“ยูโรเปี้ยนฟู้ด” อาณาจักรขนมทานเล่น รายได้มากกว่าพันล้าน
คนที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองได้จำเป็นต้องมีหัวคิดทางการตลาดที่มองการณ์ไกล กล้าคิด กล้าลงมือทำ ยิ่งถ้าเริ่มทำคนแรกจะกลายเป็นผู้นำและเมื่อมีคนอื่นเริ่มทำตาม จึงค่อยพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปจนไม่ว่าจะมีคู่แข่งสักแค่ไหนก็ก้าวตามเราไม่ทัน ในธุรกิจขนมขบเคี้ยวที่มีมูลค่าการตลาดกว่า 37,500 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก
และ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่ามีเจ้าใหญ่แบรนด์ดังเกิดขึ้นในตลาดมากมาย แต่สำหรับอาณาจักรขนมตัวจริงเสียงจริงต้องยกให้ “ยูโรเปี้ยนฟู้ด” ที่ไม่น่าเชื่อว่าคือธุรกิจที่เริ่มจากแนวคิดของนักศึกษาที่ยังเรียนอยู่ปี 4 และเป็นธุรกิจที่มีไอเดียกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก
อาณาจักรขนมที่เริ่มต้นจากนักศึกษาปี 4
ภาพจาก https://bit.ly/3GmJdB0
ยูโรเปี้ยนฟู้ดก่อตั้งขึ้นโดยคุณ สมชาย เวชากรที่ขณะนั้นยังเป็นแค่นักศึกษาชั้นปีที่ 4 แต่กลับมองเห็นโอกาสว่าขนมทานเล่นในประเทศไทยยังเติบโตได้อีกมาก ในสมัยนั้นบริษัทยักษ์ใหญ่ยังไม่เปิดตัวมากมายเหมือนตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นลักณะของอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และคงจะเป็นเรื่องดีถ้ามีการนำเครื่องจักรต่างประเทศมาช่วยในการผลิตสินค้าต่างๆ
แน่นอนว่าสินค้าต้องเน้นที่ขนมทานเล่นต่างๆ เพราะมีความต้องการของลูกค้าที่ต่อเนื่องไม่ว่ายุคไหนสมัยใดก็ยังขายได้ขายดี ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัดขึ้นในปี 2527 โดยสร้างโรงงานแห่งแรกขึ้นที่อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการบนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ขยายโรงงานโดยลงทุนในการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรที่ทันสมัยในเขตอุตสาหกรรม โซน3 จังหวัดปราจีนบุรี
โดยมุ่งมั่นที่จะผลิตขนมที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และด้วยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการผลิต จึงทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางอาหาร ความสะอาด และความอร่อย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ยูโรเปี้ยนฟู้ดส์ เป็นเจ้าของสินค้าอะไรบ้าง?
ภาพจาก https://eurofood.co.th/
จากจุดเริ่มต้นในปี 2527 ที่ก่อตั้งบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีก่อนที่จะ ขยายโรงงานไปที่ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี บนที่ดิน 434 ไร่ ในปี 2538 แต่ภาพจำของคนส่วนใหญ่อาจนึกถึงสินค้าอย่างยูโรเค้ก แต่ที่จริงขนมแบรนด์แรก ที่บริษัทผลิตขายคือ “ปักกิ่ง” แบรนด์ต่อมาคือ “ปีโป้” และ “ยูโร่เค้ก” ตามลำดับ
ความสำเร็จของธุรกิจถือว่าเติบโตมาเป็นลำดับและได้นำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน)ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายขนมรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของแบรนด์ขนมชื่อดังมากมาย
และทุกแบรนด์จะมี สัญลักษณ์โลโก้สีแดง“EURO” ติดอยู่บนแพ็กเกจจิงของขนม ไม่ว่าจะเป็น เยลลี่ ตรา ปีโป้ , ขนมเค้ก ตรา ยูโร่เค้ก , เวเฟอร์ ตรา ปักกิ่ง , ขนมพายสอดไส้ครีม ตรา ยูโร่ ช็อกโกพาย , เค้กสอดไส้ครีม ตรา เอลเซ่ , เวเฟอร์สอดไส้ครีม ตรา กัสเซ็น, ครีโก้ และโอโจ้ , มาร์ชเมลโล่ ตรา ไมล์ดี้ , ลูกอม ตรา ฮิตโต้ , หมากฝรั่ง ตรา บิ๊กบลูม เป็นต้น
ธุรกิจขนมทานเล่นที่สร้างรายได้กว่า 4 พันล้านบาท
ภาพจาก https://eurofood.co.th/
ความสำเร็จของบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) ถือเป็นต้นแบบที่คนต้องการสร้างธุรกิจควรศึกษา ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ชัดเจน วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่องแม้จะเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนหรือมีปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19 แต่บริษัทก็ยังคงมีรายได้จากสินค้าหลากหลายประเภท ที่สำคัญแบรนด์สินค้าแต่ชนิดก็ล้วนแต่เป็นสินค้าที่คนจำได้ โดยในปี 2562 มีรายได้ 3,999 ล้านบาท กำไร 879 ล้านบาท ต่อเนื่องในปี
2563 บริษัทก็ยังคงสร้างรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน มีรายได้ 4,565 ล้านบาท กำไร 1,204 ล้านบาท และยังมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในกลุ่มผู้นำ และคาดว่าในปี 2565 นี้สัดส่วนการตลาดของ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นพร้อมการแตกไลน์สินค้าที่น่าสนใจต่างๆ
เคล็ดลับความสำเร็จของยูโรเปี้ยนฟู้ดที่นำไปสู่ธุรกิจพันล้าน
แน่นอนว่าเรื่องการตลาดคือสิ่งที่สำคัญและมีส่วนทำให้ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) เติบโตตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยมีกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจเช่น
1.สร้างแบรนด์ที่มี Story
ภาพจาก https://bit.ly/38LCpAN
โดยสินค้าแต่ละแบรนด์ของยูโรเปี้ยนฟู้ดจะมี Story เช่น เยลลี่ปีโป้ที่เกิดจากแนวคิดต้องการลดความยุ่งยากของคนที่ต้องลำบากในการทำเยลลี่ทานเอง จึงได้สร้างสินค้าที่เป็นเยลลี่แบบพกพา แช่เย็นได้ รับประทานง่าย หรือ สินค้าอย่างยูโรเค้กที่มาจากแนวคิดในยุคที่วิถีชีวิตคนไทยเร่งรีบ รถติดบนถนน ไม่มีเวลาหาของกิน ก็กลายมาเป็นสินค้าอย่างยูโรเค้กที่พกพาไปได้ทุกที่อิ่มอร่อยได้ทุกเวลา เป็นต้น
2. การตลาดแบบ Music Marketing
ภาพจาก https://bit.ly/38LCpAN
นอกจากเรื่อง Story ของแบรนด์ต่างๆ อีกหนึ่งการตลาดขั้นเทพคือ Music Marketing ซึ่งสังเกตว่าแบรนด์สินค้าหลายชนิดจะมีเพลงโฆษณาของตัวเอง ที่สร้างการรับรู้ จดจำ และนึกถึงได้ทันที เช่น เพลงโฆษณาของ ปักกิ่ง ที่ร้องว่า “
“คึกคัก คึกคัก กับปักกิ่ง หวานหวาน มันส์มันส์ อารมณ์เดียวกัน กินได้ทุกวัน หวานมันส์เหลือเฟือ เอ่าเชื่อมั้ย ปักกิ่ง!” หรือสินค้าอย่างปีโป้ที่มีเพลงประจำว่า “ปีปีโป้ ปะปะปีปีโป้ ขนมเยลลี่ ปีโป้ เพื่อนแท้ทุกอารมณ์” รวมถึงยูโรเค้กก็มีเพลงดังของตัวเองเช่น”ไม่ว่าเวลาไหน สะดวกอร่อยได้ทุกที่ ไม่ว่าเวลาไหน ก็อิ่มอร่อยทุกเวลา ยูโร่ คุณจะทำอะไรจะไปที่ไหน พกยูโร่ไว้ คุณจะทำอะไรจะไปที่ไหน พกยูโร่ไว้ สะดวกทุกที่ทุกเวลา ” เป็นต้น
3.การแตกไลน์สินค้าให้ทันยุคสมัย
ภาพจาก https://eurofood.co.th/
และเพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของลูกค้าในทุกยุคสมัย บริษัทจึงมีแนวคิดในการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น สินค้าปีโป้ที่จับมือกับ M-150 ออกสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น คือ “ปีโป้ กลิ่น M-150” รวมถึงการพัฒนาสินค้าเป็นปีโป้โยเกิร์ต ที่สร้างจุดเด่นให้ตลาดเยลลี่ และหากจำกันได้ครั้งหนึ่งเคยมีกระแส #saveปีโป้ม่วง ที่ฮิตติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ก็ล้วนแต่เป็นการตลาดที่ทำให้สินค้าอยู่ในกระแสและเป็นที่รู้จักของคนไทยแบบไม่เคยถูกลืมเลือน
สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจของตัวเองสามารถใช้ความสำเร็จของยูโรเปี้ยนฟู้ดเป็นกรณีศึกษา ที่ต้องเริ่มจากการมองหาไอเดียสำหรับการทำธุรกิจและเมื่อคิดได้ให้ลงมือทำ อย่าคิดว่าเราไม่มีเงินทุน สิ่งสำคัญขอให้มีความพยายามไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเงินลงทุนมากแต่ต้องมีวิธีคิดและกลยุทธ์การตลาดที่ดีเป็นตัวช่วย จากธุรกิจเล็กๆ จะสามารถขยายกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/39M3Vy1 , https://bit.ly/39UbXVq , https://bit.ly/3yXxeIj , https://bit.ly/3wKU1G7 , https://bit.ly/3wJz26t
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3t5BamC