รวม 10 แฟรนไชส์ ลงทุนง่าย! ได้กำไรเกิน 100,000 บาท สวนกระแส Covid-19 พร้อมเปิดทำเลทอง HUB แห่งคอมมูนิตี้ ใจกลางบางนาและศรีนครินทร์ ใกล้ BTS 10 นาที*
การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้ลงทุนต้องหาวิธีที่ “เสี่ยง” น้อยที่สุด ซึ่งการลงทุนแฟรนไชส์ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ภาครัฐก็ส่งเสริมมาโดยตลอด ซึ่งมูลค่าตลาดแฟรนไชส์ปัจจุบันมากกว่า 200,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ร้อยละ 15 ต่อปี
โดยมีแฟรนไชส์ในเมืองไทยตอนนี้กว่า 581 แบรนด์ ปัจจัยสำคัญของการลงทุนแฟรนไชส์ให้ได้กำไรสูงสุดคือต้องมี “สุดยอดทำเล” ซึ่งข้อมูลชี้ชัดว่าบรรดาแฟรนไชส์ขนาดกลางและใหญ่ จะให้ความสำคัญกับการมองหาทำเลอันดับแรก เพราะเท่ากับเป็นก้าวแรกที่ทำให้ผู้ลงทุนมองทิศทางข้างหน้าได้อย่างมั่นใจว่าธุรกิจที่ลงทุนไปจะมีกำไรได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นตัวเลือกให้คนสนใจได้เลือกลงทุน www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวม 10 แฟรนไชส์ลงทุนง่าย ถ้ามีทำเลค้าขายที่ดี การันตีว่าได้กำไรเกิน 100,000 บาทต่อเดือนแน่นอน
1.ชิคชอนไก่กรอบเกาหลี
ภาพจาก แฟรนไชส์ ชิคชอนไก่กรอบเกาหลี
จุดเด่นของชิคชอนไก่กรอบเกาหลีคือ เมนูสไตล์เกาหลี เช่น เซ็ทข้าวไก่เกาหลี , กิมจิ , ไก่กรอบเกาหลี , ต็อกโบกิ , ฮอทรามยอนชีส , ซุปกิมจิ เป็นต้น สไตล์การแต่งร้านเน้นบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะกับทำเลสไตล์คอมมูนิตี้มอลล์ กลุ่มเป้าหมายลูกค้าคือนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น วัยทำงาน
ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 169,000 บาท ราคาเมนูเริ่มต้น 49 – 295 บาท มีกำไรจากยอดขายประมาณ 30% โดยยอดขายแต่ละสาขาของชิคชอนปัจจุบันอยู่ประมาณ 80,000 – 250,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 3เดือนขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลเป็นสำคัญ
2.เลอมงราเมง
ภาพจาก แฟรนไชส์ เลอมงราเมง
อาหารสไตล์ญี่ปุ่นเป็นที่นิยมของลูกค้าจำนวนมาก โดยเลอมงราเมงมีค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 55,555 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้อุปกรณ์พร้อมเปิดร้านได้เลย และสอนทุกเทคนิคการขาย สอนทำทุกเมนู
โดยเบื้องต้นถ้าคำนวณจากสินค้าขายได้ 200 ชาม/วัน จะมีรายได้ต่อวัน 11,000 บาท รายได้ต่อเดือน 330,000 บาท หักต้นทุนต่างๆ เหลือกำไรต่อเดือนประมาณ 100,000 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 30%) ใช้เวลาในการคืนทุนค่าค่าแฟรนไชส์ได้อย่างรวดเร็ว เพียง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับทำเลในการขาย
3.มารุ วาฟเฟิล
ภาพจาก แฟรนไชส์ มารุ วาฟเฟิล
วาฟเฟิลเป็นสินค้าขายง่าย ขายดี และยิ่งเป็นแฟรนไชส์มารุ วาฟเฟิลที่เป็นสูตรฮ่องกง กรอบ หอม อร่อย มีแป้งสำเร็จรูปแค่ผสมกับน้ำและน้ำมันใช้ได้ทันที มีแพคเกจลงทุนให้เลือกตามต้องการ ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 33,000 บาท
โดยปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 50 แห่ง สำหรับรูปแบบแฟรนไซน์โมเดลใหม่กึ๋ง Café และ Take A Way โดยยอดขายจากขนาดร้านที่ใหญ่ขึ้นนี้ประมาณ 200,000 บาท มีกำไรสุทธิประมาณ 120,000 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 60%) ทั้งนี้เป็นตัวเลขโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเล และการบริหารจัดการเป็นสำคัญ
4.บ้านรักภาษา
ภาพจาก แฟรนไชส์ บ้านรักภาษา
ธุรกิจการศึกษาโดยเฉพาะการสอนภาษานับว่าสำคัญมาก โดยบ้านรักภาษาเน้นการสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน จุดเด่นคือค่าแฟรนไชส์เพียง 350,000 บาท มีการสรรหาบุคลากร และมีการอบรมอย่างมืออาชีพ ขอแค่เรามีทำเลที่ดี ย่านชุมชน ใกล้โรงเรียน ธุรกิจของบ้านรักภาษาให้ผลตอบแทนดีมาก
โดยเบื้องต้นคำนวณจุดคุ้มทุนและกำไรไว้ที่ 40 คอร์ส ราคาคอร์สเรียนละ 5,200 บาท ซึ่งจะมีรายได้ 208,000 บาท นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังมีรายได้ที่นอกเหนือจากการเปิดคอร์สในสถาบันเช่น การเรียนนอกสถานที่ ,การจำหน่ายอุปกรณ์การเรียน , การสอนคอร์สปิดเทอม รวมรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 100,110 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 50%) ซึ่งถือว่าน่าสนใจและเหมาะสมกับการลงทุนอย่างมาก
5.คาเฟ่ชากัญ
ภาพจาก แฟรนไชส์ คาเฟ่ชากัญ
กระแสของกัญชาตอนนี้มาแรงมาก มีลูกค้ามากมายที่อยากลองเมนูกัญชา โดยคาเฟ่ชากัญ เป็นแฟรนไชส์เจ้าแรกๆ ในเมืองไทยที่เปิดขายอย่างถูกต้อง
ค่าแฟรนไชส์ 69,000 บาท กำไรเฉลี่ย 50% ต่อแก้ว ถ้าขายได้ 100 แก้ว/วัน รายได้วันละประมาณ 6,000 บาท หักต้นทุนต่อแก้ว เหลือกำไร 3,000 บาท/วัน ใน 1 เดือนจะมีกำไรประมาณ 90,000 – 100,000 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 50%) หรืออาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับทำเลในการขายเป็นสำคัญ
6.ควิก เซอร์วิส
ภาพจาก แฟรนไชส์ ควิก เซอร์วิส
การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ส่งผลให้ควิก เซอร์วิส กลายเป็นแฟรนไชส์ที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด โดยมีพันธมิตรขนส่งเอกชนจำนวนมาก และมีบริการที่ครบวงจร โดยทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 235,000 บาท ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 451 แห่ง ซึ่งควิกเซอร์วิสมีจุดเด่นคือบริการที่หลากหลาย และบริการเสริมต่างๆ อีกจำนวนมาก
โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดCOVID ช่วงนี้รายได้ของควิกเซอร์วิสเติบโตกว่า 100% และบริการที่สร้างรายได้มากที่สุดคือการขายประกันโควิดที่มียอดขายมากกว่า 10,000 ฉบับ ดังนั้นรายได้ในแต่ละเดือนของควิกเซอร์วิสค่อนข้างสูง โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของทำเลเป็นสำคัญ ระยะเวลาในการคืนทุน 8-24 เดือน ซึ่งผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามรายละเอีดยเรื่องรายได้จากการลงทุนกับทางแฟรนไชส์ได้โดยตรง
7.ชีสซี่ฟราย สแน็ค
ภาพจาก แฟรนไชส์ ชีสซี่ฟราย สแน็ค
เป็นอีกสินค้าสำหรับคนยุคใหม่กับเฟรนฟรายด์ราดชีส ที่อร่อยสุดยอด แถมค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนไม่แพงเริ่มต้นแค่ 29,900 บาท ได้อุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน สอนเทคนิคการขาย วัตถุดิบต่างๆ เป็นแฟรนไชส์ขายง่ายขายดี
ราคาขายกรวยละ 59 บาท ยอดขายเฉลี่ยต่อวัน 100 กรวย หรือ 5,900 บาท เฉลี่ยต่อเดือน 177,000 บาท กำไรต่อเดือน 87,000 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 50%) ยังไม่รวมสินค้าไซด์อื่นเช่น ไซด์เล็กไม่ราดชีส ราคา 29-39 บาท หากคิดกำไรโดยรวมต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ยิ่งมีทำเลดี มีปัจจัยเสริมของทำเลที่ดี ยิ่งเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
8.ปังอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม
ภาพจาก แฟรนไชส์ ปังอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม
ปั้งอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม แฟรนไชส์เบเกอรี่ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ขอเพียงมีทำเลที่ดี ย่านคนพลุกพล่าน ใกล้สถานศึกษา ที่ทำงาน หรือย่านที่พักอาศัย จะยิ่งขายดีมาก
ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 180,000 – 450,000 บาท ราคาสินค้าเบเกอรี่และเครื่องดื่ม 19-35 บาท จุดคุ้มทุนประมาณ 6 เดือน – 2 ขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลเป็นสำคัญและก่อนตัดสินใจลงทุนผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดรายได้จากทางแฟรนไชส์ได้โดยตรง
9.ร้านใส่นม
ภาพจาก แฟรนไชส์ ร้านใส่นม
ใครที่อยากเปิดร้านสไตล์คาเฟ่ มีสินค้าเป็นเครื่องดื่มแนวสุขภาพแนะนำ แฟรนไชส์ร้านใส่นม ที่มีการแต่งร้านดึงดูดลูกค้าได้อย่างดี ถ้าอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ จะโดดเด่นมากๆ ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 300,000 บาท ปัจจุบันมีสาขากว่า 54 แห่งทั่วประเทศ
โดยมีเมนูน่าสนใจกว่า 140 รายการ ราคาสินค้าอาหาร และเครื่องดื่ม เริ่มต้น 30 -200 บาท ยอดขายแต่ละสาขาเฉลี่ยเดือนละ 100,000 – 300,000 บาท กำไรต่อเดือน 50,000 – 150,000 บาท (อัตราส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 20%) ระยะเวลาคืนทุน 12-18 เดือนขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ศักยภาพของทำเลเป็นสำคัญ (ขึ้นอยู่กับเมนู)
10.โอชายะ
ภาพจาก แฟรนไชส์ โอชายะ
โอชายะเป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักมานานกว่า 14 ปี มีสาขาทั่วประเทศกว่า 350 แห่ง โดยทำเลของโอชายะเน้นใกล้สำนักงาน ธนาคาร บริษัท ที่พักอาศัย ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 350,000 บาท สิ่งที่ได้รับคือวัตถุดิบชุดแรกพร้อมขาย (ได้ประมาณ2,000 แก้ว)
มีกำไรเฉลี่ย 35% ต่อแก้ว ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 350,000 บาท สิ่งที่ได้รับคือวัตถุดิบชุดแรกพร้อมขาย (ได้ประมาณ2,000 แก้ว) กำไรจากการขายขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเล และการบริหารจัดการ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการลงทุนจากทางแฟรนไชส์ได้
ThaiFranchiseCenter x District Theparak
พร้อมเปิดทำเลทอง HUB แห่งคอมมูนิตี้ ใจกลางบางนาและศรีนครินทร์ ใกล้ BTS 10 นาที* “อยู่อาศัยก็ไช่ ค้าขายก็ได้” พร้อมให้เงินลงทุน 1,000,000 บาท และการันตีค่าเช่า 1 ปี 150,000 บาท
District Theparak “อยู่อาศัยก็ไช่ ค้าขายก็ได้” สุดยอดทำเลย่านสุขุมวิทและศรีนครินทร์ เมื่อแนะนำสุดยอดแฟรนไชส์รายได้เกิน 100,000 ต่อเดือน เพื่อให้ครบวงจรยิ่งขึ้นงานนี้จัดให้กับ “สุดยอดทำเล” ที่ใครอยู่ใกล้โซนสุขุมวิทและศรีนครินทร์มีเฮ กับโครงการ “District Theparak” ที่ออกแบบโครงการด้วยความเข้าใจสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องการได้อย่างแท้จริง
District Theparak ไม่ใช่แค่ทำเลค้าขายที่เปิดมาเพื่อให้ขายของ แต่ความโดดเด่นของที่นี่คือเป็น HI-END TOWNHOME 3 ชั้น “อยู่อาศัยก็ไช่ ค้าขายก็ได้” โดยมีที่ดินเริ่มต้น 16.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 127.6 ตร.ม. โดยตัวโครงการอยู่ในซอยมังกร ใกล้กับ BTS ศรีนครินทร์และ BTS แพรกษา เพียง 10 นาที และ15 นาทีจาก เมกาบางนา พร้อมตั้งอยู่หน้าโครงการพลีโน่ ศรีนครินทร์ – เทพารักษ์
ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้ขายไปแล้วกว่า 60% นั้นหมายความว่ามีกำลังซื้อจากชุมชนแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ครอบครัว ทำเลของ District Theparak จึงมั่นใจว่าเป็นศูนย์กลางที่จะดึงดูดลูกค้าได้จากหลายพื้นที่ เพราะเชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสายทั้งถนนเทพารักษ์, ถนนแพรกษา , ถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์
ทำเลดี! โปรโมชั่นดี! สนับสนุน “ผู้ลงทุน” ให้รวยทุกคน
จุดเด่นของ District Theparak ไม่ใช่แค่ที่ตั้งโครงการจะได้เปรียบสุดๆ แนวคิดของ District Theparak ยังเป็นได้ทั้งที่พักอาศัยและเปิดร้าน แต่พิเศษยิ่งกว่าเอาใจคนอยากมีธุรกิจให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เมื่อจัดโปรโมชั่นสุดเจ๋ง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังเริ่มธุรกิจขนาดเล็ก สามารถรับเงินลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจกว่า 1,000,000 บาท พร้อมดับเบิ้ลX3 เพื่อต่อยอดธุรกิจ แถมยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมายเช่น
- การันตีค่าเช่า 1 ปี มูลค่า 150,000 บาท
- ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน*
- ฟรี! แอร์ พร้อมติดตั้ง
- ฟรี! กล้องCCTV
สำหรับใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ใครที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยและสามารถประกอบธุรกิจได้ District Theparak ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยภายในโครงการยังเปิดรับร้านค้าอีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะร้านบริการ , ร้านอาหาร , ร้านเครื่องดื่ม , สถาบันการศึกษา ฯลฯ สามารถมาเริ่มต้นลงทุนที่ District Theparak ซึ่งรับประกันไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่ทำเลขายของธรรมดาแต่คือสุดยอดทำเลที่คนอยากลงทุนค้าขาย อยากมีธุรกิจร้านค้า ต้องเลือกมาที่นี่เท่านั้น
โดยปัจจุบันทำเลค้าขายในเมืองไทยทั้งที่เป็นห้างสรรพสินค้า หรือว่าคอมมูนิตี้มอลล์มีอยู่จำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญของคนที่อยากมีธุรกิจ อยากเปิดร้าน ต้องโฟกัสว่าทำเลค้าขายเหล่านั้น ให้อะไรกับเราได้บ้าง ซึ่ง District Theparak เป็นได้ทั้งที่พักอาศัยและเปิดร้านค้าได้ ซึ่งในแง่ของการลงทุนเท่ากับเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
แถม District Theparak ยังมีโปรโมชั่นดีๆ ที่หาได้ยาก และทำเลที่ตั้งของ District Theparak ที่นับวันจะยิ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางทางการค้า เท่ากับว่าการเลือกซื้อทำเลในโครงการนี้ ยิงปืนนัดเดียวได้คุณประโยชน์หลายต่อ
และหากสถานการณ์แพร่ระบาดของCOVID 19 คลี่คลายทุกคนสามารถหันมาทำการค้าขาย ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอย และออกมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติเหมือนเดิม จะยิ่งเพิ่มยอดขายให้กับผู้ลงทุนที่เปิดร้านใน District Theparak ให้รวยได้มากยิ่งขึ้น สมกับเป็นสุดยอดทำเลที่เราทุกคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
สนใจลงทะเบียน และ Add line เพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ https://bit.ly/2RPhMdK
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3tFvQnC