รู้ก่อนเจ๊ง! จุดคุ้มทุน รู้ให้จริง หาให้ได้
เจ้าของกิจการร้านค้า ร้านอาหารหลายคน ยังไม่เข้าใจในเรื่อง “ จุดคุ้มทุน ” หรือ Break-Even Point” ซึ่งมีผลต่อกำไรหรือขาดทุน จะอธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือ จำนวนของสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าต้องขายเพื่อให้มีรายได้กลับมาเท่าทุน จะทำให้ไม่ขาดทุน แต่ก็ยังไม่มีกำไรเหมือนกัน พ่อค้าแม่ค้าจะมีกำไรได้ก็ต่อเมื่อขายสินค้าหรืออาหารมากกว่าจุดคุ้มทุนนั่นเอง
“จุดคุ้มทุน” หรือ Break-Even Point” คำนวณกันอย่างไร ทำไมพ่อค้าแม่ค้าจะต้องรู้และหาให้ได้ก่อนขาย มาดูกัน
วิธีการคำนวณจุดคุ้มทุนง่ายๆ คือ
จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / (ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย)
ต้นทุนคงที่ คือ ค่าใช้จ่ายรายเดือน ในส่วนที่ไม่ขึ้นกับจำนวนการผลิต โดยมากจะเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการร้าน
- ค่าเช่าเปิดร้าน
- เงินเดือนพนักงาน
- ค่าประกัน
- ดอกเบี้ยธนาคาร
ต้นทุนผันแปร คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการผลิตสินค้าต่อ 1 ชิ้น ต้นทุนผันแปรเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายเพิ่มขึ้น และลดลงเมื่อปริมาณการผลิตหรือการขายลดลง
- ค่าวัตถุดิบ
- ค่าแรงงาน
- ค่าสาธารณูปโภค
- ค่าบรรจุภัณฑ์
- ค่าขนส่งและจัดส่ง
- ค่าคอมมิชชั่นในการขาย
ยกตัวอย่าง…การหาจุดคุ้มทุน
1. ร้านขายรองเท้ามือสอง
- มีต้นทุนคงที่ 15,000 บาท/เดือน
- มีต้นทุนผันแปรคู่ละ 100 บาท
- ราคาขายรองเท้าคู่ละ 350 บาท
- จะได้จุดคุ้มทุน 15,000 / (350 – 100) = 60 คู่
หมายความว่าร้านขายรองเท้ามือสอง ต้องขายรองเท้าให้ได้ 60 คู่ต่อเดือน ถึงจะคุ้มทุน ถ้าขายมากกว่า 60 คู่ ถึงจะมีกำไร
2. ร้านขายอาหารตามสั่ง
- มีต้นทุนคงที่ 10,000 บาท/เดือน
- มีต้นทุนผันแปรจานละ 20 บาท
- ราคาขายข้าวจานละ 50 บาท
- จะได้จุดคุ้มทุน 10,000 / (50 – 20) = 333 จาน/เดือน
นั่นแสดงให้เห็นว่า ร้านขายอาหารตามสั่งจะต้องขายให้ได้ 333 จาน/เดือน ถ้าขายได้น้อยกว่านี้ ถือว่าขาดทุน ขณะเดียวกัน เราสามารถลดจุดคุ้มทุนให้ต่ำลงจะทำให้ร้านสามารถคืนทุนและมีกำไรเร็วขึ้น โดยผลิตและยอดขายน้อยลง จากสูตรการคำนวณร้านขายอาหารตามสั่ง การลดจุดคุ้มทุนทำได้หลายวิธี เช่น การลดต้นทุนคงที่ ลดต้นทุนผันแปร หรือเพิ่มราคาขายต่อจาน/ต่อชิ้น
จากตัวอย่างร้านขายอาหารตามสั่ง ถ้าต้องการลดจุดคุ้มทุนลง อาจปรับเปลี่ยนวิธี ดังนี้
1.ลดต้นทุนคงที่
เปลี่ยนจากการเช่าที่คนอื่น มาเปิดหน้าบ้านตัวเอง ต้นทุนคงที่อาจลดลง 5,000 บาท
จะได้จุดคุ้มทุน 5,000/(50-20) = 166 จาน/เดือน
2. ลดต้นทุนผันแปร
ซื้อวัตถุดิบจากแหล่งราคาถูกลง เหลือต้นทุนจานละ 15 บาท
จะได้จุดคุ้มทุน = 5,000 / (50-15) = 143 จาน/เดือน
3. เพิ่มราคาขาย
ตัวอย่างร้านอาหารตามสั่ง ถ้าไปเช่าที่เปิดร้านแบบเดิม 10,000 บาท/เดือน พ่อค้าแม่ค้าสามารถปรับราคาขายอาหารตามสั่งต่อจานเพิ่มได้ จากเดิมขาย 50 บาท/จาน ก็ปรับขึ้น 70 บาท ถึงจะได้กำไร แต่ต้องดูทำเลที่ตั้งและฐานะผู้บริโภคด้วยหรืออีกกรณีหนึ่งในการหาจุดคุ้มทุน พ่อค้าแม่ค้าสามารถหาราคาขายอาหารตามสั่งต่อจานขั้นต่ำ ด้วยการแปลงสมการคำนวณหาจุดคุ้มทุน คือ
ราคาขาย = (ต้นทุนคงที่ / จำนวนอาหารและยอดขาย) + ต้นทุนแปรผันต่อจาน
#สมมติร้านอาหารตามสั่งทำอาหารได้ประมาณเดือนละ 400 จาน
จะได้ราคาขายอาหารต่อจาน (10,000 / 400) + 20 = 45 บาทขึ้นไป ถึงจะไม่ขาดทุน
นั่นคือ “ จุดคุ้มทุน ” หรือ Break-Even Point” ที่พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องรู้ก่อนเปิดร้านขายของ เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองจะต้องขายเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุน หรือขายเท่าไหร่ถึงจะได้กำไร ลองนำสูตรกลับไปคำนวณเล่นๆ ที่ร้านกันครับ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)