รวม 5 เทคนิคปลูกผักในขวด! สร้างรายได้ยุคเงินเฟ้อ

ยุคเงินเฟ้อที่ราคาสินค้าแพงทุกอย่างสวนทางกับรายได้ที่เท่าเดิมหรือลดลง คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการลดรายจ่ายและหารายได้เพิ่มให้มากที่สุด www.ThaiSMEsCenter.com มีไอเดียการปลูกผักในขวดมาฝากเพราะเรามองว่าการนำ

ขวดพลาสติก ที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้แล้วทิ้งมาทำเป็นภาชนะปลูกผักสวนครัวชนิดต่าง ๆ เช่นพริก , เห็ด , ต้นอ่อนทานตะวัน , โหระพา , กระเทียม ,ปวยเล้ง , ต้นหอม ไม่ใช่แค่การลดต้นทุนหรือทำเป็นกิจกรรมยามว่าง แต่ถ้าใส่ไอเดีย รู้จักใช้กลยุทธ์การตลาดการปลูกผักในขวดจะสร้างรายได้เพิ่มให้เราได้ด้วย

5 เทคนิคการปลูกผักในขวดที่ควรรู้!

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3Bp1JH2

อุปกรณ์ของการปลูกผักในขวดไม่มีอะไรยุ่งยาก ทุกอย่างหาได้รอบตัว สิ่งที่ควรมีคือความรู้ในการปลูกผักซึ่งแต่ละชนิดอาจมีคุณสมบัติต่างกัน ลองไปดูว่ามีเทคนิคการปลูกอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1.ปลูกผักในขวดแนวตั้ง

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3LoDZal

เหมาะสมกับการปลูกพืชผักที่มีระบบรากลึก เลือกใช้ขวดที่มีความลึกอย่างน้อย 10 ซม.ขึ้นไป พืชที่เหมาะกับการปลูกในแนวตั้ง เช่น พริก ตะไคร้ กะเพรา โหระพา หรือพืชจำพวกไม้เลื้อยอย่างแตงกวา แตงร้าน เป็นต้น ซึ่งการปลูกผักแนวตั้งยังเป็นไอเดียที่นำไปใช้กับการตกแต่งบ้าน แต่งห้อง ให้ดูมีสีสัน เช่นปลูกและแขวนไว้ข้างกำแพงห้อง , ข้างรั้ว (ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้) เป็นต้น

2.ปลูกผักในขวดแนวนอน

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3BQSFvZ

ข้อดีของขวดแนวนอนคือมีพื้นที่มากกว่าขวดแนวตั้ง แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือความลึกที่น้อยกว่า ดังนั้นจึงควรเลือกเฉพาะผักอายุสั้น และมีระบบรากไม่ลึก ยกตัวอย่างเช่น ผักชี คะน้า กวางตุ้ง หอม กระเทียม หรือผักอายุสั้นอื่นๆ ที่สามารถให้ผลผลิตเร็ว

3.ปลูกผักออแกนิคในขวด

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3DyDsAK

เป็นการปลูกผักแบบไม่ใช้ดิน สิ่งที่ต้องมีคือขวดน้ำพลาสติก , ฟองน้ำสำหรับปลูกผัก ,เมล็ดผัก , และปุ๋ยน้ำสำหรับผักไฮโดรโปนิกส์ วิธีการปลูกเริ่มจากนำเมล็ดผักมาใส่ลงในฟองน้ำประมาณ 3-5 เม็ดต่อชิ้น แต่หากเป็นพวกผักสลัดแนะนำให้ใส่เพียง 1 เมล็ดต่อ 1 ฟองน้ำก็พอ

จากนั้นนำฟองน้ำที่มีเมล็ดไปแช่น้ำ 2-3 ชั่วโมง และนำมาใส่ขวดโดยตัดปากขวดแหย่ลงไปรอเมล็ดงอกต้นอ่อนขึ้นมาประมาณ 3-5 วัน จึงใส่ปุ๋ยที่ไว้สำหรับผักไฮโดรโปนิกส์ ตามอัตราส่วนที่ระบุ และควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำเป็นประจำ อย่าให้แห้งและต่ำกว่าราก แนะนำให้ใส่ปุ๋ยประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

4.ปลูกผักในขวดแก้ว

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3ScJs6j

นอกจากขวดพลาสติกที่หาได้ง่าย การใช้ขวดแก้วก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียน่าสนใจมีข้อดีคือได้ความสวยความงามมากขึ้น การปลูกผักในขวดแก้วสามารถตั้งโชว์ก็ได้ หรือทำขายให้คนสนใจก็ได้เช่นกัน อุปกรณ์สำคัญเช่น ขวดแก้ว ดิน และเมล็ดพันธุ์ การปลูกคือนำดินใส่ลงไปประมาณ 1 ใน 3 ของขวด ใส่เมล็ดผักลงไปควรเน้นผักที่ปลูกง่ายต้นเล็ก รดน้ำตามสมควรเมื่อผักเริ่มโตในขวดความสวยงามก็จะเริ่มขึ้น เพิ่มมูลค่าได้อย่างมาก

5.ปลูกผักในขวดแบบแขวน

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3xALu8F

คำว่าขวดแบบแขวนสามารถเป็นได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ข้อดีของปลูกผักในขวดแบบแขวนคือดีไซด์ที่ดูน่าสนใจ ผู้ปลูกอาจต้องมีไม้ระแนงสำหรับแขวน หรือหากระเบียงห้อง หรือระเบียงบ้านใครมีพื้นที่สักหน่อยอาจช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้อย่างมากแต่ก็มีข้อควรระวังเพราะต้องมั่นใจว่าผักในขวดจะไม่มีการกระทบกระเทือนถึงระบบรากที่อาจทำให้ผักหยุดการเจริญเติบโตได้

เทคนิคปลูกผักในขวด สร้างรายได้อย่างไร?

เทคนิคปลูกผักในขวด

ภาพจาก https://bit.ly/3qO9ott

แม้เป้าหมายของการปลูกผักในขวดจะปลูกเพื่อรับประทานเอง เป็นผักเพื่อสุขภาพ ลดต้นทุนในการซื้อผัก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้เราสามารถทำเงินจากการปลูกผักในขวดได้ หลากหลายรูปแบบเช่น

  1. ปลูกขายแบบออนไลน์ เป็นรูปแบบที่คล้ายกับการทำสวนขวด แต่เรามาในรูปแบบของผัก เสน่ห์ของผักในขวดคือต้นเล็ก น่ารัก คนซื้ออาจไม่ได้ต้องการจะนำไปบริโภค แต่อยากนำไปตั้งโชว์ ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียในการปลูกของเราด้วย
  2. นำมาทำเป็นสลัด เรียกว่าเป็นการต่อยอดจากผักในขวดของเราที่มีเรื่องราว (Story) และในยุคที่คนรักสุขภาพแบบนี้ถือเป็นจุดขายอย่างดี เราสามารถนำมาทำเป็นสลัดผักขายเพิ่มมูลค่าได้ ยิ่งถ้าลูกค้ารู้ว่าเป็นผักที่เราปลูกเองไม่มีสารเคมี ไม่มียาฆ่าแมลงยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้น
  3. ถ้าปลูกมากก็ตัดขายได้ ในกรณีที่ปลูกไว้เยอะมากๆ เช่นการปลูกพริก โหระพา ,ต้นอ่อนทานตะวัน , ต้นหอม ถ้ามีจำนวนมาก กินไม่ทัน ก็สามารถตัดขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้ หรือจะนำไปขายร้านอาหารที่รู้จัก แม้จะไม่ใช่เงินจำนวนมากแต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้เราโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก

เทคนิคสำคัญของการปลูกผักในขวด

10

ภาพจาก https://bit.ly/3UfLoNv

  1. เลือกขวดให้เหมาะกับพืชที่จะปลูกเช่น พริก กะเพรา โหระพา หรือพืชที่มีอายุเยอะ จะต้องใช้ขวดขนาดใหญ่ และต้องวางใน แนวตั้ง เท่านั้น หากวางในแนวนอน ถ้าขวดไม่ลึกพอ อาจทำให้ผักไม่โต
  2. ดินปลูก ควรรองด้วยปุ๋ยหมักที่ชั้นด้านล่าง โดยผสมกับเศษหิน หรือกระถางแตกที่เป็นเศษไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ข้อดีคือจะทำให้ดินมีความโปร่งไม่ต้องเจาะขวดเพื่อระบายน้ำ แต่มีข้อเสียคือต้องหมั่นเติมปุ๋ยเติมดินอยู่บ่อยๆ
  3. วิธีการวางขวด ควรวางไว้เป็นกลุ่มก้อนจะทำให้ผักโตได้เร็วกว่าเพราะการที่ผักได้อยู่รวมกัน จะทำให้ความร้อนรอบๆ ลดลง
  4. แสงแดด ผักในขวดโดยส่วนใหญ่ ไม่ชอบแดด หรืออาจจะเลือกผักที่ชอบแดด แต่การปลูกในขวดให้งอกงาม ควรเลี่ยงบริเวณแสงแดดทั้งวัน มากสุดไม่เกินครึ่งวัน พืชผักจะงอกงามกว่าวางไว้กลางแดดทั้งวัน

พืชต้องการแร่ธาตุ น้ำ และความชื้นในการเติบโต และกว่า 90 % จะรับโดยตรงจากราก หากมีวัสดุใดที่ช่วยห่อหุ้มสิ่งเหล่านี้ไว้เมื่อรากพืชขยายจะทำให้หาอาหารได้ง่าย พืชก็เติบโตได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ขวดปิดทึบ สามารถเลือกใช้เชือก หรือวัสดุอื่น นำมาห่อหุ้มดินปลูกพืชผักจะได้โตเร็วมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3xhEVrp , https://bit.ly/3xlxajY , https://bit.ly/3RX1N7k , https://bit.ly/3Ds2zoT อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Lno38g

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

 

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด