รวม 15 สารพัดกลโกงลูกน้องในร้านอาหาร! เจ้าของร้านต้องรู้!
ขึ้นชื่อว่า “มนุษย์” ย่อมมีความรู้สึกนึกคิดที่ยากจะคาดเดา โดยเฉพาะในการทำงาน เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนนี้คิดอะไร และจะทำอะไร ในขณะที่เขาดูเหมือนทำงานให้เราเต็มที่ แต่บางทีก็อาจจะมี “ทริค” เล็กๆ น้อยๆ ที่บ่อนทำลายธุรกิจของเราได้ไม่รู้ตัว
www.ThaiSMEsCenter.com ได้เห็นข่าวสารเกี่ยวกับลูกน้องที่โกงเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะบรรดาร้านอาหารที่ต้องมีลูกน้องจำนวนมาก เป็นสถานที่เสี่ยงที่จะถูกโกงได้มากที่สุด หากเจ้าของกิจการขาดการดูและเอาใจใส่ วิธีการที่พนักงานของร้านจะทุจริตนั้นมีหลายวิธี แต่เราลองรวบรวมมาให้ดู 15 วิธีที่เราต้องรู้ว่ามีอะไรบ้าง
ภาพจาก Freepik
1. บันทึกยอดขายไม่ตรงกับความเป็นจริง
จะเรียกว่าเป็นกลโกงพื้นฐานก็ได้เพราะไม่มีความสลับซับซ้อนอะไรมาก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ยังไม่ได้ติดตั้งระบบ POS การจะปั้นยอดขายเท่าไหร่เสนอนายจ้างจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ในอดีตนี่คือปัญหาใหญ่ที่ทำให้เจ้าของร้านอาหารต้องสูญเสียรายได้ แม้ในปัจจุบันจะมีระบบ POS ทำให้ปัญหาในส่วนนี้ลดน้อยลง แต่ก็ยังมีอีกหลายร้านอาหารไม่ลงทุนกับระบบนี้และมีความเสี่ยงที่จะถูกโกงได้
2. พนักงานได้คอมมิชชั่นจากซัพพลายเออร์
โดยเฉพาะการสั่งซื้อวัตถุดิบที่เจ้าของร้านไม่ได้ดำเนินการเองแต่มีพนักงานดำเนินการให้ เจอคนดีก็ดีไป เจอซัพพลายเออร์ดีก็ดีไป บางซัพพลายเออร์ติดต่อพนักงานขอผูกขาดส่งสินค้าเข้าร้านอาหาร ทั้งที่ความจริงอาจจะมีซัพพลายเออร์อื่นที่ให้ราคาถูกกว่า แต่ด้วยค่าคอมมิชชั่นที่ซัพพลายเออร์จ่ายให้กับพนักงานทำให้เจ้าของร้านต้องเสียเงินซื้อวัตถุดิบในราคาที่แพงโดยไม่จำเป็น
ภาพจาก Freepik
3. แอบทานสินค้าในร้าน (ของกิน)
ไม่ใช่แต่ร้านอาหารหรือแม้แต่ร้านของชำก็มักจะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นร้านอาหารปัญหาที่เจอคือพวกวัตถุดิบที่ทานได้เลย อย่างไส้กรอก หรือขนมปังเหล่านี้ ความจริงคือวัตถุดิบเอาไว้ในสต็อค แต่หากเจอลูกน้องที่แอบทานสินค้าเหล่านี้ ดีไม่ดีบางทีเอากลับบ้านไปอีก ยิ่งทำให้ต้นทุนเจ้าของร้านมากขึ้น แต่รายได้ไม่ได้มากตาม
4. ได้ส่วนต่างราคาจากซัพพลายเออร์
เป็นวิธีการทุจริตที่ร้านมักจับไม่ได้เพราะตรวจสอบได้ยากเพราะบางครั้งราคาอาจแตกต่างจากราคาตลาดเพียง 3-5% เท่านั้น ทำให้ยากต่อการสังเกต เช่น สมมุติว่าปลาราคาปกติอยู่ที่กิโลกรัมละ 350 บาท พนักงานจัดซื้อของอาจคุยกับซัพพลายเออร์ขอเพิ่มราคาอีก 10 บาทต่อกิโล ในทุกครั้งที่สั่งซื้อ กลายเป็นว่าร้านเราต้องซื้อปลาในราคาโลละ 360 บาท ส่วนต่างที่เกิดขึ้นพนักงานก็เก็บเข้ากระเป๋าไปเรื่อยๆ
ภาพจาก Freepik
5. นำสินค้าในร้านออกไปขาย
ไม่ใช่แค่พนักงานแคชเชียร์หรือการเงินเท่านั้นที่จะมีโอกาสโกงเจ้าของร้านได้ แม้แต่พนักงานครัวก็โกงได้เช่นกัน โดยเฉพาะบรรดาวัตถุดิบต่างๆ ง่ายที่สุดคือการเอาวัตถุดิบเหล่านี้ใส่ถุงดำ ทำทีเหมือนจะไปทิ้ง แล้วค่อยแกะออกหลังจากที่ออกพ้นนอกร้านไปแล้ว ซึ่งบางคนก็นำไปกินเองทำอาหารที่บ้าน หรือที่แย่กว่าคือเอาไปขายต่อ เป็นปัญหาของเจ้าของร้านอาหารที่ต้องระวังให้ดี
6. ขอยกเลิกบิลเพื่อเก็บส่วนต่าง
ในกรณีที่ร้านมีระบบ POS ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเกิดการทุจริต โดยมากเจ้าของร้านจะมอบหมายให้ผู้จัดการร้าน หรือแคชเชียร์เป็นคนที่สามารถคิดเงิน และใน POS นั้นจะมีฟังก์ชั่นให้สามารถ Void หรือยกเลิกบิลได้ เช่น ลูกค้าย้ายโต๊ะ คิดเงินลูกค้าผิด สั่งเมนูผิด ฯลฯ แต่นั่นก็เท่ากับเราเปิดโอกาสให้พนักงานทุจริตด้วยเช่นกัน
หากระบบ POS นั้นไม่สามารถจำกัดสิทธิ์การ Void หรือรายงานการ Void ทุกครั้งได้ เช่น พนักงานคิดเงินลูกค้าปกติ 6 เมนูเป็นเงิน 900 บาท แต่พอถึงเวลาเก็บเงินพนักงานอาจจะทำการ Void ออกไป 1 เมนู แล้วใส่เงินลงในเก๊ะเพียงแค่ 700 บาท โดยเราก็ไม่มีทางรู้ว่าที่ยกเลิกไปนั้นเพราะ คิดเงินลูกค้าผิดอาหารมาไม่ครบ หรือลูกค้ายกเลิกเมนูนั้นได้เลย
ภาพจาก bit.ly/3pGTleR
7. ขโมยเงินสดย่อย
ทุกร้านอาหารที่เจ้าของร้านไม่ได้อยู่เฝ้าร้านเองตลอดเวลา จะมีการทิ้งเงินสดย่อยหรือเงินไว้ให้พนักงาน เผื่อใช้จ่ายในค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายปกติ ซึ่งในหลายๆครั้งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ มักจะไม่มีบิลหรือมีบิลออกมาในรูปแบบของบิลเงินสด ซึ่งพนักงานสามารถเมคขึ้นมาได้เอง ทำให้เป็นอีกช่องทางที่จะง่ายต่อการทุจริต ร้านอาหารใหญ่ๆจึงพยายามลดเงินสดย่อยให้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการทุจริตลง
8.ยักยอกเงินค่าวัตถุดิบในร้าน
ร้านอาหารหลายแห่งใช้วิธีเอาเงินสดให้พนักงานไปซื้อของที่ตลาด ช่องโหว่ขนาดใหญ่คือเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าราคาที่พนักงานซื้อจะใช่ราคาขายของร้านนั้นจริงๆ หรือค่ารถที่พนักงานบอกคุณจะตรงกับความเป็นจริง ยิ่งราคาผักที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันด้วยแล้ว หากพนักงานทุจริตเงินไป 200 บาท เราแทบจะไม่สามารถรู้ได้เลยอาจจะดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่มันก็คือรูรั่วที่เจ้าของร้านอาหารต้องระวังให้ดี
ภาพจาก Freepik
9. โกงเป็นขบวนการ
การทุจริตโดยมีการร่วมมือกันระหว่างพนักงานในร้านเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ยากที่สุด ยิ่งถ้ามีการรู้เห็นระหว่างพนักงานหน้าร้านและหลังร้านแล้ว จะเป็นเรื่องยากที่ร้านอาหารจะสามารถตรวจพบเจอการทุจริต ยิ่งร้านอาหารหลายแห่งไม่ได้มแผนกตรวจสอบหรือเก็บข้อมูลการขายหรือตรวจเช็ควัตถุดิบอย่างต่อเนื่องแล้ว กว่าจะรู้ว่าร้านถูกทุจริตบางครั้งก็อาจจะสายเกินไปที่จะจับคนผิดหรือได้เงินคืน
10. เบิกสินค้าเกินจริง
เป็นปัญหาสำคัญของร้านเครื่องดื่มที่จะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างด้วย โดยเฉพาะ “แก้วน้ำสำหรับขาย” หลายครั้งที่เจ้าของร้านซื้อแก้วน้ำมาสต็อคให้ลูกน้องขาย โดยเฉพาะตอนไหนที่ขายดียิ่งมีโอกาสโกงแบบนี้ได้มาก วิธีการคือเขาจะเดินไปหยิบของในสต๊อกเอง แล้วบอกกับพนักงานอีกคนว่า มาเอาไปเท่านี้นะ สมมติแก้วมีอยู่ 6 แถว เขาจะบอกกับเพื่อนพนักงานอีกคนว่าเอาไป 4 แถวนะ แต่จริงๆ คือหยิบไป 5 แถว นั่นเท่ากับเขาจะได้แก้วเกินไป 1 แถว” ซึ่งแก้ว 1 แถว มีปริมาณแก้ว 50 ใบ เมื่อคิดในราคาขายน้ำหวานแก้วละ 20 บาท แปลว่า พนักงานที่โกง จะได้เงินถึง 50*20 = 1,000 บาท
ภาพจาก Freepik
11. นำแก้วลูกค้ากลับมาใช้
ยังอยู่ที่ร้านเครื่องดื่ม กับอีกวิธีที่แยบยลในการโกง คือการนำแก้วลูกค้ากลับมาใช้ใหม่ วิธีการคือค่อยๆ หยิบแก้วมาล้างยังที่ถังน้ำสะอาด ซึ่งวางไว้ที่พื้น แล้วค่อยๆ เลื้อยแก้วมาเสียบไว้ที่ในกลุ่มที่ยักยอกไว้ เพราะฉะนั้นจะทำให้แก้วมี 2 แถว แถวหนึ่งเป็นของร้าน อีกแถวเป็นของที่ยักยอก เมื่อมีลูกค้ามาสั่งน้ำ ก็แค่เอาแก้วของตัวเองที่ไม่ได้อยู่ในสต็อคของร้านมาขายให้กับลูกค้า ถ้าขายแก้วละ 20 บาท เท่ากับว่าร้านค้าเหมือนไม่ได้ขายแต่เขาเอากำไรเข้าตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
12. ใช้ทรัพยากรในร้านเพื่อตัวเอง
เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าทำต่อเนื่องก็เป็นค่าใช้จ่ายไม่น้อยสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นใช้แก๊สหุงต้ม ทำกับข้าวกินเองส่วนตัว หรือหยิบจับเอา เครื่องครัว ซอส น้ำปลา ไข่ น้ำตาล ซีอิ๊ว หรือทรัพยากรใดๆในร้านไปเพื่อการส่วนตัว มองผิวเผินก็ไม่เสียหายเท่าไหร่แต่หากทำประจำทำทุกวัน และทำทีละเยอะๆมากๆ ก็เป็นต้นทุนที่เจ้าของร้านอาหารต้องแบกรับโดยไม่จำเป็น
ภาพจาก Freepik
13. โปรโมชั่นไปไม่ถึงลูกค้า
กรณีนี้อธิบายง่ายๆ เช่น ร้านค้ามีโปรโมชั่นซื้ออาหารครบ 500 รับส่วนลด 100 แต่ปัญหาคือลูกค้าไม่รู้ว่ามีโปรโมชั่นนี้ พอลูกค้าสั่งครบ 500 คนคิดเงินก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้พูดถึงโปรโมชั่นตัวนี้ให้ลูกค้าทราบ เท่ากับลูกค้าจ่ายเต็มๆ 500 ขณะเดียวกันคนที่คิดเงินก็ได้เงิน 100 บาท จากโปรโมชั่นไปแทน
14. การรับส่วนลดเทียม
วิธีนี้พนักงานในร้าน เมื่อเก็บเงินลูกค้าส่งแคชเชียร์หรือแคชเชียร์ที่เก็บเงินลูกค้าเอง จะบันทึกรายการเป็นการให้ส่วนลดกับลูกค้า เช่น ระบุว่าลูกค้ามีบัตรสมาชิกหรือคูปองส่วนลด ทั้ง ๆ ที่ลูกค้าไม่ได้สิทธิ โดยจะเก็บเงินลูกค้ามาเต็ม โดยพนักงานเอาบัตรลด คูปองหรือบัตรสมาชิกที่ตัวเองเก็บไว้มาประกอบเพื่อใช้สิทธิแทนลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รับใบเสร็จ หรือถ้าแคชเชียร์ออกใบเสร็จพนักงานก็ไม่นำมาให้ลูกค้า ถ้าแคชเชียร์ทำเองก็ต้องเลือกทำกับลูกค้าที่ไม่รอใบเสร็จ เช่น จ่ายเงินพอดีไม่รอเงินทอน หรืออาจทำการแก้ไขรายการ โดยยกเลิกรายการเดิม แล้วทำรายการใหม่แบบมีบัตรลดหลังลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว พนักงานจะได้ส่วนต่างเก็บไว้เอง
ภาพจาก Freepik
15. เอาเงินในร้านไปหมุนก่อน
อันนี้น่าจะเป็นปัญหาใหญ่และน่าจะเป็นปัญหาที่เจ้าของร้านหลายคนเคยเจอกับการที่ลูกน้องบางคนที่มีอำนาจในการเข้าถึงรายได้ของกิจการ โดยเฉพาะตำแหน่งแคชเชียร์ บัญชี บางคนมีหน้าที่ต้องสรุปยอดการขายในแต่ละวัน นำเงินเข้าบัญชี แต่หากเจอคนโกงเข้าไป การสรุปยอดนอกจากจะไม่ตรงกับที่ขาย รายได้ที่แท้จริงส่วนหนึ่งลูกน้องยักยอกเอาไปใช้ก่อน หรือบางทีก็เอาเงินก้อนดังกล่าวไปใช้ล่วงหน้า ด้วยหวังว่าเดี๋ยวจะหามาคืนภายในกำหนด แต่หลายครั้งที่ถึงกำหนดก็เอาเงินมาคืนไม่ได้ก็กลายเป็นความเสียหายของร้านอาหารนั้นๆ
ในความเป็นจริงเราคงไม่สามารถห้ามไม่ให้พนักงานทุจริตได้ แต่การสร้างระบบการจัดการ ตรวจสอบที่ดี รวมถึงการเข้าไปสุ่มเช็คการทำงานในแต่ละส่วนอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการทุจริต หรือต่อให้เกิดการทุจริตเราก็จะมีระบบในการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งการทำธุรกิจใดๆ เรื่องของน้ำใจที่เจ้านายมีให้ลูกน้องก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่การปล่อยให้ลูกน้องทำตามอำเภอใจจนความใจดีที่ไม่จำเป็นนั้น ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้ในภายหลัง
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล
https://bit.ly/39zVtzc , https://bit.ly/2MIG4ne , https://bit.ly/3owLaQZ , https://bit.ly/3tgQ5J4 , https://bit.ly/3pAWCfv
อ้างอิงจาก https://bit.ly/2YDewSW