อีก 2 ปีข้างหน้า ควรเลือกลงทุนอะไรดี!
หลังผ่านเทศกาลแห่งความสุขจากนี้เป็นการก้าวเข้าสู่ปี 2565 อย่างแท้จริง ในปีนี้คาดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจหลายอย่าง และเป็นปีที่เชื่อว่าคือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของใครหลายคน การเลือกสร้างธุรกิจของตัวเองเป็นเป้าหมายในปี 2565 ที่คนส่วนใหญ่คิดไว้
แต่ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าก่อนจะเลือกลงทุนใดๆ ควรรู้ทิศทางและแนวโน้มที่กำลังจะเกิดในปี 2565 เพื่อให้การเลือกลงทุนนั้นตรงจุดตรงใจและได้ประโยชน์มากที่สุด ลองมาดูกันว่าในปี 2565 นี้จะมีธุรกิจประเภทไหนที่น่าสนใจบ้างและ ควรเลือกลงทุนอะไรดี
1.ลงทุนในธุรกิจอาหาร
การแพร่ระบาดของโควิดทำให้การลงทุนในร้านอาหารแม้จะน่าสนใจแต่ก็ต้องมีการปรับรูปแบบพอสมควรเห็นได้ชัดว่ายอดขายช่วงเย็นที่เคยเป็นรายได้หลักของร้านอาหารกว่า 60% เพราะมีเวลานั่งกินอาหาร พูดคุยกับเพื่อนๆ ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่มื้อกลางวันกลับเพิ่มขึ้น รวมไปถึงควรมีการพัฒนาเมนูในร้านอาหารที่เน้นประโยชน์ เสริมภูมิต้านทาน แจกแจงคุณประโยชน์ว่ามีวิตามินบี ซี ดี ที่เชื่อว่าเพิ่มภูมิต้านทานได้ก็เน้นให้เห็นชัดเจน ลูกค้าก็พร้อมเปิดใจ เลือกหยิบมากกว่าอาหารเพื่อความอร่อยอย่างเดียว ไม่นับรวมเรื่องความสะอาด มาตรการป้องกันต่างๆ ที่ร้านอาหารควรเตรียมไว้ให้กับลูกค้าเพื่อให้สบายใจมากที่สุด
2.ลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์
ภาครัฐได้ส่งเสริมให้คนไทยหันมาลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น เพราะข้อดีของการลงทุนในแฟรนไชส์คือมีระบบบริหารจัดการที่พร้อมให้ผู้ลงทุนไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ และปัจจุบันแต่ละแฟรนไชส์มีแพคเกจการลงทุนให้เลือกหลากหลาย ไม่นับรวมการที่ภาครัฐส่งเสริมให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้กับผู้สนใจนำมาลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งทุกวันนี้มีแฟรนไชส์ให้เลือกมากมายครบทุกความต้องการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม บริการ การศึกษา ค้าปลีก และแม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดในช่วงที่ผ่านมาทำให้การเติบโตของสาขาแฟรนไชส์อาจชะลอตัวไปบ้าง แต่นับจากนี้ที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนเชื่อว่าการขยายสาขาแฟรนไชส์จะเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น
3.ลงทุนในธุรกิจร้านสารพัดบริการ
ในยุคออนไลน์แบบนี้คนไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปชัดเจน ผสมผสานกับช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดโควิดในช่วงที่ผ่านมา สนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้งานร้านสารพัดบริการมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในแบบแฟรนไชส์ให้เลือกได้หลากหลาย จุดเด่นของร้านสารพัดบริการคือง่าย จบ ครบทุกบริการ ทั้งงานไปรษณีย์ ชำระบิล จ่ายค่าสินค้าต่างๆ เป็นต้น ไม่รวมถึงปัจจุบันทีมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มจำนวนมาก ซึ่งการลงทุนในร้านสารพัดบริการจะตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดี
4.ลงทุนธุรกิจอาหารแปรรูป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยข้อมูลขึ้นเว็บไซต์ว่า โควิดกระตุ้นอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารสร้างโรงงานแบบลดการใช้คนมากขึ้น แม้ว่าอนาคตอาจจะลดจำนวนคนในโรงงานลง แต่การผลิตอาหารก็ต้องผลิตให้สอดคล้องกับระดับความต้องการของผู้บริโภค และการทำอาหารแปรรูปเพื่อยืดอายุจัดเก็บ ก็จำเป็นสำหรับอนาคตที่คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะมีโรคระบาดแบบไหนมาอีก
5.ลงทุนในธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร
ภาพจาก www.freepik.com
ต่อจากนี้พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่จะหันมาพึ่งพาโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก ราวกับเป็นปัจจัยที่ 5 ที่เราต้องมี ซึ่งแน่นอนว่าการทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารจะตอบโจทย์ได้อย่างดี ยิ่งมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เนต มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้อุปกรณ์สื่อสารเสื่อมอายุการใช้งานไปเรื่อยๆ รวมถึงอุปกรณ์ไอทีถูกนำมาใช้กับการเรียนออนไลน์ มีความต้องการใช้สูงในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาอีกด้วย
6.ทำคอร์สเรียนออนไลน์
ภาพจาก www.freepik.com
ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้การเดินทางไปรวมกลุ่ม รวมตัว ฝึกอบรมหรือเข้าเรียนเป็นเรื่องยากขึ้น ที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยเห็นแพลตฟอร์มการสอนออนไลน์เพิ่มขึ้น และแม้จากนี้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ก็เริ่มติดใจการเรียนแบบออนไลน์ ดังนั้นผู้ที่มีความสามารถหลายด้านสามารถใช้โอกาสนี้มาเปิดคอร์สสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เช่น เปิดกลุ่มออนไลน์ เพื่อขายคอร์สเรียนออนไลน์ สอนภาษาอังกฤษ สอนเทคนิคการลงทุน ต่าง ๆที่เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก
7.ลงทุนธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ
ภาพจาก www.freepik.com
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้คนจึงหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นเพื่อที่จะได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ซึ่งธุรกิจเพื่อสุขภาพที่น่าลงทุนหลังโควิควรเป็นธุรกิจประเภท อาหารเสริม, อาหารคลีน ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายแบรนด์ที่เริ่มจับเทรนด์เพื่อสุขภาพเหล่านี้และผลิตสินค้าออกมาวางจำหน่ายและเชื่อว่าต่อจากนี้จะยิ่งมีการแข่งขันที่มากยิ่งขึ้น
8.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ
ก่อนที่จะมีการระบาดของโควิดเทรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ก็ถือว่า กำลังเป็นกระแส พอมีการระบาดของโควิดทำให้คนยิ่งหันมาสนใจ และใส่ใจการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น เช่น การจำหน่ายอาหารเสริม อาหารเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ออกกำลังกาย อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคติดต่อ บริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุต่าง ๆ รวมไปถึงคอร์สออกกำลังกาย ประกันสุขภาพ และบริการออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพต่าง ๆ
9.บริการจัดส่งอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่
ภาพจาก www.freepik.com
ก่อนช่วงการระบาดของโควิดการให้บริการเดลิเวอรี่ก็มีการพูดถึงมาก แต่พอมีการแพร่ระบาดยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ธุรกิจเดลิเวอรี่เฟื่องฟูถึงขีดสุด ซึ่งข้อดีของธุรกิจประเภทนี้คือ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านที่ให้ลูกค้าเข้ามานั่งทานอาหาร ขอเพียงมีหน้าร้านออนไลน์ และรู้จักวิธีการทำการตลาดออนไลน์ ดังนั้น ธุรกิจการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่ จึงมีความน่าสนใจมากและคาดว่านับจากนี้จะยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
10.ลงทุนในธุรกิจรับทำการตลาดออนไลน์
ภาพจาก www.freepik.com
ใครที่มีทักษะมีความสามารถด้านการตลาดออนไลน์ต่อจากนี้จะเป็นยุคทองที่เฟื่องฟูมาก เพราะจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมาทำให้ตลาดออนไลน์เติบโตชัดเจน บางธุรกิจเน้นทำตลาดออนไลน์มากกว่าออฟไลน์กันเลยทีเดียว เพราะมองเห็นในประสิทธิภาพของตลาดออนไลน์ว่าเพิ่มยอดขายได้อย่างมีคุณภาพ หากเรามีความรู้เราสามารถที่จะรับเป็นที่ปรึกษา หรือทำการตลาดให้กับธุรกิจที่มีความต้องการขยายตลาดด้านนี้ซึ่งจะสร้างรายได้ที่ดีให้กับเราอย่างมาก
สถานการณ์นับจากนี้ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่หายไปในทีเดียว เพียงแต่มีความพยายามที่จะต้องอยู่ร่วมกับการแพร่ระบาดนี้ให้ได้ จึงเป็นที่มาของความพยายามเปิดประเทศและการคลายล็อคต่างๆ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีหากสถานการณ์ไม่มีอะไรเลวร้าย แต่ในฐานะคนทำธุรกิจก็ควรมีแผนสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3INQvhr
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)