สร้างตลาดโซเชี่ยลให้ปัง! เพิ่มยอดขายสงกรานต์ 2568

เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 มีวันหยุดยาวตั้งแต่ 12 – 16 เมษายน ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้คาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวประมาณ 26,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเที่ยวเมืองไทย 476,000 คน เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน

ในส่วนของคนทำธุรกิจเองแน่นอนว่าคาดหวังในเรื่องการสร้างรายได้ช่วงนี้มาก ซึ่ง Seasonal Marketing จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสื่อโซเชี่ยลที่มีอิทธิพลกับการสร้างยอดขายในยุคนี้มาก

ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ก็คาดว่าจะมีแคมเปญที่แข่งขันกันดุเดือดเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด หากไปดู Top 5 แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่คนไทยเลือกใช้มากที่สุด ก็คือ

  • Shopee 75%
  • LAZADA 67%
  • TikTok 51%
  • Facebook 39%
  • LINE 24%
สร้างตลาดโซเชี่ยลให้ปัง
ภาพจาก https://shopee.co.th

โดย Facebook ยังได้รับความนิยมในการเข้าถึงข้อมูลสินค้าและโฆษณาต่างๆ ประมาณ 33.4% ตามด้วย TikTok ราว 28.5% และ LINE ประมาณ 14.4% แต่ถ้าพิจารณาลึกๆลงไปจะพบว่า ตอนนี้ TikTok มาแรงมากๆ ถ้าดูข้อมูลเชิงลึกลงไปในเรื่องของการขายสินค้าพบว่า

  • 63% ของผู้ใช้ TikTok ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มมากขึ้นช่วงสงกรานต์
  • 98% ของผู้ใช้ TikTok วางแผนใช้จ่ายมากกว่าเดิม
  • 70% ของผู้ใช้ TikTok ค้นหาโปรโมชันและส่วนลดจากแบรนด์สินค้า
  • 64% ของผู้ใช้ TikTok ค้นหารีวิวและคำแนะนำผลิตภัณฑ์
  • 95% ของผู้ใช้ TikTok สนใจในการชม Livestreaming และ Live Shopping

และ 5 กลุ่มสินค้ายอดนิยมที่ผู้ใช้ TikTok ซื้อก่อนและระหว่างสงกรานต์ได้แก่

สร้างตลาดโซเชี่ยลให้ปัง
ภาพจาก www.tiktok.com
  1. อาหารและเครื่องดื่มบรรจุกล่อง
  2. บริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และการท่องเที่ยว
  3. สินค้าอุปโภค บริโภค ส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ
  4. เสื้อผ้าและเครื่องประดับ
  5. เครื่องสำอาง ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

หรือถ้าพิจารณาแยกย่อยในแต่ละหมวดสินค้าก็มีตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น

  • กลุ่มสินค้าความงามและสกินแคร์ กลุ่มอายุ 25-34 ปี เป็นกลุ่มที่มีการจับจ่ายสูงสุด โดยมากกว่า 50% วางแผนใช้จ่ายมากกว่า 3,400 บาท
  • กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มอายุ 25-34 ปี มีแผนในการใข้จ่ายสำหรับอาหาร เฉลี่ยอยู่ที่ 4,200 บาทต่อคน
  • กลุ่มการท่องเที่ยว ผู้ใช้ TikTok มีแนวโน้มที่จะใช้เวลาประมาณ 3-6 วัน เพื่อเดินทางช่วง Songkran & Summer และส่วนใหญ่เตรียมงบไว้ใช้จ่ายราว 17,000-34,000 บาท

เราจะเห็นได้ว่าพลังของโซเชี่ยลมีอิทธิพลต่อการสร้างยอดขายมาก แบรนด์ไดก็ตามที่จับจุดความต้องการลูกค้าได้ถูกต้อง เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอกาสเพิ่มยอดขายในสงกรานต์นี้ก็มีมากเช่นกัน ซึ่งกลยุทธ์ในการสร้างตลาดโซเชี่ยลให้ปัง ที่ควรนำมาใช้คือ

สร้างตลาดโซเชี่ยลให้ปัง
ภาพจาก www.tiktok.com
  1. โปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลังในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยการนำเสนอข้อเสนอที่คุ้มค่ากว่าปกติ เช่น ส่วนลดราคา ของแถม
  2. ความสะดวกและความรวดเร็วในการจัดส่ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ผู้บริโภคอาจต้องการใช้สินค้าทันที การมีช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย ขั้นตอนการสั่งซื้อที่ไม่ยุ่งยาก และตัวเลือกการจัดส่งที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ เช่น การจัดส่งด่วนและการติดตามสถานะการจัดส่ง จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจของผู้บริโภค
  3. รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ซื้อรายอื่น ข้อมูลที่ผู้บริโภคใช้ประกอบการตัดสินใจซื้ออย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มาจากประสบการณ์จริงของผู้ที่เคยซื้อสินค้าหรือใช้บริการมาก่อน
  4. เน้นการตลาดที่มีผลต่อความรู้สึกในช่วงเทศกาล การตลาดที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างความรู้สึกเชิงบวกและความผูกพันกับแบรนด์ โดยการเชื่อมโยงสินค้าหรือบริการกับบรรยากาศและอารมณ์ของเทศกาล เช่น ความสุข ความสนุกสนาน และความอบอุ่น

ทั้งนี้มีข้อมูลน่าสนใจที่ระบุอีกว่าหลังจากเห็นวิดีโอจากครีเอเตอร์ 55% ของผู้ใช้ TikTok รู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น 56% ได้รับแรงบันดาลใจให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ และ 1 ใน 3 ของผู้ใช้ TikTok ค้นหาแบรนด์อย่างตั้งใจอีกด้วย

และในสื่อโซเชี่ยลอื่นๆอย่าง Facebook , Line ต่างก็มีจุดเด่นและมีกลุ่มผู้ใช้งานอยู่จำนวนมาก การที่แบรนด์สินค้าจะเลือกพุ่งเป้าใช้สื่อโซเชี่ยลในการทำตลาดเป็นหลักก็นับว่าเป็นวิธีที่ทรงพลังในการเข้าถึงลูกค้าได้มาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการและไอเดียในการนำเสนอด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด