รวม 15 แฟรนไชส์ Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน

ยุคสมัยเปลี่ยน! สังคมก็เปลี่ยน! ปัจจุบันมีการแยกกลุ่มประชากรออกเป็น Generation โดยใช้ช่วงปีเกิดในการกำหนด

  • Gen B (Baby Boom Generation) – คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2489-2507 (1946-1964)
  • Gen X (XERS) – คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 (1965-1979)
  • Gen Y (Millennials) – คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2523-2540 (1980-1995)
  • Gen Z – คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2541-2554 (1996-2011)
  • Gen ALPHA – คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2555-2567 (2012-2024)

ด้วยความที่แต่ละ Gen คือคนในแต่ละช่วงอายุที่ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดค่อนข้างแตกต่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันรวมไปถึงแนวคิดในการหาธุรกิจลงทุนด้วย แม้ว่าการลงทุนในแฟรนไชส์จะมีระบบบริหารจัดการให้พร้อม คนลงทุนไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แต่หากไปวิเคราะห์ในรายละเอียดแต่ละ Gen อาจมีความต้องการหรือหาแฟรนไชส์ในการลงทุนที่เหมาะสมแตกต่างกันไปด้วย ลองไปดูว่า Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน

1. Baby Boomer พ.ศ.2489-2507 (1946-1964)

Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก www.facebook.com/momstouch.th

เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในวัยเกษียณอายุประมาณ 63 – 78 ปี หลายคนอาจมองข้ามว่ากลุ่มนี้ไม่คิดเรื่องการลงทุน ไม่ต้องการทำงาน บางคนมีเงินบำเหน็จ บำนาญ หรือได้วางแผนการเงินมาเป็นอย่างดีมีเงินใช้มากพอในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ถ้ามองในอีกมุมคนกลุ่มนี้บางส่วนมีเงินสะสมที่ไม่เดือดร้อนและอาจต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องดูแลเอง ให้ระบบทำงาน เป็นการสร้างรายได้แบบ Passiveincome ที่อาจมีลูกหลานคอยช่วยเหลือในการบริหารจัดการบ้าง

Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก www.facebook.com/extaplus

แฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับการลงทุนในกลุ่มนี้แนะนำเป็น Business Franchise เช่น

  • มอมส์ ทัช (ประเทศไทย) แฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์จากเกาหลี
    • ค่าแฟรนไชส์ 290,000 บาทงบลงทุน 4.5 – 7 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 087-4989789
  • ร้านยาเอ็กซ์ต้าพลัส และเซเว่นอีเลฟเว่น แฟรนไชส์ในเครือของซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ระบบบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมาก
    • ค่าแฟรนไชส์ ในการลงทุน 2.33 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 02-0714174-5
  • ท็อปส์ เดลี่ แฟรนไชส์ค้าปลีกในรูปแบบมินิซุปเปอร์มาเก็ตในเครือของเซ็นทรัลรีเทล มีการเซตระบบบริหารจัดการให้พร้อมลงทุนได้อย่างดี
    • ค่าแฟรนไชส์ 370,000 บาท งบในการลงทุน 700,000 บาท
    • สนใจลงทุน โทร. 02-8365999 ต่อ 804 , 02-8365885
Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก ท็อปส์ เดลี่

2. XERS พ.ศ. 2508-2522 (1965-1979)

Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก กอลจักต๊อกป๊กกีชิกเก้น

เป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีประสบการณ์มาก อายุระหว่าง 45 – 59 ปี หลายคนมีธุรกิจของตัวเองหรือเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และยังเป็นกลุ่มที่มีวิสัยทัศน์ทั้งในด้านการลงทุนเป็นอย่างดี การลงทุนในระบบแฟรนไชส์ยังแนะนำเป็นแบบ Business Franchise ที่มีหลายแบรนด์น่าสนใจให้เลือกเช่น

ภาพจาก กระทะเหล็ก
  • กอลจักต๊อกป๊กกีชิกเก้น ร้านต๊อกป๊กกีและไก่ทอดจากประเทศเกาหลี ที่มีระบบบริหารจัดการพร้อมให้เปิดร้านได้ทันที
    • ค่าแฟรนไชส์ 300,000 บาท งบในการลงทุน 1.35 – 2.5 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 065-5058117
  • กระทะเหล็ก แฟรนไชส์ร้านอาหารพรีเมี่ยมในราคาไม่แพง เน้นเปิดร้านในสถานีบริการน้ำมัน มีระบบบริหารจัดการและวัตถุดิบคุณภาพ
    • งบในการลงทุน 1.5 – 2 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 02-8008000
  • คลินิกกายภาพ เฌ้อสเซอรี่ โฮม แฟรนไชส์ที่ให้บริการดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจร เจาะกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยที่มีทั่วประเทศ มีระบบบริหารจัดการและการฝึกบุคลการที่มีคุณภาพมีประสบการณ์
    • ค่าแฟรนไชส์ 600,000 งบลงทุน 5 – 7 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 089-1130110
ภาพจาก คลินิกกายภาพ เฌ้อสเซอรี่ โฮม

3. Millennials พ.ศ.2523-2540 (1980-1995)

ภาพจาก โจ๊กสยาม

เป็นกลุ่มใหญ่ที่อยู่ระหว่าง Gen เก่า และ Gen ใหม่ อายุระหว่าง 27 – 43 ปีเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสทางการศึกษาที่ดี มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง มีความชัดเจน ชอบงานด้านเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มวัยทำงานที่อาจเป็นถึงเจ้าของกิจการหรือระดับหัวหน้า มีหลายแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับคนกลุ่มนี้ เช่น

ภาพจาก ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส
  • โจ๊กสยาม แฟรนไชส์ร้านโจ๊กที่เหมาะกับการสร้างอาชีพและสร้างรายได้ดีมาก มีระบบบริหารจัดการให้พร้อม ทีมงานให้คำปรึกษาอย่างดี
    • ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท งบลงทุน 500,000 – 800,000 บาท
    • สนใจลงทุน โทร. 081-8307093
  • ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส แฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passiveincome ได้อย่างดีมีระบบบริหารจัดการที่ครบวงจร
    • ค่าแฟรนไชส์ 199,000 บาท เลือกแพ็กเกจลงทุนได้
    • สนใจลงทุน โทร. 080-6526542
  • ข้าวมันไก่ไห่หนาน แฟรนไชส์ร้านข้าวมันไก่ที่มาพร้อมระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สร้างเป็นธุรกิจที่ดีในระยะยาว
    • งบลงทุน 1.5 – 2 ล้านบาท
    • สนใจลงทุน โทร. 02-8008000
ภาพจาก www.facebook.com/Hainanesechickenriceth

4. Gen Z พ.ศ. 2541-2554 (1996-2011)

Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก ปิงฉุน

เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยระหว่าง 17 – 25 ปี เกิดมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ เติบโตมาในสังคมการเรียนรู้แบบดิจิทัล ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก แต่มีความแนวคิดเป็นของตัวเอง เหมาะสมกับการลงทุนในแฟรนไชส์ที่ใช้เงินทุนไม่สูงมาก เพื่อสร้างประสบการณ์ในการทำงานให้มากขึ้น เช่น

Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก มาจิเมะ ชานมไข่มุก
  • ปิงฉุน แฟรนไชส์ร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ชาผลไม้ ชานมจากประเทศจีน เป็นสินค้ายอดฮิตที่ขายดีมาก
    • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท งบในการลงทุน 845,000 บาท
    • สนใจลงทุน โทร. 092-7105167
  • มาจิเมะ ชานมไข่มุก แฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุกเน้นเมนูที่หลากหลายราคาไม่แพง ไม่มีค่ารายเดือนรายปี
    • ค่าแฟรนไชส์ 49,000 บาท งบในการลงทุน 100,000 บาท
    • สนใจลงทุน โทร. 086-3692055
  • ร้านสะดวกซักทันใจ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้มาก ทำเลดียิ่งสร้างรายได้ดี สร้างรายได้ 24 ชม.
    • ค่าแฟรนไชส์ 120,000 บาท พร้อมทีมงานให้คำปรึกษาและดูแลคนลงทุนอย่างดี
    • สนใจลงทุน โทร. 063-3139947
Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
ภาพจาก ร้านสะดวกซักทันใจ

5. Gen ALPHA พ.ศ. 2555-2567 (2012-2024)

ภาพจาก โอจัง ชานมไข่มุก

เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่มีความคิดและแนวทางใช้ชีวิตของตัวเองที่ชัดเจน มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีการเรียนรู้รวดเร็วในเรื่องของเทคโนโลยี กล้าทำสิ่งใหม่ๆ รักอิสระและสามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้ ในแง่ของการลงทุนอาจต้องมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำหรือประคับประคองในช่วงแรกแต่ก็มีหลายแฟรนไชส์ราคาไม่แรงที่ให้เลือกลงทุนได้เช่น

ภาพจาก https://www.facebook.com/jongchongdee
  • โอจัง ชานมไข่มุก แฟรนไชส์ร้านชานมที่ออกแบบร้านได้น่ารักและมีเมนูอร่อยเยอะมาก
    • ค่าแฟรนไชส์ 36,000 บาท โอกาสคืนทุน 2-3 เดือนโดยขึ้นอยู่กับทำเล
    • สนใจลงทุน โทร. 094-6463239
  • จง ชง ดี แฟรนไชส์เครื่องดื่มที่สามารถสร้างเป็นอาชีพได้ง่าย ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ มีอุปกรณ์+สอนสูตร
    • ค่าแฟรนไชส์ 25,900 บาท
    • สนใจลงทุน โทร. 082-2738899
  • สเต็กเด็กแนว แฟรนไชส์ร้านสเต็กที่เริ่มธุรกิจได้ทันที
    • งบในการลงทุน 15,900 – 29,900 บาท โอกาสคืนทุน 1 – 3 เดือน สร้างเป็นอาชีพเสริมได้อย่างดี
    • สนใจลงทุน โทร. 094-9891222
ภาพจาก www.facebook.com/steakdeknaewfranchise

นอกจากแฟรนไชส์ที่ยกตัวอย่างเหล่านี้ในแต่ละ Gen สามารถเลือกลงทุนในแฟรนไชส์อื่นๆ ได้ตามต้องการ อย่างเช่นแฟรนไชส์การศึกษา , บริการ ,ค้าปลีก , อาหาร , เครื่องดื่ม แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นคือไม่ต้องเริ่มจากศูนย์คนลงทุนต่อยอดสร้างธุรกิจได้ทันที แนะนำว่าควรเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ตัวเองถนัดรวมถึงดูงบประมาณในการลงทุนที่ตัวเองมีเป็นสำคัญด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด