รวมแคมเปญการตลาด กินเจ ร้านดังใช้ แต่ไม่เคยบอก!

เทศกาล กินเจ ปีนี้ตรงกับวันที่ 3-11 ตุลาคม รวมเป็นระยะเวลา 9 วัน ในแง่ของการตลาดแน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ต้องมีการใช้โปรโมชันเพื่อหวังสร้างยอดขายได้มากขึ้น ที่เราจะเห็นกันแน่ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องลดราคา หรือการเปิดตัวสินค้าใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ หรือการจัดงานอีเว้นท์ที่รวบรวมเมนูเจมาไว้ที่เดียวจบแบบครบวงจร เป็นต้น

แต่ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ก็เชื่อว่าทุกแบรนด์เองก็มีไอเดียในการคิดแคมเปญที่จะสร้างความน่าสนใจให้ได้มากที่สุด อาจจะด้วยเงื่อนไขกติกา หรือว่าการใช้สินค้าที่ดึงดูดใจลูกค้า และเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นเราได้รวบรวมแคมเปญการตลาดของหลากหลายแบรนด์ในเทศกาลกินเจนี้มาฝาก เพื่อใครอยากเอาแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้บ้าง

1.ช้อปครบ ลดคุ้ม

เป็นแคมเปญของ CJ More ที่ใช้ชื่อว่า “อัพพลังบุญ รับเทศกาลกินเจ” รูปแบบของแคมเปญนี้ก็คือการลดราคาสินค้าประเภทเครื่องปรุงรสที่จำเป็นต้องใช้ในเทศกาลกินเจ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง , ซีอิ๊วขาว , ผักกาดดอง , เส้นหมี่ซั่ว เป็นต้น มีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าช้อปได้ในราคาสุดพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างดีด้วย

2.อร่อยจบ! ครบทุกมื้อ พร้อมรับฟรี! สินค้าพรีเมี่ยม

อีกแคมเปญการตลาดที่ 7 -Eleven นำมาใช้ในเทศกาลกินเจปีนี้ เงื่อนไขของแคมเปญนี้คือลูกค้าสามารถสั่งสินค้าอาหารเจที่มีจำหน่ายใน 7 -Eleven มีโอกาสได้รับฟรีของพรีเมี่ยมสุดคุ้ม ซึ่งเป็นกระเป๋าผ้าและอื่นๆ อีกมากมาย เป็นแนวคิดด้านการตลาดที่เราเชื่อว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกเทศกาล

3. อิ่มฟิน เสริมดวง

ไม่ใช่แค่ร้านค้าปลีกเท่านั้นที่จัดแคมเปญเทศกาลกินเจ แม้แต่คอมมูนิตี้มอลล์ก็ร่วมกับกระแสของเทศกาลกินเจนี้ ยกตัวอย่าง Phenix ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยย่านประตูน้ำ จัดแคมเปญ”อิ่มฟิน เสริมดวง” กับเทศกาลกินเจประจำปี 2567 โดยเปิดพื้นที่นำหลากหลายร้านอาหารเจมาเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น และในงานก็ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมน่าสนใจ ก็เป็นอีกรูปแบบการตลาดตามเทศกาลที่เราเห็นอย่างต่อเนื่อง

4.ซื้อสินค้าครบ แจกเสื้อกินเจฟรี

แม้แต่ร้านวัสดุก่อสร้างก็ร่วมกระแสเทศกาลกินเจในปีนี้เช่นกัน มีแคมเปญของร้านอันดามันโฮมในภูเก็ตที่น่าสนใจให้ลูกค้าช้อปสินค้าครบ 3,000 บาท ได้รับฟรีทันที “เสื้อกินเจ” จำนวน 1 ตัว แน่นอนว่าแคมเปญนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับอีกหลากหลายแบรนด์ ข้อดีของแคมเปญนี้คือการเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลได้มากขึ้น

5.เปิดตัวสินค้า “เพื่อสุขภาพ” ในเทศกาลกินเจ

เป็นอีกแคมเปญน่าสนใจที่เลือกช่วงเวลาในการเปิดตัวสินค้าเพื่อสุขภาพให้ตรงกับเทศกาลกินเจ ซึ่งแน่นอนว่าเมนูใหม่ที่ออกตลาดมานี้ไม่ได้มุ่งหวังยอดขายในช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น เพียงแต่การเปิดตัวในช่วงนี้จะทำให้สินค้าได้รับความนิยมมากและมีโอกาสขายในระยะยาวได้มากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างน่าสนใจคือ เบทาโกร ที่เปิดตัว Meatly เมนู “ไข่ดาวจากพืชที่างเป้าหมายขยายฐานคนรุ่นใหม่ ดันยอดขายทั้งปีเติบโต 200%

6.อิ่มเจ อิ่มใจ ช้อปคุ้มสุขใจ

เป็นอีกรูปแบบแคมเปญน่าสนใจที่สามารถจับมือเป็นพันธมิตรทางการค้า โดยได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ยกตัวอย่างในเทศกาลกินเจปีนี้ ผลิตภัณฑ์ดีน่าซึ่งเป็นนมกล่องธัญพืชพร้อมดื่มได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบิ๊กซี เปิดแคมเปญดื่มดีน่า อิ่มเจ อิ่มใจ ช้อปคุ้มสุขใจที่บิ๊กซี ซึ่งก็เป็นการจัดกิจกรรมร่วมกัน มีสาระความบันเทิงภายในงาน แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีด้วย

7.อิ่มอร่อยอาหารเจ ฟินทุกเมนู

แคมเปญนี้สามารถนำไปใช้ในร้านอาหารได้อย่างดี เอาใจคนต้องการกินเจได้มาก รูปแบบของแคมเปญนี้คือการเปิดตัวเทศกาลอาหารเจ และเน้นเมนูที่เป็นเจให้ลูกค้าเลือก ยกตัวอย่างร้านฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ที่เป็นภัตตาคารอาหารจีนชั้นนำในเครืออิมแพ็คเมืองทองธานี ได้เปิดแคมเปญดังกล่าว ซึ่งก็มีเมนูเจเปิดตัวให้เลือกมากมายเช่น ซุปเกี๊ยวน้ำเสฉวนเจ , เกี๊ยวน้ำไส้ผักสไตล์เสฉวน , เต้าหู้เทวดาเห็ดมอเรลผัดน้ำมันหอยเจ เป็นต้น แน่นอนว่านี่คือแคมเปญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านอาหารได้อย่างดี

8.อิ่มบุญอิ่มใจ คืนกำไรสู่สังคม

ในเทศกาลกินเจปีนี้มีอีกแคมเปญที่หลายแบรนด์น่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้เป็นเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจได้อย่างดี ที่สำคัญเป็นการคืนกำไรสู่สังคมที่ใช้ช่วงเทศกาลกินเจมาเป็นจุดขาย ยกตัวอย่าง แลคตาซอยที่เปิดตัวแคมเปญ “กินเจ Enjoy กับแลคตาซอยสูตรเจ” ด้วยการบริจาคเซตผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองแลคตาซอยสูตรเจ ให้กับโรงเจและมูลนิธิ 8 แห่ง ซึ่งลูกค้าเองสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการซื้อเซตบริจาคที่สินค้าทั้งหมดจะนำส่งถึงมูลนิธิต่างๆ หลังเทศกาลกินเจ ก็ถือเป็นอีกแคมเปญการกุศลที่น่าสนใจมาก

9. J – licious เจต่อใจ

ช่วงเทศกาลต้องยอมรับว่าเป็นเวลาแห่งความพิเศษดังนั้นแคมเปญที่สร้างบรรยากาศให้คนคึกคักคล้อยตาม ก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจได้มากขึ้น ยกตัวอย่างไอคอนสยามที่เทศกาลกินเจปีนี้ ได้จัดงาน “J–licious เจต่อใจ” ที่รวมเอาร้านอร่อยระดับตำนานมาจัดแสดงในพื้นที่ห้าง เชื่อได้เลยว่าจะดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการได้อย่างมาก เป็นผลดีต่อการสร้างยอดขายที่ไม่ใช่แค่อาหารเจแต่ยังดีในแง่ของความคึกคักของร้านค้าอื่นๆ อีกด้วย

แคมเปญการตลาดในแต่ละเทศกาลคือกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดีต้องคำนึงถึงอีกหลายปัจจัยเสี่ยงในยุคนี้เช่นกำลังซื้อของลูกค้า รวมถึงต้นทุนด้านการตลาดที่อาจสูงขึ้น สำคัญสุดคือธุรกิจต้องเน้นที่คุณภาพสินค้าและบริการในทุกช่วงเวลาไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นยอดชายตามเทศกาลเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/47O7QUV , https://bit.ly/4dpTcEC , https://bit.ly/47OysFb , https://bit.ly/3Bm4Mn1 , https://bit.ly/3ZJl0AB , https://bit.ly/4drhj5C , https://bit.ly/4dtloXg , https://bit.ly/3XZpf9T , https://bit.ly/3Nc0zVj

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

• อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
• อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
• รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
• รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

---

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

• เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
• ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
• มอบหมายงานและติดตามงาน
• อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

• ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
• ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
• การปฏิบัติงาน
• เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

• การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
• การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
• การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
• การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

• การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
• สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
• กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
• มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

• แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
• แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

• รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
• ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
• ปรับปรุงแก้ไข
• พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

• การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)