เงินก็น้อย งานก็หายาก ปี 2565 ควรทำอะไรดี

ก้าวสู่ปี 2565 แต่ปัญหาระดับประเทศที่เราต้องเจอในตอนนี้การแพร่ระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงต่อเนื่อง ไหนจะปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ของแพง รายได้เท่าเดิม กลายเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าต้องประหยัดมากขึ้น การจะเลือกลงทุนอะไรก็ต้องคิดว่าคุ้มค่ามากที่สุด

www.ThaiSMEsCenter.com เข้าใจความต้องการของส่วนใหญ่ที่ต้องการหาอะไรก็ได้ที่จะทำแล้วมีรายได้ไม่ต้องลงทุนมาก ลองมาดูสิ่งที่เราได้รวบรวมมาน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนส่วนใหญ่ในปี 2565 นี้ได้

ภาระรายได้กับรายจ่ายของคนไทยในปี 2565 เป็นอย่างไร

เงินก็น้อย งานก็หายาก

จากข้อมูลพบว่าในปี 2564 คนไทยมีหนี้สินเฉลี่ย เฉลี่ย 6.8 แสนบาท โดย 16% มีหนี้สินเพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิดและในปี 2565 ก็เชื่อว่าตัวเลขหนี้สินนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอีก หากคำนวณย่อยลงไปอีกจะพบว่าภาระหนี้ที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนมีสัดส่วน 42.8% คิดง่ายๆ ว่าถ้ามีเงิน 100 บาท ต้องจ่ายหนี้ 42.8 บาท เหลือเงินใช้และเงินออม 57.2 บาทเท่านั้นและหากมีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท การใช้จ่ายไม่ให้เกิน 50% ของรายได้ เท่ากับสามารถรองรับค่าอาหาร ค่าเดินทางด้วยรถสาธารณะ และค่าเช่าบ้านหลักพันต้นๆ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ชีวิตคนเดียวได้เท่านั้น

ส่วนตัวเลขในภาคแรงงานก็น่าสนใจไม่แพ้กันพบว่าตัวเลขแรงงานในระบบประกันสังคมจำนวน 11.07 ล้านคน ลดลงจากก่อนที่โควิดระบาดซึ่งมีจำนวนแรงงานในระบบ 11.54 ล้านคน แรงงานในส่วนนี้ลดลงกว่า 4.63 แสนคนหรือลดลงประมาณ 4.01%

เงินก็น้อย งานก็หายาก ปี 2565 ควรทำอะไรดี

เมื่อปัญหาใหญ่ของเราคือเงินทุนไม่มี งานหายาก ก็ต้องมาแก้ปัญหาไปทีละประเด็น และถ้ามีการวางแผนเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าการแก้ปัญหาก็จะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราคิดว่าควรทำในปี 2565 นี้ได้แก่

1.หางานที่ตรงกับความต้องการของตลาด

เงินก็น้อย งานก็หายาก

ภาพจาก www.freepik.com

แม้งานจะหายากแต่ก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้เลย การเลือกเรียนให้ตรงกับสายงานที่มีความต้องการคือสิ่งสำคัญที่ควรวางแผนไว้แต่เนิ่นๆ งานที่ตลาดมีความต้องการส่วนใหญ่ยังมีน้อย เพราะงานเหล่านี้อาจต้องใช้ทักษะและความสามารถเป็นพิเศษ แต่หากเราได้ทำในตำแหน่งเหล่านี้เงินเดือนดีและมีโอกาสก้าวหน้าได้มาก เช่น นักการตลาดดิจิทัล , ที่ปรึกษาด้านการเงินและบัญชี, โปรแกรมเมอร์ , คอมพิวเตอร์กราฟฟิค , วิศวกรคอมพิวเตอร์ , วิศวกรก่อสร้างและไฟฟ้า , แพทย์และพยาบาล , เป็นต้น

2.เปิดร้านธุรกิจยาและอาหารเสริม

เงินก็น้อย งานก็หายาก

ภาพจาก www.freepik.com

นับแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องมาถึงในปีนี้ ธุรกิจยาและอาหารเสริมคือเทรนด์ลงทุมาแรงที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ก็มีปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ดีการลงทุนในธุรกิจนี้จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง มีการใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่เชื่อได้ว่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

3.ขายของออนไลน์

เงินก็น้อย งานก็หายาก

ภาพจาก www.freepik.com

คนที่มีทุนน้อย ตกงานหรือไม่มีงานทำวิธีที่หารายได้ง่ายที่สุดคือการขายของออนไลน์ซึ่งก็มีตัวอย่างของหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งแนวโน้มของตลาดอีคอมเมิร์ซ มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการตลาดเติบโตแบบก้าวกระโดดและคาดว่าในปี 2565 ก็ยังโตมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะประสบความสำเร็จได้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องเจอคู่แข่งจำนวนมาก ดังนั้นเรื่องของไอเดียการตลาด การหาจุดเด่น จุดขายของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

4.อาชีพไรเดอร์

13

ภาพจาก www.freepik.com

ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโตสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อาชีพไรเดอร์กลายเป็นอาชีพที่น่าสนใจเพราะใช้เงินลงทุนน้อย มีมอเตอร์ไซด์คันเดียวก็สามารถสมัครตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นไรเดอร์เพิ่มมากขึ้น โดยรายได้ของไรเดอร์ถือว่าน่าสนใจ แต่คนที่สนใจทำอาชีพนี้ก็ต้องรู้จักเทคนิคในการหารายได้ และต้องมีความชำนาญในการขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงต้องมีใจรักในงานบริการด้วย

5.ธุรกิจขายประกัน

12

ภาพจาก www.freepik.com

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคนไทยต้องเผชิญการแพร่ระบาดโควิด 19 เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ ธุรกิจขายประกันจึงเติบโตอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากแผนประกันต่าง ๆที่ออกมาตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งตัวแทนขายประกันได้รับอานิสงฆ์นี้แต่การขายประกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน เพราะเราต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ไว้ใจ และเชื่อมั่นในประกันที่จะซื้อ สำหรับนักขายที่มีประสบการณ์สามารถทำยอดขายได้ดีและมีรายได้ที่น่าสนใจมาก

6.อาชีพอิสระ

11

ภาพจาก www.freepik.com

การก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบทำให้หลายคนเลือกทำอาชีพอิสระ เพราะใช้เงินทุนน้อย และไม่ต้องอยู่ในกรอบธรรมเนียม แต่อาชีพอิสระก็ใช่จะสำเร็จกันได้ง่าย ต้องอาศัยทักษะ ความขยัน ตั้งใจทำจริง และต้องมีไอเดียในการหารายได้ ซึ่งปัจจุบันอาชีพอิสระมีให้เลือกหลายรูปแบบเช่น blogger , reviewer , youtuber , แอดมินแพจ , ฟรีแลนด์ ต่างๆ เป็นต้น

7.เลือกลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

10

สำหรับคนที่มีเงินทุนน้อย และไม่รู้จะเริ่มต้นอาชีพแบบไหนอย่างไร เส้นทางลัดที่ดีที่สุดคือเลือกลงทุนแฟรนไชส์ที่มีข้อดีคือไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ มีแพคเกจลงทุนให้เลือกหลายแบบ มีราคาให้เลือกตามความเหมาะสม มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา มีอุปกรณ์ในการเปิดร้านพร้อมวัตถุดิบ คนสนใจสามารถเลือกแฟรนไชส์ที่ปัจจุบันมีจำนวนมาก โดยอาจเริ่มจากเงินลงทุนน้อยๆ และเมื่อขายดีค่อยขยายกิจการให้เติบโตมากขึ้นได้

ซึ่งแนวทางเหล่านี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้รวบรวมมา บางอย่างก็ยังต้องใช้เงินทุนอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมแล้วไม่ว่าจะคิดทำอะไรก็ตาม ต้องพยายามหาจุดเด่น หาความแตกต่าง เพิ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดเข้าไปให้มากขึ้น เพราะยุคนี้คู่แข่งมีมาก เราต้องเข้าหาลูกค้ามากกว่ารอให้ลูกค้ามาหาเรา เหนือสิ่งอื่นใดต้องพยายามตามกระแสเทคโนโลยีให้ทัน รู้จักพลิกแพลงในการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส แม้จะมีเงินทุนน้อยก็อาจจะกลายเป็นเศรษฐีในปี 2565 นี้ได้

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3eWjPVQ , https://bit.ly/31yHkBn , https://bit.ly/32OaJYZ , https://bit.ly/3HCqWio

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3tlZcJy

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

 

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด