หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee)

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ หรือ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ แรกเข้า ก็คือ Franchise Fee เหมือนกัน แล้วแต่ใครจะเรียก แต่ถ้าถามว่ามีใครรู้บ้างว่า “ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์” มีความสำคัญอย่างไร

มี หลักเกณฑ์คิด ออกมาเป็นจำนวนเงินที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องจ่ายให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ก่อนทำธุรกิจอย่างไร และทำไมต้องเก็บค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เพื่ออะไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบครับ

1.ค่าให้ใช้เครื่องหมายการค้า

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

เป็นหัวใจสำคัญของการทำแฟรนไชส์ เพราะหากธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้านั้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีชื่อเสียงโด่งดัง จนดึงดูดให้มีผู้คนมาซื้อแฟรนไชส์ หรืออยากใช้เครื่องหมายการค้านั้นด้วย แต่ก่อนที่เครื่องหมายการค้าจะเป็นที่รู้จักของผู้คน เจ้าของแฟรนไชส์ต้องผ่านการลองผิดลองถูก ทุ่มเทแรงกายแรงใจ รวมถึงเงินทุนสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ยกตัวอย่างแฟรนไชส์ 7-Eleven เอ่ยชื่อนี้คนก็รู้จักและอยากซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก ทำให้ค่าแฟรนไชส์สูงถึงหลักล้าน

รับจดเครื่องหมายการค้า

สำหรับธุรกิจไหนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนการค้าแนะนำให้จดเครื่องหมายการค้าก่อนท่านใดสนใจคลิก https://bit.ly/33oGXK4

2.ค่า Know how ค่าใช้จ่าย

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

รู้หรือไม่ว่ากว่าที่ KFC จะเป็นแฟรนไชส์ไก่ทอดที่มีชื่อเสียงก้องโลก ผู้พันแซนเดอร์ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ รวมถึงทุ่มเทเวลาเกือบทั้งชีวิตสร้างแบรนด์ไก่ทอดสัญชาติอเมริกาให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ผู้พันแซนเดอร์ต้องใช้ฝีมือในการทำอาหารปรุงแต่งรสชาติไก่ทอดให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านความล้มเหลว ผ่านอุปสรรคต่างๆ นานา สิ่งเหล่านี้ถือเป็นองค์ความรู้และประสบการณ์ของผู้พันแซนเดอร์สร้างขึ้น เพื่อถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ดังนั้น ค่าแฟรนไชส์จึงแฝงรวมอยู่ด้วย

3.ค่าฝึกอบรมผู้ซื้อแฟรนไชส์

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

การฝึกอบรมผู้ซื้อแฟรนไชส์ทั้งในบริษัทแฟรนไชส์ รวมถึงร้านสาขาของผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางของทีมงานแฟรนไชส์ ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเอกสาร และอื่นๆ รวมถึงการจัดทำคู่มือปฏิบัติการแฟรนไชส์อย่างสวยงาม ทำเป็นแผ่นซีดี หรือหน้าปกทองสวยงาม ค่าแฟรนไชส์ส่วนหนึ่งจึงเป็นค่าตอบแทนในสิ่งเหล่านี้

4.ค่าตอบแทนในการสร้างองค์กร

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

เชื่อหรือไม่ว่าแฟรนไชส์แบรนด์ใหญ่ๆ จะคิดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จากผู้ซื้อแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven, เชสเตอร์, ธุรกิจห้าดาว, คาเฟ่ อเมซอน, อินทนิล, KFC และอื่นๆ เพราะบริษัทแฟรนไชส์เหล่านี้เป็นองค์กรใหญ่ กว่าจะสร้างองค์กรและทีมงานสนับสนุนแฟรนไชส์ขึ้นมาจนแข็งแกร่งต้องใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมาก ดังนั้น เจ้าของแฟรนไชส์ต้องรู้ว่ามีค่าใช้จ่าย ยิ่งแฟรนไชส์ซีมาก เครือข่ายใหญ่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ยิ่งมากเป็นเงาที่ทอดยาวเกินตัว เจ้าของแฟรนไชส์จึงต้องใช้เงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เพื่อเตรียมการในส่วนนี้

5.ค่าวิเคราะห์เลือกทำเลที่ตั้ง

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

ทำเลที่ตั้งเป็นหัวใจสำคัญของการเปิดร้านหรือทำธุรกิจแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ จะเห็นได้แฟรนไชส์แบรนด์ใหญ่ๆ มีชื่อเสียง มักจะกำหนดเงื่อนไขการเลือกทำเลที่ตั้งเปิดร้านไว้อย่างละเอียด ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่มีทำเลแบบที่กำหนดเอาไว้จะไม่ผ่านการพิจารณา

ตัวอย่างแฟรนไชส์กาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ทำการศึกษาวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งเปิดร้านกาแฟของตัวเอง ถ้าอยู่ในอาคาร (เช่น อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ) ต้องมีพื้นที่ขนาด 30 ตร.ม ขึ้นไป และพื้นที่ขอเปิดร้านต้องอยู่ในบริเวณที่มีคนผ่านไปมาไม่น้อยกว่า 3,000 คนต่อวัน ซึ่งหากเป็นตามนี้จะมีโอกาสสำเร็จสูง เพราะทำเลแบบเดียวกันที่เปิดในแต่ละสาขาก็สำเร็จมาแล้ว ดังนั้น การหาทำเลที่ตั้งจึงต้องอยู่ในค่าแฟรนไชส์ด้วย

6.ค่าบริหารจัดการก่อนเปิดร้าน

หลักเกณฑ์คิด ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

การบริการจัดการและเตรียมเปิดสาขาจะมีค่าใช้จ่ายของทีมงาน อย่างน้อยก่อนวันเปิดอย่างน้อย 2 วัน อาทิ ค่าเครื่องบิน ค่าวิทยากร ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าเช่ารถ ค่าฝึกอบรม รวมถึงการเตรียมการด้านเทคนิคต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่มีเครื่องไม้เครื่องมือซับซ้อนหรืออย่างน้อย ก็ต้องเตรียมไว้สำหรับการวางระบบการจัดเก็บเงินด้วยเครื่อง POS นั้น ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในส่วนของการบริหารจัดการก่อนเปิดร้านของผู้ซื้อแฟรนไชส์ ต้องคิดคำนวณในค่าแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน

นั่นคือ 6 หลักเกณฑ์ หรือค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ที่เจ้าของแฟรนไชส์จะต้องนำไปคิดคำนวณเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้าจากผู้ซื้อแฟรนไชส์ เพื่อที่จะได้นำเงินในส่วนนี้ไปพัฒนาธุรกิจและสนับสนุนเครือแฟรนไชส์ให้ติบโต

Franchise Tips

  1. ค่าให้ใช้เครื่องหมายการค้า
  2. ค่า Know how แฟรนไชส์ซอร์
  3. ค่าฝึกอบรมผู้ซื้อแฟรนไชส์
  4. ค่าตอบแทนในการสร้างองค์กร
  5. ค่าวิเคราะห์เลือกทำเลที่ตั้ง
  6. ค่าบริหารจัดการก่อนเปิดร้าน

อ้างอิงจาก https://bit.ly/311Ospv

อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช