ม บอกว่า ต้องพูดไปเรื่อยๆ อย่าหยุด แต่ต้องพูดให้มีสาระ คือ หาเรื่องมาเล่าให้ได้เรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้คนดูอยากมีส่วนร่วม พูดไม่ติดขัด ตะกุกตะกัก พูดจาไหลลื่น จนสามารถกลับมาเข้าประเด็นขายของได้

ขายของให้ปัง
ภาพจาก www.facebook.com/marketinglgbtq

ถ้าเป็นกลุ่มคนสาย Introvert ไม่อยากออกหน้ากล้อง ก็อาจจะหันไปทำคลิปวิดีโอจะดีกว่า เช่น ทำอาหาร วาดการ์ตูน ร้องเพลง เล่นดนตรี ปลูกต้นไม้ โดยถ่ายให้เห็นแค่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งที่กำลังทำคอนเทนต์ การทำคลิปแแบบไม่เห็นหน้าภาพแสงสีเสียงต้องชัดเจน อุปกรณ์ฉากประกอบต้องไม่รก เพื่อให้คนดูออกว่านำเสนอคอนเทนต์อะไร เสียงพากย์ควรมีเอกลักษณ์

แต่ถ้าใครอยากไลฟ์จริงๆ ลองฝึกพูดหน้ากล้องตามสคริปท์บ่อยๆ ทุกวัน แล้วลองไลฟ์สดๆ ลองขอฟิดแบ็คจากคนดูว่าการไลฟ์เป็นอย่างไรบ้าง จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขในการไลฟ์ครั้งต่อไปได้ หรืออาจจะทำคลิปในสิ่งที่ตัวเองถนัด เช่น แต่งตัว ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ และอื่นๆ ถ้าทำคลิปที่ตัวเองถนัดแล้วจะทำให้ไม่รู้สึกเคอะเขินเวลาออกหน้ากล้อง

ขายของให้ปัง
ภาพจาก www.facebook.com/marketinglgbtq

สำหรับเทคนิคการไลฟ์ขายของให้คนอยากซื้อ คุณแอ๊ม บอกว่า

  1. ต้องทำให้คนดูรู้ว่าขายสินค้าอะไร
  2. ดูเทคนิคการพูด การเล่าของคนดังๆ แล้วนำปรับปรุงให้ดีกว่าทุกด้าน
  3. ชูให้เห็นว่าสินค้าแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างไร ทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นอย่างไร
  4. อย่าขายแต่ฟังก์ชั่น ให้เล่าสตอรี่ของสินค้าด้วย คนดูอยากรู้แหล่งที่มาของสินค้า ยิ่งหาซื้อได้ที่เดียว คนยิ่งอยากซื้อ
  5. เลือกสินค้าให้เหมาะกับการไลฟ์ สามารถตั้งโชว์ได้ เช่น อาหาร คนจะชอบ ทอดโชว์แบบสดๆ กินให้ดูด้วย
  6. โปรดักชั่นต้องดี ภาพ แสง สี เสียง
  7. อยากขายของได้ ต้องทำต่อเนื่อง อย่าท้อ ค่อยๆ หาจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของตัวเองที่คนทำไม่ได้

คุณแอ๊ม กล่าวทิ้งทาย การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ต้องทำไปเรื่อยๆ จนกว่าคนดูจะเห็นว่าคุณเป็นอย่างนั้น เช่น เป็นคนตลก เป็นคนกินเก่ง ต้องกินไปเรื่อยๆ ทำคลิปต่อเนื่องเป็นปีๆ เพราะการสร้างตัวตนให้คนจดจำและติดตาม ไม่ใช่ว่าเราจะทำแค่อาทิตย์เดียวแล้วสำเร็จ มันต้องทำอย่างต่อเนื่อง จนคนเชื่อจริงๆ ว่าคุณเป็นแบบนั้น 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช