รวมแคมเปญการตลาด ตามเทศกาล เจ้าของร้านนำไปใช้ได้ทันที!

เทศกาลต่างๆ ในเมืองไทยมีอะไรบ้าง? ไล่ตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงธันวาคม เทศกาลใหญ่ๆก็ เช่น ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่, วาเลนไทน์, สงกรานต์, ตรุษจีน, กินเจ, ลอยกระทง หรือแม้แต่วันพิเศษๆ อย่างวันพ่อวันแม่ก็เป็นช่วงเวลาพิเศษที่น่าสนใจเช่นกัน

ซึ่งทุกเทศกาลและวันสำคัญเหล่านี้มีจุดเด่นในตัวเองที่ต่างกันไปแน่นอนว่าในด้านธุรกิจสามารถหยิบยกมาสร้างสีสันทางการตลาดได้อย่างดีลองไปดูกันว่าในแต่ละเทศกาลมีแคมเปญการตลาดอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1.ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

ภาพจาก https://is.gd/6mOsTV

ในช่วงเวลาสุดพิเศษและเป็นเทศกาลระดับสากลอย่างส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการสร้างยอดขายหรือขยายฐานลูกค้าในช่วงเวลาสำคัญนี้ให้ได้มากที่สุด เราจึงได้เห็นหลากหลายแคมเปญที่ต่างก็งัดออกมาสู้กันสุดฤทธิ์ ทีน่าสนใจเช่น

ลดราคากระหน่ำ!

โดยบรรดาห้างร้านต่างๆ ออกมาจัดโปร “ลดกระหน่ำ” ในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ มองไปทางไหนก็จะเห็นป้ายลดราคาแทบทุกที่ เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่นักช็อปถูกใจมาก

ซื้อสินค้าครบแถมของรางวัลพิเศษ

ในช่วงเวลาพิเศษถ้าได้ของรางวัลพิเศษก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น บรรดาสินค้าหลายแบรนด์ก็งัดเอาแคมเปญกระตุ้นให้คนซื้อสินค้าครบตามราคากำหนดแล้วมอบของรางวัลพิเศษ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ว่าจะให้อะไร ถ้าเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากการให้ของรางวัลพิเศษก็ควรมีมูลค่ามากตามไปด้วย

ลุ้นชิงโชค

คนไทยกับการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงเป็นของคู่กันมานาน ในช่วงเวลาสุดพิเศษที่มีการจับจ่ายมาก หลายแบรนด์ใช้โอกาสนี้ในการออกแคมเปญลุ้นชิงรางวัลเพื่อให้คนจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็หวังและต้องการได้รางวัลพิเศษให้ตัวเองจะได้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดีด้วย

เลขมงคลเสริมดวง

อีกแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจคือเลขมงคลเสริมดวงหรือการแจกของมงคลเพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดียกตัวอย่าง
ค่ายโทรศัพท์มือถือรายหนึ่งออกแคมเปญ ชื่อว่า #ขอให้เป็นปีที่d ให้ดาวน์โหลดปฏิทิเสริมดวง หรือซื้อเลขมงคลได้ในราคาพิเศษเป็นต้น

แช๊ะ แชร์ รับของรางวัล

ในตลาดยุคออนไลน์การทำให้คนยิ่งรู้จักแบรนด์ได้มากเท่าไหร่โอกาสขายก็มากขึ้น แคมเปญสำคัญที่นิยมนำมาใช้มากคือ “แช๊ะ แชร์ รับของรางวัล” เช่นร้านค้า ร้านกาแฟ อาจแต่งร้านธีม Happy New Year ลูกค้าท่านใดที่แช๊ะ แชร์ อาจมีรางวัลพิเศษเช่นให้ส่วนลดสินค้าเป็นต้น

บริการห่อของขวัญฟรี+การ์ดอวยพร

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สิ่งที่เราจะเห็นแน่ๆ คือการซื้อสินค้าเป็นของขวัญให้คนรู้จัก หรือญาติผู้ใหญ่ต่างๆ ดังนั้นแคมเปญที่เห็นและได้ผลมากคือบริการห่อของขวัญฟรีและอาจแถมการ์ดอวยพรให้ฟรี ก็จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้อยากซื้อสินค้าหรือใช้บริการมากขึ้น


2.วาเลนไทน์

ภาพจาก https://is.gd/BVAFEB

เทศกาลวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนใหญ่มีการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายกันตลอดทั้งเดือน ซึ่งนอกจากการลดแลกแจกแถมที่มีแน่ๆ ก็มีอีกหลายแคมเปญที่น่าสนใจเช่น

จัดเวิร์กชอปสำหรับคู่รัก

โดยให้คู่รักทำของขวัญชิ้นพิเศษร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมนี้สามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจได้หลากหลาย เช่น ร้านดอกไม้อาจจะจัดเวิร์กชอปให้คู่รักได้ร่วมกันสร้างสรรค์ช่อดอกไม้ให้คู่ของตัวเอง ร้านอาหารอาจจะจัดเวิร์กชอปทำอาหารเมนูพิเศษคู่กัน ร้านขายเสื้อจัดเวิร์กชอปให้คู่รักมาออกแบบลายเสื้อและเพ้นท์เสื้อด้วยตัวเอง เป็นต้น

เสิร์ฟเมนูพิเศษสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เบเกอรี่ หรือคาเฟ่

ลองสร้างสรรค์เมนูพิเศษที่มีเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อกระตุ้นให้ทั้งคู่รักและคนโสดมาลองรับประทานเมนูใหม่ก่อนหมดโปรโมชันนี้ไป โดยอาจจะใส่ลูกเล่นเชิงสัญลักษณ์ในสิ่งที่สื่อถึงวันวาเลนไทน์ เช่น เมนูที่มีส่วนประกอบของดอกกุหลาบ เป็นต้น


3.ตรุษจีน

ภาพจาก https://is.gd/bctD9h

เทศกาลตรุษจีนต้องเน้นที่ความเป็นศิริมงคล การจัดร้านในช่วงนี้ต้องเน้นที่สีแดง เพื่อให้เข้าบรรยากาศดึงดูดคนเข้าร้านมากขึ้น และมีหลายแคมเปญที่ใช้ได้ผลเช่น

ออกสินค้า Collection พิเศษเฉพาะเทศกาลตรุษจีน

แบรนด์หรือร้านค้าอาจมีการเตรียมตัวก่อนเทศกาลในการออกสินค้าที่จะขายให้ช่วงเทศกาลโดยเฉพาะที่จะสามารถสั่งซื้อหรือมีขายเฉพาะช่วงตรุษจีนเท่านั้นซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจรู้สึกว่าเป็นของพรีเมี่ยมที่จะซื้อได้แค่ช่วงนี้

อั่งเปาสมนาคุณลูกค้า

จุดเด่นของตรุษจีนคือ “อั่งเปา” การกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าในราคาที่กำหนดแล้วจะได้สิทธิรับ “อั่งเปา” ก็เป็นอีกแคมเปญที่ใช้ได้ผลดีมาก ในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้


4.สงกรานต์

ภาพจาก https://is.gd/DMTdUG

ช่วงเดือนเมษายนคนมีความสุขมากเพราะเป็นวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ แคมเปญในช่วงนี้นอกจากลดแลกแจกแถมที่มีให้เห็นแน่ๆ ก็ควรเน้นที่เรื่องของ “ครอบครัว” เพราะคนส่วนใหญ่จะกลับบ้านไปหาญาติผู้ใหญ่ในต่างจังหวัด

เซตเมนูครอบครัวสุดคุ้ม

ร้านค้าร้านอาหารต้องเอาใจคนรักครอบครัวในเทศกาลนี้มากเป็นพิเศษ เช่นการจัดชุดสุดคุ้มสำหรับครอบครัว โดยในเซตอาหารมีเมนูที่กินอิ่มได้หลายคน หรือร้านเครื่องดื่ม เบเกอรี่ก็จัดเซตเมนูที่มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ในราคาประหยัด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้คนใช้บริการได้มากขึ้น

เซตของขวัญสำหรับผู้ใหญ่

เทศกาลสงกรานต์คนส่วนใหญ่กลับบ้านต่างจังหวัดหรือไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ ดังนั้นธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร ควรจัดแคมเปญสินค้าเป็นเซตของขวัญสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อให้ดูมีความน่าสนใจ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นด้วย

แจกประกันอุบัติเหตุฟรี ช่วงสงกรานต์

เป็นแคมเปญการตลาดที่บรรดาธุรกิจประกันมักนำมาใช้ด้วยการแจกประกันอุบัติเหตุฟรีในช่วงเวลาที่มีการเดินทางมาก แคมเปญนี้อาจไม่หวังผลในเรื่องรายได้แต่เน้นการขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นในระยะยาว


5.กินเจ

ภาพจาก https://is.gd/WRhn7O

เทศกาลกินเจมีความแตกต่างกับเทศกาลอื่นเพราะเน้นที่เรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ แคมเปญที่เห็นส่วนใหญ่คือการออกเมนูเจต่างๆ ทั้งที่เป็นเครื่องดื่มและอาหาร ซึ่งอาจใช้แคมเปญอื่นร่วมด้วยเช่น

อิ่มเจ อิ่มบุญ!

นอกจากเมนูเจต่างๆ การกินเจคนก็มุ่งหวังเรื่องการสร้างบุญ อาจมีแคมเปญที่สื่อถึงการทำบุญเช่น ซื้อ 1 จานแถม 1 จานให้เด็กยากไร้ , รายได้ส่วนหนึ่งนำไปบริจาคเพื่อการศึกษา เป็นต้น

นำเสนอวิธีการทำอาหารแบบ “เจ”

อีกแคมเปญที่น่าสนใจคือการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าถึงวิธีการทำอาหาร “เจ” ที่เป็นเมนูใหม่ๆ ดูน่าสนใจ ส่วนใหญ่แคมเปญนี้จะใช้กับสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบอาหารที่มักสอนวิธีการทำเมนูอร่อยแบบเจ ก็ช่วยทำให้คนสนใจและขายดีในเทศกาลกินเจมากขึ้น

นอกจากเทศกาลเหล่านี้ วันพ่อวันแม่, วันลอยกระทง ก็เป็นวันสำคัญที่แม้ไม่ใช่เทศกาลแต่ก็คือช่วงเวลาพิเศษที่สามารถจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายได้หลากหลายเช่นกัน ซึ่งยุคนี้นอกจากการขายหน้าร้าน ต้องคิดถึงการขายช่องทางออนไลน์ร่วมด้วยแคมเปญหลายอย่างต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี

ควรมีการวางแผนอย่างรัดกุมก่อนที่จะปล่อยแคมเปญใดๆ ไป เพราะเป้าหมายของแคมเปญคือการกระตุ้นยอดขายหรือสร้างฐานลูกค้า แต่ในทางกลับกันแคมเปญที่เงื่อนไขยาก หรือดูแล้วไม่มีความจริงใจกับลูกค้าอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหายได้

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด