เคล็ดไม่ลับ! ทำธุรกิจรวยรับ ตรุษจีน 2568

ตรุษจีน 2568 ตรงกับวันที่ 29 มกราคม คาดการณ์ว่าราคาเครื่องเซ่นไหว้ในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4% ซึ่งนับเฉพาะในกรุงเทพฯมีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่ประมาณ 2 ล้านคน++ ภาพรวมจริงๆของตรุษจีนปีนี้ก็คาดว่าจะคึกคักแต่จะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายของแต่ละครอบครัวมากขึ้น ตามปัจจัยค่าครองชีพที่สูงขึ้นในทุกด้าน

และแน่นอนว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลบรรดาร้านค้าหรือธุรกิจต่างๆ ก็หวังใช้กระแสแห่งเทศกาลนี้ในการเพิ่มยอดขาย หรือเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น หากวิเคราะห์เบื้องต้นคาดว่าสินค้าที่จะขายดีในเทศกาลตรุษจีนได้แก่

  • ผักและผลไม้ 22.2%
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 20.5%
  • เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร 11.7%
  • ของใช้ในบ้าน 8.6%
  • เนื้อสัตว์และอาหารทะเล 9.4%

ตรุษจีน 2568

ถ้าดูจากผลสำรวจให้ลึกลงไปอีกในเรื่องข้อมูลการใช้จ่ายช่วงตรุษจีนปีนี้คาดการณ์ดังนี้

  • 53% ซื้อของใช้ในบ้าน
  • 50% คนกรุงเทพสนใจสิทธิ์ E-Receipt
  • 50% ซื้อเครื่องเซ่นไหว้
  • 41% ซื้ออาหารสำเร็จรูป

แต่ตัวเลขเชิงปริมาณเหล่านี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามองเห็นภาพการจับจ่าย สิ่งที่ผู้ประกอบการสนใจมากกว่าคือจะทำอย่างไรให้คนหันมาซื้อสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจมากที่สุด

1. สร้างบรรยากาศในธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน

ตรุษจีน 2568

การสร้างแบรนด์ สินค้าและบริการให้เชื่อมโยงกับเทศกาลตรุษจีนเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น แต่งร้านโทนสีแดง ,การแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้า หรือการปรับแพ็กเกจจิ้งให้เป็นธีมตรุษจีน สินค้าที่ปรับตัวสอดรับกับกระแสแม้ไม่ได้สร้างยอดขายในระยะยาวได้แต่ก็ทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและบริการเราได้มากขึ้น มีผลต่อการเพิ่มฐานลูกค้าในอนาคตได้

2.จัดโปรมหาเฮงรับเทศกาลตรุษจีน

ธีมตรุษจีนเป็นช่วงเวลาแห่งความศิริมงคล การที่แบรนด์ออกมาจัดโปรให้สอดคล้องกับเทศกาลแห่งความสุขนี้ สามารถกระตุ้นยอดขาย หรือสร้างสีสันได้แน่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าโปรที่นำเสนอน่าสนใจแค่ไหน และมีการตลาดที่สื่อไปยังกลุ่มลูกค้าได้มากน้อยอย่างไรด้วย มีหลายโปรโมชันน่าสนใจเช่น “ซื้อของเป็นเซต คุ้มค่าถูกกว่า” หรือ “ลุ้นรับอั่งเปาฟรี เมื่อซื้อสินค้าครบ xx บาท” เป็นต้น

3. พัฒนาระบบบริหารจัดการร้านให้ทันสมัย

ไม่ใช่แค่เรื่องบรรยากาศร้านหรือการจัดโปรเท่านั้น วิธีการสร้างยอดขายในระยะยาวต้องอยู่ที่ระบบบริหารจัดการด้วย เช่น ระบบจองออนไลน์ได้เองทันที เช็ควัน-เวลา ที่ต้องการได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง , การใช้ E-coupon ที่สามารถส่งโปรโมชันในช่วงเทศกาลพิเศษให้ลูกค้าได้ตลอดเป็นต้น

ตัวอย่างของแบรนด์ที่ใช้กระแสเทศกาลตรุษจีนมาสร้างยอดขายมีหลายธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น

  • MK Restaurants ที่เปลี่ยนชื่อร้านชั่วคราวกลายเป็น “MongKol” Restaurants รวมถึงมีเมนูมงคล เช่น ชุดมังกรมงคล (ชุดหมูและชุดเนื้อ) , ชุดเป็น MK ให้บริการภายในร้านด้วย
ภาพจาก www.facebook.com/mkrestaurants
  • KFC สิงคโปร์สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการจับมือกับแบรนดสัญชาติญี่ปุ่น Mofusand เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษต้อนรับเทศกาลตรุษจีน
ภาพจาก https://bit.ly/4aAqZuO
  • กูร์เมต์ มาร์ เปลี่ยนรูปแบบสินค้าภายในร้านต้อนรับเทศกาลตรุษจีนให้สามารถซื้อเป็นชิ้นได้แทนการซื้อแบบเป็นเซ็ท เอาใจลูกค้ายุคใหม่มากขึ้น
  • โลตัสห้างค้าปลีกก็จัดแจกไม่อั้นรับเฮง 2 ต่อ! ทั้งสติ๊กเกอร์มงคล (เพียงเป็นเพื่อนผ่านไลน์) และซื้อสินค้าที่ร่วมรายการครบ 200 บาทรับคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จมูลค่า 50 บาททันที
  • บิ๊กซี จัดแคมเปญ “ตรุษจีนเฮง เฮง รับปีมะเส็ง นำสินค้ากว่า 1,000 รายการ ลดราคาสูงสุด 50%
  • แบรนด์รังนกแท้ ร่วมกับ ชาตรามือ เปิดตัวเมนูใหม่ “ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้รังนกแท้” เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้โดยเฉพาะ
ภาพจาก www.facebook.com/ChaTraMue

การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันสูงมาก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คือปัจจัยที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องปรับตัว กระแสของเทศกาลก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวและเป็นโอกาสทำให้คนได้รู้จักแบรนด์สินค้าหรือสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้ด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด